เสียงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาทำให้เด็กชายสองคนต้องเงยหน้ามองกัน และไม่ต้องให้พูดหรือเอ่ยอะไรมือของพวกเขารีบเก็บของเล่นที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนานพร้อมกับลุกขึ้นทันที แต่ทั้งสองคนยังไม่ทันจะเดินหรือวิ่งหนีไปไหนเจ้าของฝีเท้าก็พูดเสียงใสติดงอนนิด ๆ ออกมา
“พอน้องมาก็รีบเก็บของหนีกันเลยนะ” เด็กหญิงแก้มป่องตาหวานที่ถักเปียสองข้างพูดขึ้น
“ไม่ได้หนีแต่พี่กับพีทจะไปทำการบ้านแล้ว ใช่ไหมพีท” เด็กชายตัวโตที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเด็กหญิงแก้มป่องพูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้เด็กชายอีกคน
“ใช่ รดากลับมาถึงบ้านทำไมไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนล่ะ เหม็นกลิ่นเหงื่อมาก” เด็กชายที่ชื่อพีทถามเด็กหญิงที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังอยู่เลย
เด็กหญิงแก้มป่องทำหน้ายู่เมื่อถูกเด็กชายที่เป็นเพื่อนของพี่ชายว่าเอา พอได้ยินแบบนั้นก็รีบก้มดมตัวเองก็ไม่ได้กลิ่นอย่างที่เขาพูดเลยสักนิด
“ไม่เห็นจะเหม็นเลย พี่พีทก็ยืนตั้งไกลจะได้กลิ่นได้ยังไง”
เด็กชายที่ชื่อพีททำหน้ายุ่งแล้วเดินหนีไปทันที เพราะรู้ว่าพูดต่อไปเขาก็ไม่มีวันชนะเด็กแสบไปได้หรอก
“พี่พีทจะหนีน้องไปไหนกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” เด็กหญิงแก้มป่องตะโกนเรียกพี่ชายข้างบ้านและกำลังจะเดินตามไปหาเรื่องเหมือนเคย แต่ครั้งนี้พี่ชายของเธอเดินมาขวางและจับมือเอาไว้ก่อน
“พี่หนึ่งปล่อยนะ รดาจะไปตามพี่พีท” เด็กหญิงโวยวายและพยายามบิดมือตัวเองออกจากมือของพี่ชาย
“อย่าตามพีทไปเลย พี่ว่ารดาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่านะวันนี้มีของว่างที่รดาอยากกินด้วยนะ” พี่หนึ่งของเด็กหญิงแก้มป่องพูดเสียงอย่างใจเย็น
พอได้ยินว่าวันนี้ของว่างเป็นของโปรดที่กำลังอยากกิน ความอยากไปหาพี่ชายข้างบ้านก็หายไปกว่าครึ่งเหลือแต่ความงอนและน้อยใจ
“รดาไปอาบน้ำก็ได้ไม่เห็นอยากจะง้อพี่พีทเลย” พูดจบก็สะบัดค้อนอย่างที่ผู้ใหญ่ทำกันตรงเข้าไปในบ้านทันที โดยมีพี่เลี้ยงวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
ชนาเทพหรือว่าพี่หนึ่งถอนหายใจอย่างโล่งอกที่น้องสาวคนเดียวของเขาไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรมากมาย เขากับ รินรดาอายุห่างกันแค่สามปี ครอบครัวของเขามีแค่บิดาเท่านั้นส่วนมารดาเสียชีวิตไปตั้งแต่คลอดรินรดาแล้ว เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่บิดาบอกแค่ว่ามารดาอ่อนเพลียและเหนื่อยมากเลยอยากนอนพักผ่อนสบาย ๆ หลังจากที่มารดาเสียชีวิตเขาก็ต้องช่วยพี่เลี้ยงดูแลรินรดามาตลอด ไม่ว่าน้องอยากได้อะไรเขาและคนในครอบครัวไม่เคยขัดใจ เพราะสงสารที่รินรดาต้องเสียมารดาไปตั้งแต่ยังไม่รู้ความและความที่ทุกคนตามใจมากรินรดาเลยเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง แต่น้องจะทำแบบนั้นกับคนในบ้านเท่านั้นเวลาอยู่โรงเรียนคุณครูยังพูดชมว่ารินรดาเป็นเด็กดีน่ารักและมีน้ำใจ ตอนแรกเขาไม่เชื่อจนไปเห็นด้วยตาตัวเองวันที่ไปรับน้องสาวที่โรงเรียน ไม่น่าเชื่อว่ารินรดาจะช่วยเพื่อนและคุณครูทำความสะอาดห้องเรียนด้วย
“ออกมาเถอะพีท รดาไปแล้ว” ชนาเทพพูดเพราะรู้ว่าเพื่อนแอบอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้
พีรวัสเดินออกมาจากที่ซ่อนพร้อมกับของเล่นในมือและต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อไม่เห็นน้องสาวของชนาเทพอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบรินรดาแต่เพราะเด็กหญิงชอบเอาแต่ใจตัวเองเวลาไม่ดั่งใจก็กรี๊ดก็งอน ไม่รู้ว่าเพื่อนเขาทนเข้าไปได้ยังไง โชคดีที่เขาเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้องอีก ถ้าน้องเขาเป็นแบบรินรดาคงได้ทะเลาะกันตายแน่
“นายเก่งนะที่ทนรดาได้” พีรวัสพูดตรง ๆ ก่อนนั่งลงที่เดิมแล้วเริ่มต่อเลโก้ต่อ
“รดาไม่ได้ร้ายขนาดนั้นหรอก น้องแค่อยากให้ทุกคนสนใจนายก็ลองเล่นลองสนใจรดาดูสิ น้องฉันจะได้เลิกทำตัวไม่น่ารักใส่” ชนาเทพพูดเหมือนคนเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเพื่อนรักที่เห็นและรู้จักมาตั้งแต่เกิดทำหน้าเบื่อใส่
“ฉันยังไม่เคยเห็นรดาทำตัวน่ารักเลย เวลาไม่ได้อย่างใจก็งอนโวยวาย ให้เล่นด้วยก็ชอบทำของเล่นพังทุกที” เขาเคยให้รินรดาต่อเลโก้แต่เด็กหญิงก็ทำของเขาพังไม่มีชิ้นดีทำให้ต้องมานั่งต่อใหม่ และเขาก็เบื่อที่ต้องมานั่งเล่นขายของกับเล่นตุ๊กตาด้วย
++++++
ตอนนี้ทั้งชนาเทพ พีรวัสและรินรดาต่างก็เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศแล้ว ชนาเทพเลือกเรียนหมอตามความชอบของตัวเอง ส่วนพีรวัสและรินรดาเรียนคณะเดียวกันแต่อยู่คนละปี ถึงอย่างนั้นทั้งสองคนก็มีสิ่งที่เกี่ยวข้องกันอยู่คือ รินรดามักจะมาคอยตามหวงและกีดกันผู้หญิงคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้พีรวัส จนมีคนเอาไปพูดกันว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน แน่นอนว่าพีรวัสไม่พอใจที่ถูกพูดถึงแบบนี้
“พี่พีทขา รดาซื้อขนมมาให้ค่ะ” รินรดาพูดพร้อมกับวางถุงขนมที่เธอลงทุนขับรถไปซื้อมาให้ชายหนุ่มด้วยตัวเองเลย เพราะเห็นว่าช่วงนี้พีรวัสใกล้สอบและอ่านหนังสืออย่างคร่ำเคร่งเลยนึกเป็นห่วง
“ขอบใจนะ แต่วันหลังไม่ต้องซื้อมาอีกถ้าพี่อยากกินเดี๋ยวพี่ไปซื้อเองได้ พี่ว่ารดาควรจะสนใจเรื่องเรียนของตัวเองดีกว่านะ อย่ามัวมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้เลย” พีรวัสพูดออกมาโดยที่เขาไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองกำลังทำร้ายจิตใจใครอยู่
“รดาไม่เคยคิดว่าเรื่องของพี่พีทเป็นเรื่องไร้สาระเลยนะคะ รดาแค่หวังดีเห็นว่าพี่พีทอ่านหนังสือหนักและรดาก็ซื้อมาฝากเพื่อน ๆ พี่พีทด้วย” รินรดาพูดอย่างไม่ยอมแพ้ และรู้สึกอายนิด ๆ เพราะพีรวัสต่อว่าเธอต่อหน้ากลุ่มเพื่อนของเขา หนึ่งในนั้นมีคนที่เธอไม่ชอบหน้าอยู่ด้วย
พีรวัสถอนใจอย่างเบื่อหน่ายที่รินรดาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เขาพูดบอกเลย ทุกครั้งที่เขาพูดหญิงสาวจะต้องพูดเถียงตอบทุกครั้งจนกว่าจะชนะถึงยอมหยุด
“มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีพี่ขอเวลาอ่านหนังสือหน่อย” เขาพูดไล่อย่างไม่ใยดี
รินรดาเม้มปากแน่น ๆ ที่ถูกไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่คิดบ้างเหรอว่าเธอเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน เมื่อเห็นว่าพีรวัสไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเลยเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาให้เขาและคนอื่นเห็น
“ทำไมมึงต้องพูดแบบนั้นกับน้องรดาด้วยวะไอ้พีท น้องเขาอุตส่าห์หวังดีซื้อมาให้” เพื่อนของพีรวัสคนหนึ่งพูดขึ้นมาหลังจากที่รินรดาเดินไปไกลแล้ว