CHAOTIC LOVE : 00

855 Words
22:25 น. @Sosay Pub “มึง ไปหน้าเวทีกัน” “ไปก่อนเลย” ฉันตะเบ็งเสียงไม่แตกต่าง แข่งกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มอัดหู พลางละสายตาจากหน้าจอมือถือ ช้อนขึ้นมองสาวสวยรุ่นราวคราวเดียวกันที่ยืนอยู่ข้างๆ ไหล่เล็กของคนเอ่ยชวนไหวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะโยกย้ายร่างกายพลิ้วไหวไปสมทบกับเดอะแก๊งด้านหน้าเวที เธอคือ ลูกน้ำ เพื่อนร่วมคณะและสมาชิกคนสำคัญประจำกลุ่มสายปาร์ตี้ จากนั้นฉันหันกลับมาที่แก้วบนโต๊ะซึ่งมีแอลกอฮอล์เหลือไม่ถึงครึ่ง แล้วยกมันขึ้นกรอกปากจนหมดในคราวเดียว ก่อนจะวางคืนตำแหน่งเดิมพร้อมกระโดดลงจากเก้าอี้ตัวสูงมายืนบนพื้น “มาทำอะไรกันเยอะแยะวะ” หมดเวลาไปเกือบห้านาทีเลย กว่าฉันจะพาร่างกายฝ่ากลางฝูงชนมากมายออกมาอยู่หน้าผับได้สำเร็จ นี่ขนาดอยู่แค่ช่วงกลางร้านนะ…ยังรู้สึกเหมือนจะขาดใจ ฉันขยับมายืนในจุดที่ห่างจากประตูเข้าออกพอสมควร ขณะสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ยามค่ำคืนเข้าไปส่วนหนึ่ง แล้วยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาสแกนหน้าปลดล็อกเพื่อเช็กข้อความที่ส่งไป “เยส!...” ฉันกระทุ้งข้อศอกซ้ายเข้าข้างเอวด้วยความดีใจ แต่ไม่นานริมฝีปากที่หงายอยู่ก็ต้องคว่ำลง เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าทุกการนัดเจอก็เป็นแบบนี้ ทว่า…ไม่เคยได้เห็นหน้าเขาเลย ถ้านับคร่าวๆ ก็...ครั้งยี่สิบในรอบสามเดือนได้แล้วมั่ง ความพยายามของฉันนี่มันเลิศที่สุด ป๊ากับม้าต้องภูมิใจแน่ และฉันควรเก็บไว้ดีใจตอนได้เห็นเขามายืนต่อหน้าดีกว่า จะได้ไม่เก้อเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาที่ฉันกำลังพูดถึงก็คือ คุณพีรกานต์ ภูริศิรินันท์ อายุยี่สิบเจ็ด ทายาทคนเดียวของ พีพีเอ็น บริษัทการเงินเอกชนชื่อดัง แน่นอนว่าเรื่องความหล่อคือที่สุด แถมยังรวยมาก เพอร์เฟกต์ขนาดนี้ก็ต้องเป็นที่หมายปองของสาวน้อย สาวใหญ่ทั้งหลายอยู่แล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เพลินตา คนนี้ด้วย ฉันได้เจอเขาครั้งแรกที่งานเลี้ยงของกลุ่มสามหนุ่มฮอตแห่งมหาวิทยาลัย A เพราะเพื่อนรักอย่าง มิณ มิณาริน สาวน้อยผู้อาภัพครอบครัวแต่ไม่อาภัพรัก มันสอยเดือนหนึ่งดวงแห่งวิศวะ อย่างรุ่นพี่ ยูตะ ไปครอบครองได้สำเร็จ เลยทำให้ฉันได้เจอและรู้จักกับบุคคลรอบตัวเขาด้วย แต่หลังจากวันนั้น ฉันไม่เคยได้เฉียดเข้าใกล้เขาอีกเลย มิณบอกว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก เข้าถึงยากและความหยิ่งคือติดอันดับสูงสุด อีกนิดก็ซุปตาร์ท่านหนึ่งเลยแหละ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ฉันพยายามสืบเสาะและค้นหาข้อมูลของ เอ่อ…จะเรียกเขาว่าอะไรดีล่ะ ซึ่งมิณ เรียกเขาว่า เฮียฟิวส์ ประเด็นคือ ข้อมูลของเขามีน้อย…น้อยแบบน้อยมากๆ จนฉันแทบไม่รู้อะไรเลย นอกจากชื่อ นามสกุล อายุ แล้วก็ธุรกิจของครอบครัวเขา สุดท้ายทำได้แค่ DM ผ่าน ig ไปเท่านั้น ดีที่เขาไม่บล็อก... ไม่รับแอด ไม่มีการตอบกลับ แต่อ่าน บางทีฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าเขาคิดอะไรอยู่ และตอนนี้ฉันยังคงชะเง้อมองเข้าไปข้างในทุกครั้งที่ประตูเปิด มีความหวังเล็กๆ ว่าสักคนที่เดินออกมาจะเป็นเขา…แต่จนแล้วจนเล่า จนเวลาล่วงเลยไปเกือบหนึ่งชั่วโมง “ไม่มาอีกละ กินแห้วอีกแล้วสินะ” ลมหายใจถูกพ่นทิ้งอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ไม่เป็นไร…ยังมีครั้งหน้า วันนี้เขาอาจจะไม่ว่าง แบบนี้แหละ ถึงเรียกว่าท้าทายของจริง กลับไปดื่มย้อมใจดีกว่า… แต่จังหวะที่ฉันทิ้งแรงครึ่งตัวช่วงบนเพื่อดันประตูเข้า มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาดึงประตูหนี หวืดดดด~~ ส่งผลให้ด้านหน้าของฉันตอนนี้เป็นอากาศที่แสนบางเบา แน่นอนว่ามันไม่สามารถรับร่างกายฉันไว้ได้ ตุบ!!!…โอ๊ย!! ฉันร้องโอดครวญในตอนที่หน้าคว่ำลงไปนอนกับพื้นทางเดินอย่างหมดสภาพ เปลือกตาปิดลงหลายส่วนเพื่อข่มความรู้สึกทั้งเจ็บทั้งอายเอาไว้ เพราะมันดันเป็นจังหวะเดียวกับวงดนตรีบนเวทีหยุดเล่นเตรียมพักเบรกพอดิบพอดี เสียงร่างกายกระแทกลงพื้นของฉันเลยเรียกความสนใจจากผู้คนรอบๆ ได้เป็นอย่างดี แต่โชคยังดีที่วันนี้ใส่กางเกงยีน ไม่งั้นบันเทิงกว่านี้แน่ ขอวาร์ปไปจากตรงนี้เลยได้ไหม… “ไอ้ห่า มึงไม่รับล่ะ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นก่อนจะตามด้วยเสียงอีกคนที่เป็นต้นเหตุแห่งความอับอายในครั้งนี้ “ไม่ใช่หน้าที่” ไม่ใช่หน้าที่...? นี่คือคำตอบของสุภาพบุรุษ...? บ้าเอ๊ย! สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ฉันพุ่งจนแทบทะลุกราฟ รีบดีดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วหันไปตะคอกใส่หน้าผู้ชายไร้มารยาทคนนั้นทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD