ฉันเห็นสายตาของพี่นทีที่มองมายังฉัน ฉันเข้าใจความหมายมันได้ชัดเจน พี่นทีไม่ได้อยากจะมาหาหรือมาเยี่ยมฉันเลยสักนิด คนที่พี่นทีอยากจะอยู่ด้วยคงมีแต่ปิ่นมุก ถ้าแม่พี่นทีไม่บังคับให้เขาอยู่ ป่านนี้พี่นทีคงอยู่กับปิ่น ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ หัวใจของฉันมันก็พังไม่เป็นท่า มันเจ็บเจียนตาย ยิ่งเห็นสายตาอาฆาตแค้นที่ส่งมา ฉันไม่อยากจะมองให้ทุกข์ใจ โทษใครไม่ได้มันผิดที่ฉันเลือกจะเป็นอย่างนี้ ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่มีใจ ฉันก็ยังจะฝืนรั้งเขาไว้กับตัว ฉันจะพยายามอดทนให้ถึงที่สุดเพื่อช่วยพี่นที และช่วยแม่พี่นทีให้ทุกอย่างมันคลี่คลายฉันพร้อมเดินจากไป
"ฉันไม่อยากเสียเวลามานอนเฝ้าเธอหรอกนะ ฉันต้องรีบไปหาคนที่ฉันรัก ป่านนี้คงนั่งร้องไห้รอฉันอยู่แน่ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสำออย ฉันคงได้คุยกับปิ่นเรียบร้อย เพราะเธอคือตัวปัญหาทุกเรื่อง รู้ไว้ว่าฉันเกลียดเธอมากม่านไหม" สายตาและคำพูดของพี่นทียิ่งตอกย้ำความรู้สึกของฉันให้ร้าวราน อาการไข้กำลังจะกลับมาเล่นงานฉัน ฉันเริ่มหนักหัวมากขึ้น แขนขาเริ่มไม่มีเรี่ยวแรง ต้องมานอนฟังคำกล่าวหาที่ไม่จริง ฉันรู้ว่าฉันผิดที่รักฝังใจกับพี่นทีมากเกินไป วันไหนเจ็บจนทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหว ฉันจะทำใจจากไปเอง พี่นทียังยืนจ้องหน้าอยู่อย่างนั้น ฉันหลับตาและล้มตัวนอน ฉันไม่อยากเห็นสายตาเชือดเฉือนของพี่นที
"นอนหลับได้สบายแล้วนี่ ท่าทางจะแกล้งป่วยการเมืองจริง งั้นก็อยู่ที่นี่ไปคนเดียวแล้วกัน ฉันต้องรีบไปหาคนรักของฉัน" พี่นทีพูดจบก็เดินหันหลังเปิดประตูห้องออกไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองแม้แต่นิด ฉันแอบลืมตาดูพี่นที ฉันทำได้เพียงแต่มองตามอยู่ข้างหลังพี่นทีมาตลอด ไม่เคยมีโอกาสยืนอยู่เคียงข้างเลย
"เมื่อไหร่พี่จะมองเห็นความรักของฉันที่มีต่อพี่" ฉันได้แต่พูดพร่ำเพ้ออยู่คนเดียว น้ำตาหยดแล้วหยดเล่า มันไม่เคยแห้งเหือดไปเลย นับวันพี่นทีที่แสนใจดีและอบอุ่นของฉันจะเลือนลางหายออกไปไกลแสนไกล ฉันต้องทำยังไง ฉันนอนสะอื้นไห้อยู่บนเตียงเพียงลำพัง มันทั้งเหงาเปล่าเปลี่ยวถูกทิ้งไว้กลางทาง กับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัย ฉันร้องไห้จนเหนื่อยอ่อน และเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ฉันสะดุ้งตื่นตอนที่พยาบาลมาปลุกเพื่อเอายาลดไข้ให้ และฉันก็หลับจนถึงตอนเช้าเพราะฤทธิ์ยา จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเดินเข้า และนั่งอยู่ข้างเตียง
"ไหมลูกเป็นยังไงบ้างคนเก่ง อาการดีขึ้นหรือยัง แล้วพี่นทีเขาไปไหนแล้วล่ะ ตั้งแต่แม่เข้ามาก็ไม่เห็นเลย ทำไมหนูถึงได้อยู่คนเดียว" ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็เห็นแม่ของฉันนั่งอยู่ที่ข้างเตียง และมีแม่ของพี่นทีนั่งอยู่ที่โซฟารับแขก พี่นทีหายออกไปตั้งแต่เมื่อคืน จนป่านนี้ฉันก็ไม่เห็นพี่นทีกลับเข้ามาอีก คงอยู่กับเพื่อนของฉันทั้งคืน มันเหมือนมีมีดเป็นร้อยเล่มมากรีดตรงกลางใจ ฉันทำได้แค่แก้ตัว เพื่อไม่ให้แม่ของฉันและแม่ของพี่นทีสงสัย
"ไหมรู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ ส่วนพี่นทีขออกไปกินเช้าข้างนอก พี่นทีบอกว่าข้าวแถวโรงพยาบาลไม่ค่อยอร่อยค่ะ" ฉันได้แต่ก้มหน้าตอบกลับแม่ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตา เพราะสิ่งที่พูดออกไปล้วนแต่โกหกเพื่อให้ทุกคนสบายใจ
"แล้วตาทีบอกไหมหนูไหมว่าจะกลับเข้ามาตอนไหน" แม่ของพี่นทีถามออกมาด้วยความสงสัย ฉันได้แต่อึกอักไม่รู้ตอบว่ายังไง
"ไหมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะคุณแม่ ไหมมัวแต่เบลอๆเลยไม่ได้ยินที่พี่นทีพูด" เสียงที่ตอบออกไปมันแผ่วเบา ตอบได้ไม่ต็มปาก
"งั้นเดี๋ยวแม่โทรถามพี่เขาดูก่อนนะ หนูพักไปก่อน" แม่ของพี่นทีพูดกับฉันเสร็จ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ปล่อยให้ฉันกับแม่นั่งคุยกันในห้องสองคน
"แล้วไหมล่ะกินอะไรหรือยัง มีใครเอาข้าวมาให้หนูหรือยังลูก" แม่เข้ามานั่งใกล้ๆฉันเอามือลูบที่ผมของฉันเบาๆ เหมือนเป็นการปลอบใจและถามด้วยความเป็นห่วง แม่ของฉันคงมองเห็นแววตาเศร้าๆที่มันปิดไม่มิด แต่ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น คงกลัวว่าฉันจะเสียใจ แม่คงพอจะดูออกว่าอะไรเป็นอะไร
"แม่ทำข้าวต้ม และซุปเห็ดกับข้าวโพดมาให้หนูทานซะหน่อยนะ จะได้รอคุณหมอมาตรวจ ถ้าดีขึ้นแล้วเราจะกลับไปอยู่บ้านเรากัน" น้ำตาฉันแทบจะไหลออกมา ฉันพยายามกลั้นเอาไว้
"เดี๋ยวตาทีกำลังจะเข้ามานะ หนูไหมรอคุณหมอมาตรวจใช่ไหม ถ้าหมอให้กลับบ้านได้ตาทีจะได้พาเรากลับบ้านกัน" ฉันหันไปมองหน้าแม่ แม่ของฉันพยักหน้าเข้าใจ และไม่ได้พูดอะไรต่อ แม่จัดการอาหารวางไว้โต๊ะเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้า เพื่อให้ฉันได้กินบำรุงกำลัง ฉันแทบทานอะไรไม่ลง เมื่อคืนมีไข้ดีที่มีพยาบาลเดินเข้ามาดูอาการทุกสองชั่วโมง คอยวัดไข้ตรวจชีพจรและเอายาลดมาไข้ให้ทาน ไม่งั้นอาการของฉันคงทรุดลง ตื่นมาเช้านี้ฉันไม่มีอาการตัวร้อนแล้ว เหลือเพียงร่างกายที่ยังอ่อนเพลีย เพราะนอนไม่ค่อยหลับ และกินอะไรไม่ค่อยลง พอฉันทานข้าวเสร็จคุณหมอก็เดินเข้ามาตรวจอาการ คุณหมอสั่งให้กลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน และให้รอจนกว่าน้ำเกลือจะหมด
"กว่าจะตาทีจะมาถึงน้ำเกลือของหนูไหมคงจะหมดพอดี เราเตรียมเก็บของแล้วรอตาทีมารับจะได้ไม่เสียเวลา" แม่ของพี่นทีช่วยกันกับแม่ของฉัน เก็บของบางส่วนเตรียมรอพี่นทีมารับ ฉันไม่รู้ว่านทีเต็มใจจะมารับหรือเปล่า เขาอาจจะยังอยู่กับปิ่นก็ได้ ถึงฉันจะเป็นเมีย แต่เป็นได้แค่ในนาม ฉันจะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามความรักของพวกเขาที่มีต่อกัน ผ่านไปนานหลายชั่วโมงจนพยาบาลเข้ามาถอดสายน้ำเกลือให้ และฉันได้เปลี่ยนจากชุดคนไข้เป็นชุดกลับบ้าน ฉันยังไม่เห็นวี่แววว่าพี่นทีจะมารับ
"นาฉันว่าเราพายัยไหมกลับกันเองจะดีกว่าไหม ตาทีอาจจะติดธุระอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามารับเราให้ยุ่งยาก ฉันบอกคนขับรถมารอหน้าโรงพยาบาลแล้ว" เมื่อเห็นว่ารอนานแล้ว แม่ของฉันจึงตัดสินใจว่าจะพาฉันกลับเอง
"รออีกแป็บหนึ่งสิ ฉันโทรถามลูกบอกว่าใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว รถมันติด" แม่ของพี่นทีรีบปฏิเสธข้อเสนอของแม่ฉัน และให้พวกเราอยู่รอ ผ่านไปครึ่งชั่วโมง คนที่เรานั่งรออยู่นานก็มาถึง พี่นทีแสดงใบหน้าบูดบึ้งอยู่แป็บหนึ่ง แต่พอหันมาเห็นหน้าแม่ของฉัน พี่นทีก็ปรับเป็นสีหน้าปกติและขอโทษแม่ของฉัน
"ผมต้องขอโทษคุณแม่นะครับที่ให้รอนาน พอดีผมไปทำธุระมานิดหน่อย ตอนวนรถกลับมารถมันติดมากผมเลยมาถึงช้าครับ" พี่นทียกมือไหว้ขอโทษแม่ของฉัน และไม่ลืมหันมองฉันและส่งสายตาดุให้เหมือนเดิม
"ไม่เป็นไรตาที เรากลับกันเลยไหมเดี๋ยวเย็นมากจะไม่ดี รถติดกว่าจะถึงบ้านแม่กลัวน้องจะเหนื่อยเกินไป แม่อยากให้น้องได้พัก จะได้ฟื้นตัวเร็วๆ ป่วยนานไม่ดีต้องรีบกลับไปเรียน" แม่ฉันไม่ได้ถือโทษโกรธพี่นที แต่ในน้ำเสียงและคำพูดฉันฟังออกว่า แม่ก็ตำหนิพี่นทีอยู่ในตัวเหมือนกัน และดูเหมือนพี่นทีจะรู้ตัว
"ผมขอออกไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและรับยาก่อนนะครับ" พี่นทีรีบออกไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและไปรับยาแทนฉัน อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม เป็นเทอมสุดท้ายของพี่นทีที่ต้องออกไปฝึกงาน พี่นทีคงเลือกฝึกที่บริษัทตัวเอง ส่วนฉันก็เหลืออีกหนึ่งปี เปิดแล้วฉันต้องกลับไปเผชิญหน้ากับปิ่นมุกเพื่อนของฉัน ฉันจะใช้โอกาสนี้เพื่อพูดคุยเรื่องของฉันกับพี่นที ไม่รู้ว่าปิ่นจะยังโกรธ และยอมพูดคุยเป็นเพื่อนกับฉันเหมือนเดิมหรือเปล่า หรือจะโกรธเกลียดแบบพี่นที
"ตาทีพาน้องขึ้นไปพักบนห้องก่อน น้องยังไม่หายดี ดูแลเมียตัวเองดีๆด้วย แล้วไม่ต้องออกไปไหน อย่าให้แม่รู้ ไม่งั้นแม่จะตัดทุกอย่างของแกออกให้เหลือแต่ตัว" ตอนนี้ฉันกลับมาถึงที่บ้านของพี่นที ตอนแรกฉันขออนุญาตแม่พี่นทีกลับไปพักที่บ้าน แต่แม่พี่นทีไม่ยอมให้เหตุผลว่าผัวเมียกันต้องอยู่ที่เดียวกัน ฉันเลยต้องกลับมาที่บ้านของพี่นที และแม่ของพี่นทีก็ยื่นคำขาดให้พี่นที ทำให้พี่นทีขัดไม่ได้ จึงต้องทำตามอย่างว่าง่ายประครองฉันขึ้นห้อง
"เพราะเธอคนเดียวเลยม่านไหมทำให้ฉันต้องวุ่นวายไปกับเธอออกไปไหนก็ไม่ได้ อย่าคิดว่าฉันจะยอมเป็นอย่างนี้ตลอดไป ฉันจะทำให้เธอตกอยู่ในสภาพเดียวกับฉัน" พอเข้าห้องได้พี่นทีก็รีบปล่อยมือที่ประครองฉันอยู่ และดีดตัวออกไปไกลจากฉัน และทำท่ารังเกลียดที่แตะต้องตัวฉัน แค่ไม่รักก็เจ็บมากแล้ว นี่พี่นทียังทำท่ารังเกลียดฉันขนาดนี้ ฉันจะทนอยู่ยังไงต่อไป เจ็บซ้ำๆแต่ไม่เคยถอดใจ ฉันเกลียดหัวใจที่ไม่รักดีของตัวเอง
"ขอโทษค่ะ" ฉันคงพูดได้แค่นี้ น้ำตามันกำลังจะไหลออกมาคลอรอบดวงตาอีกครั้ง เมื่อไหร่ฉันจะตัดใจได้สักที มันเจ็บเหลือเกิน หรือต้องเจ็บจนมันด้านชาและหัวใจตายด้านไปเองฉันถึงจะหยุดรักเขา และถอยออกไป ฉันขอเลือกเจ็บที่สุดให้มันถึงที่สุดของฉัน จนมันหมดขีดความอดทนอดกลัั้น เมื่อถึงวันนั้นฉันควรถอยได้สักที