ในห้องเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากโต๊ะอ่านหนังสือส่องกระทบกองตำรากฎหมายกองโต
พาฝันนั่งกอดเข่าบนเก้าอี้ มองหน้าหนังสือแต่ใจลอยไปไกล
อย่าคิดถึงเขา…อย่าคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงเย็นวันนั้น
ริมฝีปากเธอเม้มแน่น ใบหน้าเผลอร้อนขึ้นเมื่อนึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ภาคินฝากไว้ตรงริมฝีปาก
“ไม่…อย่าคิดถึงสิพาฝัน!”
เธอส่ายหัวแรง ๆ พยายามดึงสติกลับมา
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้น ติ๊ง!!!!
สายตา พาฝัน เหลือบไปเห็นหน้าจอสว่างวาบ ข้อความจาก ภาคิน โผล่ขึ้นมา
>//ทำไมต้องใส่ใจขนาดนี้ด้วย…ถ้าฉันเผลอใจขึ้นมาล่ะ?
พาฝันวางโทรศัพท์คว่ำลงกับโต๊ะอย่างแรง กลั้นหายใจยาว
“ไม่หรอก…ฉันไม่ควรตอบ…ฉันไม่ควร…”
แต่ในหัวกลับวนเวียนกับคำถามง่าย ๆ แค่สองคำ
เขาจะจริงใจกับฉัน…จริง ๆ ใช่ไหม?
--ในรถส่วนตัวของภาคิน--
เสียงไฟล์เอกสารวางลงบนเบาะข้าง ภาคินนั่งพิงเบาะหนังอย่างนิ่งขรึม กำลังมองออกไปนอกกระจกด้วยสายตาที่แน่วแน่
ก้อง ผู้ช่วยส่วนตัว เอ่ยขึ้นอย่างประหม่า
“คุณคิน…ผมไม่แน่ใจว่าการย้ายไปอยู่คอนโดเดียวกับคุณพาฝัน มัน…จะไม่ชัดเจนเกินไปเหรอครับ?”
ภาคินเหลือบตามองสั้น ๆ ก่อนยกยิ้มมุมปาก
“ก็ให้มันชัดเจนไปเลยสิ ก้อง”
“แต่ว่า…” ก้องลังเล
“คุณพาฝันอาจมองว่าคุณ…รุกเกินไป”
ภาคินหัวเราะเบา ๆ แต่แฝงความหนักแน่น
“ผมไม่ได้จะบุกรุกชีวิตเธอ…แต่ผมจะไม่ยอมเป็นแค่เงาที่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ อีกแล้ว”
เขาหยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมา เปิดดูรายละเอียดห้องที่เพิ่งจัดการซื้อ
“แค่ไม่กี่ห้องจากที่เธออยู่…ไม่ใกล้จนเกินไป
แต่ก็ใกล้พอที่เธอจะรู้ ว่าผมอยู่ข้าง ๆ”
ก้องนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนถามเสียงเบา
“คุณภาคิน…คุณมั่นใจแล้วจริง ๆ เหรอครับ ว่าจะเดิมพันขนาดนี้กับคุณพาฝัน”
ภาคินปิดแฟ้มลง สบตาผู้ช่วยด้วยแววตามุ่งมั่น
“ผมไม่เรียกมันว่าเดิมพันหรอกก้อง…ผมเรียกมันว่า การตัดสินใจ ผมเห็นเธอเจ็บมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเธอจะยอมให้ผมเข้ามา หรือยังปิดใจอยู่ก็ตาม”
เขายกมุมปากเล็กน้อย พลางพึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง
“หนีผมไม่ได้หรอกพาฝัน…เพราะผมจะยืนอยู่ข้าง ๆ คุณเสมอ”
ก้องมองเจ้านายเงียบ ๆ ก่อนถอนหายใจ “งั้นผมจะจัดการเรื่องย้ายห้องให้เรียบร้อยครับ”
“ดี” ภาคินตอบสั้น ๆ แต่ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว