บทที่ 5 มีดที่มองไม่เห็น 2

1294 Words
ดวงเดือนมองหน้าลูกชายแล้วตัดสินใจพูดออกมา เพราะเห็นว่าทั้งพีรวัสและรินรดาก็โตเริ่มจะเป็นหนุ่มสาวแล้ง “ถ้าแม่จะบอกพีทว่าพ่อกับแม่หมั้นหมายหนูรดาไว้ให้พีทแล้ว พีทจะว่ายังไง” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามีและตัวเธอเคยพูดกับจามรเอาไว้ตั้งแต่เด็กสองคนเล็ก ๆ แล้ว ด้วยความที่รู้จักกันมานานและเธอกับสามีก็เอ็นดูรินรดามากเลยอยากได้มาเป็นลูกสาว ตอนแรกเธออยากจะขอรินรดามาเป็นลูกบุญธรรมด้วย แต่ไม่รู้อะไรมีดลใจให้สามีของเธอพูดขอเด็กหญิงตัวน้อยมาเป็นคู่หมั้นของลูกชาย ตอนนั้นทั้งเธอและจามรต่างก็ตกใจไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องแบบนี้ จามรเองก็ไม่ได้ตอบตกลงในทันที เพราะลูกสาวยังเด็กมากและก็ไม่อยากบังคับกำหนดกะเกณฑ์ในเรื่องนี้ แต่เพราะเวลาผ่านไปเด็กหญิงตัวน้อยตามติดพีรวัสเหลือเกิน อะไร ๆ ก็พี่พีทจนพี่ชายแท้ ๆ อย่างชนาเทพน้อยใจไปหลายหน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ทั้งนั้น แต่ยังไม่ทันได้พูดหรือตกลงอะไรกันสามีของเธอก็มาด่วนจากไปเสียก่อน ถึงอย่างนั้นตอนเปิดพินัยกรรมเขาก็ระบุไว้ว่าอยากให้เด็กสองคนหมั้นหมายกันเอาไว้ ถ้าเติบโตมาแล้วทั้งคู่ไม่ได้รักชอบกันจริง ๆ ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะไป “แม่ว่าอะไรนะครับ!!” พีรวัสถามเสียงดังขึ้นด้วยความตกใจ “พีทได้ยินไม่ผิดหรอก แม่เองก็รักและเอ็นดูหนูรดาอยู่แล้ว ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้จริง ๆ แม่ก็สบายใจ” “ผมไม่ได้คิดกับรดาแบบนั้น แล้วแม่จะสบายใจได้ยังไงในเมื่อรดาเอาแต่ใจตัวเองขนาดนั้น เวลาไม่ได้ดั่งใจก็ร้องกรี๊ด ๆ แล้ววิ่งไปฟ้องผู้ใหญ่นี่นะ ผมคบไม่ได้หรอก” พีรวัสพูดออกมา ที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรมากมาย ถึงรินรดาจะเอาแต่ใจแต่ก็ขี้อ้อนไม่น้อย เวลาโกรธก็ไม่เคยโกรธได้นานเพราะเด็กสาวชอบมาอ้อนและทำหน้าตลก ๆ จนเขาหลุดหัวเราะและใจอ่อนให้อภัยตลอด แต่เรื่องที่บิดามารดาทำมันเป็นเรื่องใหญ่มากเขาต้องการเลือกคนรักเองไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่มาเลือกเพราะความเหมาะสม แต่ในสายตาเขารินรดาเป็นได้แค่น้องสาวเท่านั้นเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ “แม่ให้เวลาพีทคิดและตัดสินใจอีกที เมื่อพีทโตเป็นผู้ใหญ่แล้วแม่จะมาขอคำตอบอีกทีก็แล้วกัน” ดวงเดือนพูด แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ถ้าไม่ได้รินรดามาเป็นลูกสะใภ้ เธอกลัวว่าพีรวัสจะไปคว้าผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาร่วมชายคาเดียวกัน เพราะเห็นเพื่อนบางคนที่ลูกโตจนแต่งงานได้มักมีปัญหากับลูกสะใภ้ทั้งนั้น เธอก็ไม่อยากจะเจอเรื่องแบบนั้น แต่ถ้าลูกยืนยันว่าไม่ได้คิดอะไรกับรินรดาและเขาสามารถหาลูกสะใภ้ได้ถูกใจและเป็นคนดีพอเธอจะยอมล้มเลิกเรื่องนี้ พีรวัสมองหน้ามารดาแล้วคิดในใจว่าไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนคำตอบก็เหมือนเดิมไม่มีทางเปลี่ยน และหลังจากวันนั้นพีรวัสก็เปลี่ยนไปเขาไม่ค่อยเล่นหรือพูดคุยกับรินรดาเหมือนเมื่อก่อน และก็เริ่มเรียนรู้ที่จะคบหรือศึกษาใครสักคนเพราะอยากพิสูจน์ให้มารดารู้ว่าเขาก็เลือกเองได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องดีกว่ารินรดาด้วย “นี่เราบ้าหรือโง่ถึงมานั่งทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย ขนาดไอ้หนึ่งยังไม่ทำอะไรแล้วเราจะมาเดือดร้อนเรื่องรินรดาทำไม” พีรวัสพูดกับตัวเองและตัดสินใจว่าจะกลับ แต่ตอนนั้นเองคนที่เขานั่งรอมานานหลายชั่วโมงก็เดินออกมาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงที่เห็นจากตรงนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร รินรดาเดินลงข้างล่างโดยที่ชัยยุทธลงมาส่ง พอมาถึงลานจอดรถทั้งคู่ก็แกล้งมองไม่เห็นรถคันหรูที่รินรดายืนยันว่าเป็นรถของพีรวัสอย่างแน่นอน “ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะมีความอดทนขนาดนั้น” ชัยยุทธพูดขึ้นและอดสงสัยในพฤติกรรมของพีรวัสไม่ได้ เพราะจากที่รินรดาเล่าเขาเป็นคนเอ่ยปากไล่ไม่ให้เพื่อนเขาไปอยู่ใกล้ แต่เวลาผ่านไปทำไมถึงตามติดยิ่งกว่าชนาเทพที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ อีก “เขาก็คงรอต่อว่าฉันอยู่นั่นแหละ ความอดทนสูงจริง ๆ” เธอเองก็เห็นด้วยเพราะไม่คิดว่าพีรวัสจะรออยู่จริง ๆ นี่ถ้าเธอนอนค้างที่นี่เขาไม่ต้องรอทั้งคืนหรือไง “มันชักจะยังไง ๆ แล้วนะรดา เธอต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ” ชัยยุทธพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง “เขาไม่กล้าทำอะไรหรอกอย่างมากก็แค่บ่นว่าพูดแรง ๆ ให้ฉันเจ็บเล่น” รินรดาพูดและพอจะเดินไปที่รถเธอก็โผเข้ากอดเพื่อนรักจนแน่นแล้วพูดออกมา “ขอบใจเธอมากนะที่พูดเตือนและเป็นห่วงฉัน ไม่ต้องกลัวถ้ามันไม่ใช่ไม่ได้ฉันจะถอยเอง” “ทำยังไงได้ฉันหลวมตัวเป็นเพื่อนกับเธอแล้วนี่จะให้มาทิ้งกลางคันได้ยังไง” ชัยยุทธกอดและตบหลังของเพื่อนเบา ๆ ก่อนจะพูดติดตลกออกมาเมื่อรินรดายังกอดไม่ปล่อย “เห็นฉันไม่พูดนี่กอดใหญ่เลยนะยัยชะนี ฉันรู้นะว่าเธอกำลังป่วนหัวคุณพีรวัส” “ฉลาดสมกับเป็นเพื่อนรักกันจริง ๆ เลย...ไปนะถึงบ้านแล้วจะโทรมาบอก” รินรดาพูดจบก็เดินตรงไปที่รถแล้วหันมาโบกมือให้ชัยยุทธ พีรวัสกำพวงมาลัยแน่นเมื่อเห็นการล่ำลาของรินรดา เห็นแบบนี้แล้วอยากจับตัวมาพาดตักตีก้นลงโทษเหมือนเด็กข้อหาที่ทำเรื่องน่าเกลียดแบบนี้ มือไวกว่าความคิดอยู่ ๆ เขาก็เปิดประตูรถแล้วเดินไปหาหญิงสาวที่กำลังจะเปิดประตูรถของตัวเอง “ทำเรื่องงามหน้าขนาดนี้ ถ้าอาจามรรู้เรื่องจะเสียใจขนาดไหน เป็นผู้หญิงแต่มาหาผู้ชายถึงห้องรู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น” รินรดาชะงักไปนิดแล้วหันมามองหน้าคนที่ต่อว่าด้วยถ้อยคำที่แรง แม้ต้องการทำให้เขาคิดและเข้าใจแบบนั้นแต่เพราะเขาไม่รู้จักนิสัยและไม่รู้เรื่องราวของเธอเลย ทำให้เขาคิดและไม่เคยเชื่อใจกัน “พี่หนึ่งยังไม่ว่าอะไรเลยพอรู้ว่าฉันจะมาหาชัยยุทธ อีกอย่างนะวันนั้นคุณก็เห็นแล้วนี่ว่าพ่อกับเขารู้จักและดูจะเข้ากันได้ดีด้วย เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าเขาเป็นคนพิเศษของฉัน” “ดื้อเอาแต่ใจตัวเอง เอาความคิดและการกระทำของตัวเองเป็นใหญ่ไม่เคยเปลี่ยน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ชายคนไหนทนนิสัยนี้ได้” +++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD