3

1619 Words
ริมฝีปากหยักหนา ดวงตาสีกาแฟมีเสน่ห์ชวนลุ่มหลง แต่ขณะนี้ใบหน้าที่ทำให้สาวๆ ใจละลายกลับบึ้งตึงอย่างถึงที่สุด ในมือกำจดหมายของมารดาที่เขียนข้อความกระแทกใจเอาไว้แทบแหลกคามือ   ถึงคุณธรรมลูกรักของแม่ เมื่อลูกได้รับจดหมายฉบับนี้แล้ว แม่อยากให้ลูกอ่านมันจนจบ แม่คิดถึงลูกมากๆ คิดถึงเหลือเกิน นานหลายปีแล้วที่คุณไม่ยอมกลับมาบ้านของเรา คุณตากับคุณยายบ่นคิดถึงลูกทุกวัน ท่านร่างกายไม่ใคร่จะแข็งแรงนัก ท่านพูดเสมอว่าจะรอคุณกลับมา  พวกเราคาดหวังว่าลูกจะกลับมาทุกครั้งที่เป็นวันปีใหม่หรือไม่ก็เทศกาลต่างๆ ที่เป็นวันรวมญาติในครอบครัว แต่จนแล้วจนรอดลูกก็ไม่ยอมกลับมา ทั้งๆ ที่เรียนจบแล้ว ทุกคนจึงเริ่มหมดหวังว่าลูกจะกลับมาแล้วจริงๆ พ่อของลูกเองก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นแม่อยากให้ลูกรับรู้เอาไว้เพื่อจะได้ไม่ตกอกตกใจในอนาคตข้างหน้าว่าพ่อของลูกได้ตกลงกับทุกๆ คนแล้วว่า หากลูกไม่กลับมาภายในเดือนนี้ เราจะยกทรัพย์สมบัติให้ภัทรวนันต์เป็นผู้สืบทอดทั้งหมด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลูกแทบจะตัดขาดจากครอบครัวไปแบบนี้ แม่เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตากับยายแม้จะมีหวัง แต่ตอนนี้ก็เริ่มจะหมดหวัง แม่กับพ่อจะขัดตากับยายของลูกก็ไม่ได้ ภัทรวนันต์เติบโตมากขึ้น อีกไม่นานคงจะเรียนจบ เราคิดว่าจะหาผู้ชายดีๆ ให้น้องแต่งงาน จะได้สืบทอดกิจการต่อไป น้องเป็นคนน่ารัก ดูแลพ่อแม่และตากับยายตลอดระยะเวลาที่คุณไม่อยู่ แม่จึงจะแจ้งข่าวให้คุณรู้แค่นี้นะลูก จาก แม่จันทร์ระวีที่รักลูกมากที่สุด   คุณธรรมฉีกจดหมายในมือจนกระจุย ยัยเด็กเหลือขอ หน้าตาแสนอัปลักษณ์นั่นคงออดอ้อนออเซาะจนพ่อแม่ ตายายของเขาหลงใหลได้ปลื้มล่ะสิ ถึงเวลาแล้วที่เขาจะทวงทุกอย่างกลับคืน เขาไม่มีวันยอมแน่นอน หัวเด็ดตีนขาดให้ตายยังไงก็ไม่ยอม ทรัพย์สมบัติของตระกูลบารมีจะต้องเป็นของทายาทเพียงคนเดียวอย่างเขา ไม่ใช่เด็กกำพร้าหาความสวยไม่ได้ เขายังจำภาพเด็กคนนั้นได้ดี ทั้งผอมซูบซีด สิวเขรอะ แล้วก็ทำตัวน่ารำคาญ เสียงกริ่งหน้าห้องพักทำให้คุณธรรมหลุดจากภวังค์ความคิด เขาส่องดูว่าใคร เป็นเพื่อนสาวของเขานั่นเอง เพียงแค่เห็นหน้าชญาณิศา เขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ในเมื่อบิดามารดาบังคับให้เขาต้องแต่งงานกับยัยเด็กน่าเกลียดนั่น เขาจะพาผู้หญิงของเขาไปเปิดตัว แบบนี้ท่านจะบังคับเขาอีกก็ให้มันรู้ไป “สวัสดีค่ะคุณ วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอคะ” ชญาณิศาหรือชื่อเล่นว่าเดียร์ทักชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ไม่ครับเดียร์ ผมจะกลับประเทศไทยเร็วๆ นี้เลยเตรียมตัวเก็บของอยู่น่ะครับ” คุณธรรมเบี่ยงหลบเพื่อเชิญหญิงสาวเข้ามาในห้อง “คุณจะกลับประเทศไทยแล้วเหรอคะ ไหนคุณบอกว่าจะไม่กลับไปที่นั่นไงคะ เดียร์ชวนคุณตั้งหลายครั้ง คุณปฏิเสธท่าเดียว แล้วคราวนี้ทำไมถึงได้เปลี่ยนใจขึ้นมาได้ล่ะ” ชญาณิศาขมวดคิ้วมองชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ “เดียร์ คุณจะเดินทางกลับประเทศไทยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ งั้นผมมีเรื่องจะรบกวนคุณหน่อยได้ไหมครับ” “เรื่องอะไรคะ บอกมาได้เลย ถ้าทำได้เดียร์จะช่วยคุณ” “คุณช่วยเป็นแฟนผมหน่อยนะครับ” “คะ” ชญาณิศาอุทานด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเผยยิ้มกว้างพยักหน้ารับยิ้มๆ แต่ยังสงสัยจึงเอ่ยถามออกไป “ได้สิคะ แต่คุณต้องบอกเดียร์มาก่อนว่าเพราะอะไร” ชายหนุ่มจึงเล่าทุกอย่างให้เพื่อนสาวฟัง ชญาณิศายินดีที่จะช่วยด้วยความเต็มใจ เมื่อเข้าใจว่าเด็กสาวที่ชื่อภัทรวนันต์นั่นเป็นคนไม่ดี...   คุณธรรมนั่งเงียบมาตลอดทางในขณะเดินทางจากสนามบินมายังไร่บารมี นานหลายปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอน ที่นี่ดูเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม ไร่บารมีเลี้ยงโคเนื้อและโคนม แกะ และแพะส่งออก ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชผลทางการเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลายพันไร่ อาณาบริเวณกว้างขวางมีคนงานมากมายหลายชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่ “ไร่ของคุณกว้างขวางใหญ่โตจังเลยค่ะ” ชญาณิศาหันมาพูดกับชายหนุ่มข้างกายอย่างตื่นเต้น นั่นทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง “เดียร์ว่าอะไรนะ ผมไม่ทันฟัง” “เดียร์บอกว่าไร่ของครอบครัวคุณกว้างใหญ่จังค่ะ แถมยังร่มรื่น อากาศดีมากๆ ด้วย ไร่ของเดียร์ยังไม่กว้างใหญ่เท่านี้เลย” ชญาณิศาพูดยิ้มๆ เธอเองอยู่จังหวัดในภูมิภาคเดียวกับเขา และรู้จักกับเขาตอนไปเรียนต่อต่างประเทศ “ครับ ผมเองก็ไม่ได้กลับมาที่นี่นานมากแล้ว ยังไงผมต้องขอบคุณนะเดียร์ที่คุณยอมช่วยผม” “ขอบคงขอบคุณอะไรกันล่ะคะคุณ เดียร์น่ะ อยากมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาเหมือนกัน กะว่าจะขอคุณอยู่สักสามสี่เดือนเลยค่ะ ไม่รู้จะโดนไล่หรือเปล่า” ชญาณิศาพูดติดตลก “จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ครับเดียร์ ผมอนุญาต” คุณธรรมกล่าวอนุญาตจากใจจริง เขาเองอยากจะให้ทุกคนล้มเลิกความตั้งใจที่จะจับเขาแต่งงานกับยัยเด็กอัปลักษณ์นั่นก่อน เขาถึงจะปล่อยชญาณิศากลับบ้านของเธอ รถโดยสารแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ของไร่บารมี คุณธรรมจ่ายค่าโดยสารรถ คนขับรถจึงขนสัมภาระของผู้โดยสารลงมาจากรถ ก่อนจะแล่นรถออกไปยังทางเดิมที่ขับเข้ามา “บ้านของคุณใหญ่โตจังเลยค่ะ แถมสวยเสียด้วย” ชญาณิศาคล้องแขนกับแขนแกร่งของชายหนุ่ม เขาก้มลงมายิ้มให้คนข้างกาย “ตาคุณ” เสียงของมารดาทำให้คุณธรรมเงยหน้าขึ้นมา แวบแรกที่สบตากับท่าน เขาเห็นความรักความห่วงใยและความคิดถึงจากดวงตาของท่าน ร่างสูงรีบเดินเข้าไปหามารดา กอดรัดท่านแนบอก “คุณแม่ สบายดีนะครับ” คุณธรรมเอ่ยถามมารดาหลังจากผละออกจากอ้อมแขนของท่านเล็กน้อย แต่ยังกอดท่านเอาไว้หลวมๆ “แม่สบายดี รู้ไหมว่าแม่คิดถึงลูกแค่ไหน หนีไปเรียนไม่ยอมกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ้างเลย” จันทร์ระวีพูดแล้วน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความคิดถึงลูกชายคนเดียวสุดหัวใจ “ที่กลับมา คงไม่ได้คิดถึงเราหรอกมั้งคุณ แค่คิดว่าจะมีคนแย่งสมบัติ” น้ำเสียงของบิดาทำให้คุณธรรมหน้าตึงทันควัน “พ่อ/กรคะ” คุณธรรมและจันทร์ระวีอุทานพร้อมกัน “กลับมาก็ดีแล้ว จะได้มาช่วยพัฒนาไร่ของเรา แกต้องเป็นคนสืบทอดกิจการทั้งหมด จะอยู่ต่างประเทศไปจนตายหรือไง” คุณากรเสียงเข้มใส่ลูกชาย ไม่คิดเลยว่าแผนการนี้จะสำเร็จ ตอนที่เขาและภรรยาคิดว่าจะเขียนจดหมายยื่นคำขาดแบบนี้ให้เจ้าลูกชาย ก็กลัวอีกฝ่ายจะไม่ยอมกลับมาจริงๆ “ผมต้องกลับมาอยู่แล้วสิครับ เพราะผมเป็นทายาทเพียงคนเดียวของไร่บารมี ดังนั้นผมต้องสืบทอดกิจการของตระกูลต่อจากพ่อกับแม่อยู่แล้ว ไม่ใช่ให้ใครหน้าไหนมาชุบมือเปิบเอาง่ายๆ” คุณธรรมตอบกลับบิดาอย่างไม่ยอมลดละ “ก็ดีที่แกคิดได้ แล้วนั่นใครล่ะ” คุณากรหันไปมองหญิงสาวที่มากับบุตรชายด้วยสายตาอยากรู้ “อ๋อ... เดียร์ครับคุณพ่อคุณแม่ เธอมีชื่อจริงๆ ว่าชญาณิศา เป็นคนรักของผมที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่” คุณธรรมเดินไปโอบไหล่ของหญิงสาวเอาไว้ ชญาณิศาจึงพนมมือไหว้บิดามารดาของคุณธรรมอย่างมีสัมมาคารวะ “อย่างนั้นเหรอ” คุณากรเพียงแค่พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปมองสบตากับภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก “คุณมีแฟนแล้วเหรอลูก” จันทร์ระวีนึกผิดหวังเล็กๆ ที่บุตรชายมีแฟนเสียแล้ว ทั้งๆ ที่นางกับสามีและบิดามารดาคาดหวังอยากให้คุณธรรมแต่งงานกับภัทรวนันต์ แต่เรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้นางรู้ดี หากบุตรชายมีคนรักอยู่แล้ว นางกับสามีก็จะไม่บังคับอีก ลลนาหญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดปี เวลาผ่านไปหลายปีบางอย่างก็เปลี่ยนไป แต่ใจเธอยังไม่เปลี่ยนจากคุณธรรม พอได้ยินสาวใช้พูดว่าคุณธรรมกลับมาแล้ว เธอรีบวิ่งแจ้นออกมาต้อนรับด้วยเสื้อผ้าที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด แต่กลับหน้าซีดเมื่อชายหนุ่มพาผู้หญิงคนหนึ่งมาแนะนำว่าเป็นคนรัก แถมเธอยังไม่อยู่ในสายตาของคุณธรรมอีกด้วย เขาไม่แม้แต่จะชายตามามองเธอที่พยายามเสนอหน้าออกไปรับเลยสักนิด “ใช่ครับ หวังว่าแม่กับพ่อจะไม่คิดบังคับให้ผมแต่งงานกับยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์หาความสวยไม่ได้อย่างภัทรวนันต์อีกนะครับ ผมไม่อยากให้คนรักของผมต้องเสียใจ คุณพ่อกับคุณแม่ก็คงเข้าใจความรักดีว่ามันบังคับกันไม่ได้” คุณธรรมประกาศกร้าว 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD