บทที่ 6 เป็นข่าว 1

1282 Words
ชนาเทพเดินเข้ามาในห้องรับแขกหลังจากที่เข้าไปดูและได้พูดคุยกับรินรดา เมื่อคืนตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากบิดาเขาก็รีบกลับมาทันที ลางสังหรณ์เขาบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องมีพีรวัสเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วมันก็เป็นเรื่องจริงหลังจากที่เขาซักถามรินรดาจนรู้เรื่องทั้งหมดมันทำให้เขาปวดศีรษะตุบ ๆ เลย นึกอยากจับน้องสาวตัวเองมาพาดตักตีก้นให้แรง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นถ้าไม่เพราะรินรดาเล่นอะไรแผลง ๆ ก็คงไม่โดนไอ้เพื่อนรักต่อว่าแบบนั้น แต่ถ้าพีรวัสรู้จักรินรดาดีพอคงไม่มีความคิดแบบนั้น แต่งานนี้ถ้าให้เลือกเข้าข้างเขาคงต้องอยู่ข้างน้องสาวอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พูดสอนให้น้องว่าครั้งต่อไปอย่าทำแบบนี้ เพราะเราไม่สามารถให้คนทุกคนเข้าใจและรู้นิสัยที่แท้จริงของเราได้ ฉะนั้นเราต้องทำตัวให้ดีจะได้ไม่ถูกว่าให้เสียใจแบบนี้ พอเขาถามเรื่องของพีรวัสว่าจะเอายังไงคำตอบของรินรดาทำให้เขาอยากหัวเราะเยาะใส่หน้าเพื่อนรักจริง ๆ “รดาเป็นยังไงบ้าง” จามรเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาหา “โดยรวมถือว่าดีขึ้นครับ แต่ก็ยังมีซึม ๆ บ้าง” ชนาเทพตอบตามความจริง “น้องยังไม่เห็นเรื่องข่าวใช่ไหม” จามรถามด้วยสีหน้าหนักใจและเป็นห่วงลูกสาว เพราะกลัวว่ารินรดาจะเครียดมากกว่าเดิม “ยังครับสงสัยปิดโทรศัพท์เอาไว้ แล้วเรื่องนี้พ่อจะจัดการยังไงครับ” เขาเองก็เห็นแล้วถามว่าเครียดไหมก็เครียดอยู่ แต่เพราะรู้ว่าน้องสาวไม่ได้เป็นอย่างที่ในข่าวลงก็เลยไม่คิดมากอะไรมากมาย ตอนนี้เขาเป็นห่วงความรู้สึกของรินรดามากกว่า จามรนั่งนิ่งคิดอยู่สักพักก็ถอนใจแล้วพูดออกมา “เรื่องนี้คงต้องรอดูว่าบ้านนู้นเขาจะว่ายังไง ส่วนรดาพ่อเชื่อว่าน้องจะผ่านเรื่องนี้ไปได้” ชนาเทพพยักหน้ารับและเห็นด้วยกับบิดาที่ว่ารินรดาต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ เขาเชื่อว่าน้องเข้มแข็งมากอาจจะมากเกินกว่าที่ทุกคนคิดก็ได้ ส่วนพีรวัสเขาเองก็อยากรู้ว่ามันจะพูดอธิบายเรื่องนี้ยังไง เพราะคุณดวงเดือนคงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่าย ๆ แน่ ... ดวงเดือนนั่งกอดอกทำหน้าบึ้งจนไม่มีใครเข้าหน้าติดสักคน ต่างก็อยากรู้ว่าวันนี้เกิดอะไรคุณผู้หญิงของบ้านถึงได้อารมณ์เสียแต่เช้าในวันหยุดแบบนี้ พีรวัสเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านด้วยชุดลำลองอยู่บ้านแบบสบาย ๆ วันนี้เขาตั้งใจว่าจะไปคุยกับรินรดาให้รู้เรื่อง เพราะเรื่องนี้มันทำให้เขานอนหลับไม่สนิทมันเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มาทับตัวเอาไว้ “จะไปไหนแต่เช้าพีท” ดวงเดือนส่งเสียงถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายกำลังเดินผ่านหน้าห้องรับแขกไป “ไปบ้านไอ้หนึ่งหน่อยครับ แม่มีอะไรหรือเปล่าทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” เขาถามเมื่อเห็นใบหน้ามารดาที่ดูบึ้งกว่าทุกวัน และเขาก็ได้สายตาดุของท่านมาเป็นคำตอบ “ถ้าอยากรู้ว่าแม่เป็นอะไรก็ลองเปิดนี่ดูสิ ถ้าดูเสร็จแล้วแม่ขอคำอธิบายด้วย” ดวงเดือนส่งแท็บเล็ตเครื่องบางไปตรงหน้าของลูกชายแล้วกลับมานั่งกอดอกเหมือนเดิม พีรวัสถึงจะงง ๆ กับคำพูดของมารดาแต่เขาก็หยิบแท็บเล็ตมาเปิดดูแล้วก็ต้องหน้าเครียดทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่มารดาต้องการให้ดู “ไฮโซสาวคนดังทำอะไรไม่อายฟ้าดิน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับผู้ชายในที่สาธารณะ ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าทั้งคู่จะไปจบลงกันที่ไหน” “นี่มันเรื่องบ้าอะไร” พีรวัสขบกรามแน่นเขารู้สึกโกรธและไม่พอใจที่เห็นข่าวนี้นึกอยากเห็นหน้าคนถ่ายรูปและคนเขียนข่าวจริง ๆ “แม่มากกว่าที่ต้องถามว่านี่มันเรื่องอะไร พีทอย่าบอกว่านะผู้ชายในรูปไม่ใช่พีท เพราะแม่ไม่เชื่อ” ดวงเดือนถามเสียงเข้ม ในข่าวไม่ได้เปิดเผยหน้าตาชายหญิงทั้งคู่แต่ก็มีรูปของหญิงสาวอีกรูปที่ถ่ายกับรถคันหรูแต่ก็เบลอหน้าตาเพื่อไม่ให้ถูกฟ้อง ส่วนผู้ชายไม่ได้ระบุหรือมีรูปว่าเป็นใครคงเพราะรูปนี้ถ่ายจากด้านหลังเลยไม่เห็นหน้า พีรวัสวางแท็บเล็ตในมือลงบนโต๊ะแล้วยกมือลูบหน้าแรง ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นใหญ่กว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก และไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังมารดาหรือคนอื่น ๆ “ผมยอมรับว่าผู้ชายในรูปคือผมเอง แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวเขาเขียนนะครับ” เขารีบพูดออกมาเมื่อเห็นสายตาวาว ๆ และตำหนิของมารดา “แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมเราถึงทำกับน้องแบบนั้น” พีรวัสถอนใจแล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มารดาฟังอย่างละเอียด ส่วนดวงเดือนก็ยกมือขึ้นมาทาบอกส่วนอีกมือก็หยิบยาดมขึ้นมาจ่อที่จมูก เพราะเรื่องที่รู้ทำให้เธอตกใจและเสียใจไม่น้อยเลย เวลาผ่านไปสักพักเรื่องราวที่ออกจากปากพีรวัสก็ออกมาหมดไม่มีเหลือ “แม่ไม่คิดว่าพีทจะปากจัดปากร้ายขนาดนี้ ไม่คิดเลยเหรอว่าน้องจะเสียใจแค่ไหน” “ผมรู้ว่าตัวเองผิดที่พูดไปแบบนั้น แต่รดาทำให้ผมคิดอย่างอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ ผู้หญิงที่ไหนไปหาผู้ชายถึงคอนโดแถมยังกอดกันแน่นอีกต่างหาก” ดวงเดือนได้ยินก็ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครแต่ที่รู้รินรดาไม่ได้เป็นคนแบบนั้นแน่ เพราะถ้ารินรดาเป็นอย่างที่ลูกชายเธอกล่าวหาป่านนี้มีคนรักแต่งงานไปนานแล้วไม่ใช่มารอคนฉลาดน้อยรู้ตัวช้าอยู่แบบนี้หรอก “แม่รู้นะว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราล่วงเกินน้องแบบนี้ ทำอะไรทำไมไม่คิดอายุก็ไม่น้อยแล้ว อยากรู้ล่ะสิว่าแม่รู้ได้ยังไง เด็กรับใช้สองบ้านเขาคุยกันบังอรได้ยินเลยมาบอกแม่ และแม่ก็เชื่อว่าคนบ้านนู้นเขาก็ต้องรู้แต่เขาไม่พูดถึง แต่ครั้งนี้คนข้างนอกรู้เห็นทำให้หนูรดาเสียหายขนาดนี้” “ที่พีทคิดและพูดแบบนั้นเพราะพีทไม่รู้จักรดาดีพอต่างหาก แต่เอาเถอะเรื่องนี้เอาไว้ทีหลัง แต่ตอนนี้สิ่งที่พีทต้องทำคืออะไร ” “ไปขอโทษอาจามรครับ” ถึงมารดาไม่บอกไม่ถามเขาก็ตั้งใจจะไปขอโทษอาจามรอยู่แล้ว ความผิดครั้งนี้หลายกระทงเลย “ถ้ารู้ก็ลุกขึ้นเลย แม่เองก็ต้องไปขอโทษจามรเหมือนกันที่ลูกชายทำเรื่องไม่ดีกับลูกสาวเขา” ไม่พูดเปล่าเธอยังส่งค้อนวงโตและสายตาตำหนิให้ลูกชายด้วย นี่ถ้าพีรวัสเป็นเด็กเธอจะตีสักสิบทีเสียแรงที่เรียนสูงแค่เรื่องง่าย ๆ ทำไมทำให้เป็นเรื่องยาก +++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD