รินรดาเดินตรงเข้ามาหาพีรวัสที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ตึกเรียนของคณะและก็เห็นว่าเขากำลังนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนแน่นอนว่ามีน้ำรินนั่งอยู่ด้วย ความสนิทสนมของน้ำรินและพีรวัสทำให้เธออดโมโหไม่ได้แต่พยายามบอกตัวเองว่าวันนี้เธอมาเรื่องอื่นไม่ใช่มาอาละวาดเรื่องของน้ำริน
“น้องรดามาหาพี่ถึงนี่มีอะไรหรือเปล่าครับ” ภูวิชพูดด้วยน้ำเสียงยินดีอย่างไม่ปิดบัง
“รดามาหาพี่พีทค่ะ” รินรดาตอบเสียงเรียบนิ่ง ฝ่ายภูวิชเองก็หน้าเจื่อนไปทันที
“มีอะไรจะพูดก็พูดมา” พีรวัสพูดเสียงนิ่ง ๆ แต่ไม่ได้หันมาสนใจรินรดาเลยแม้แต่น้อย อาการไม่ใส่ใจของพีรวัสทำให้เธอต้องเม้มปากแน่นแล้วพูดออกมาอีกครั้ง
“รดาขอคุยเป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ”
“มีอะไรก็พูดมาตรงนี้เถอะพี่ไม่ว่างมีเวลาไม่เยอะ ถ้าไม่รีบพูดก็กลับไปคุยกันที่บ้าน” พีรวัสพูดดูเหมือนไล่แต่จริง ๆ แล้วเขาไม่ต้องการให้ภูวิชมองรินรดาด้วยสายตาหวานเชื่อมแบบนั้นเห็นแล้วมันดูน่ารำคาญ
“แต่รดาอยากคุยตอนนี้ค่ะ”
“ถ้าอยากคุยก็พูดตรงนี้ให้จบ ๆ จะได้รีบไปเรียน” พีรวัสถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับความเอาแต่ใจของรินรดา
รินรดามองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่ามีคนมองอยู่เยอะ ถึงจะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองแต่การที่จะพูดเรื่องแบบนี้ตรงนี้มันรู้สึกอายไม่น้อย แต่ในเมื่อพีรวัสไม่ยอมลุกไปคุยที่อื่นและเธอเองก็รอไม่ได้เลยตัดสินใจพูดออกมา
“รดาได้ข่าวว่าพี่พีทจะไปเรียนต่อเมืองนอกเหรอคะ” เธอถามในสิ่งที่อยากรู้ทันที
“ใช่ เรื่องแค่นี้น่ะเหรอที่เราอยากรู้” พีรวัสถามแม้จะไม่แปลกใจที่หญิงสาวถามเรื่องนี้
รินรดาเม้มปากเล็กน้อยแล้วพูดออกมา “ทำไมอยู่ ๆ ถึงจะไปเรียนต่อเมืองนอกล่ะคะ”
“ไม่มีเหตุผล ถึงจะมีแต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวพี่คงไม่จำเป็นต้องบอกเรามั้ง”
“แล้วพี่พีทถึงจะทิ้งคุณป้าให้อยู่เดียวเลยเหรอคะ” รินรดาพูดออกมา
“เลิกเอาแม่พี่มาอ้างเสียที และพี่ก็ไม่ไดทิ้งท่านไปไหนแค่ไปเรียนไม่กี่ปี แล้วรดาจะมาเดือดร้อนแทนแม่พี่ทำไม!!” พีรวัสพูดและใช้สายตาตำหนิปนไม่พอใจที่รินรดาเข้ามายุ่งเรื่องในครอบครัวเขาแบบนี้
“ทำไมพี่พีทพูดแบบนี้ล่ะ รดาแค่เป็นห่วงกลัวว่าท่านจะเหงา” รินรดาตัวชาวาบเมื่อเห็นสายตาที่พีรวัสมองมา
“สุดท้ายคุณหนูรดาก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิดเอาแต่โทษคนอื่นไปทั่ว ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วต่อไปไม่ต้องมายุ่งเรื่องของพี่อีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เอาเวลาที่ยุ่งเรื่องคนอื่นไปสับรางของตัวเองดีกว่านะ ได้ข่าวว่ามีผู้ชายมาตามจีบเยอะนี่ แต่จะทำอะไรช่วยนึกถึงหน้าพ่อและพี่ของตัวเองบ้าง” พีรวัสพูดเสียงดังจนคนที่นั่งอยู่แถวนั้นต่างหันมามองด้วยความสนใจอยากรู้ว่าเกิดอะไรกับคู่นี้ สายตาที่มองมามีทั้งเยาะเย้ย เหยียดหยาม และอยากรู้ ทำให้รินรดารู้สึกอับอาย น้อยใจที่พีรวัสต่อว่าเธอต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้
รินรดาสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกพีรวัสดุเสียงดัง เพราะไม่เคยถูกใครพูดแบบนี้ใส่ทำให้อดตกใจไม่ได้ เขาทำท่าเหมือนรังเกียจเธอเสียเต็มประดาทั้งที่ทุกอย่างที่ทำที่พูดมันก็คือเรื่องจริง
“ทำไมพี่พีทต้องตวาดและไล่รดาด้วย รังเกียจรดาขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เธอถามเสียงสั่น
“ใช่! เพิ่งรู้ตัวหรือไง ที่จริงเธอน่าจะรู้มาตั้งนานแล้วนะว่าพี่รังเกียจและรำคาญเธอมากแค่ไหน คนอะไรเอาแต่ใจตัวเองไม่คิดถึงใจคนอื่น ไม่พอใจอะไรก็ร้องกรี๊ด ๆ คิดว่าน่ารักหรือไง ทำไมแบบนี้ต่อไปก็ไม่มีใครเขารักหรืออยากอยู่ใกล้หรอก!” พีรวัสพูดเสียงดังออกมา
“อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่ารดาต้องการอะไรถึงได้ก่อกวนผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตพี่ ผู้หญิงอะไรทำตัวแก่แดดคิดเรื่องรักใคร่ตั้งแต่อายุแค่นี้ แทนที่จะตั้งใจเรียนกลับเอาเวลามาทำเรื่องไร้สาระ จำไว้นะพี่ไม่มีทางชอบหรือรักผู้หญิงอย่างรดาเด็ดขาด พี่ไม่ชอบผู้หญิงร้ายกาจแบบนี้” พีรวัสระเบิดทุกอย่างออกมา ไม่มีใครคิดว่าชายหนุ่มจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา
“แต่รดารักพี่พีท ได้ยินไหมว่ารดารักพี่พีท!”
“แน่ใจเหรอที่พูดคำนี้ออกมา คุณหนูรินรดารู้จักความรักด้วยหรือไง ถ้าคิดจะปั่นหัวพี่เหมือนที่ทำกับผู้ชายคนอื่นก็ไปไกล ๆ เลยเพราะพี่รังเกียจ” พีรวัสพูดตามที่ตัวเองคิดและเห็นมา มีผู้ชายหลายคนพยายามเข้าหาและขอความช่วยเหลือเรื่องรินรดา แต่เขาก็ไล่ตะเพิดไปจนหมดด้วยความรำคาญ แม้จะรู้สึกใจกระตุกเมื่อได้ยินคำสารภาพรักจากรินรดาก็ตามที แต่เขาคิดว่ารินรดาพูดไปเพราะอยากเอาชนะเขาเท่านั้น เขาจะไม่ยอมเป็นผู้ชายหน้าโง่ที่ถูกผู้หญิงคนนี้ปั่นหัวเด็ดขาด
รินรดาชะงักและรู้สึกหน้าชาเข้าไปอีกเมื่อได้ยินคำพูดและสายตาที่พีรวัสแสดงออกมาว่ารังเกียจเธอ ในเมื่อวันนี้เขาไม่เห็นค่าความรักที่เธอมีให้ก็ไม่จำเป็นต้องง้อ แต่คนอย่างรินรดาไม่เคยคิดจะยอมแพ้หรือถอยง่าย ๆ เธอจะทำให้เขารู้ว่าความรักที่เธอมีให้ไม่ใช่ว่ามันจะมาได้ง่าย ๆ เหมือนที่เขาพูดและคิด
“ขอบคุณที่บอกกันตรง ๆ ต่อไปนี้รดาจะไม่มาให้พี่พีทเห็นหน้าอีกเลย หวังว่าพี่พีทจะพอใจและสบายใจนะคะ” พูดจบเธอก็เดินออกไปจากตรงนี้โดยที่มีเพื่อนสนิทสองคนยืนคอยอยู่
พีรวัสมองตามหลังรินรดาไป เมื่อกี้เขาเห็นว่าอีกฝ่ายมีน้ำตาคลอหน่วยที่ดวงตาประกอบกับคำพูดที่รู้สึกผิดทำให้เขารู้สึกตัวว่าพูดแรงไป แต่ก็ไม่ได้เดินตามไปเพราะอะไรตัวเขารู้ดี
“เป็นแค่พี่น้องข้างบ้านก็พอแล้ว อย่างรดาไม่เหมาะกับพี่หรอก”
พีรวัสมองตามหลังรินรดาพร้อมกับรู้สึกผิดเมื่อได้ยินคำพูดนั้น หลายปีก่อนเขาเคยเผลอลืมและทิ้งให้รินรดาอยู่ในห้างสรรพสินค้าคนเดียว วันนั้นเขาบังเอิญเจอเพื่อนแล้วคุยกันติดลมจนลืมว่าเขาไม่ได้มาคนเดียวแต่พารินรดาที่ร้องตามมาด้วย กว่าเขาจะรู้ตัวว่าลืมอีกฝ่ายไว้ที่ห้างก็ตอนที่กลับมาถึงบ้านแล้วนั่นแหละ วันนั้นรินรดามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไม่ด้วยความเสียใจและผิดหวังทำให้เขาชะงักไป แม้จะอยากเอ่ยปากขอโทษแต่ในใจก็บอกว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเด็กสาวจะ
จะได้ไม่ต้องร้องขอตามเขาไปอีก โดยที่พีรวัสอาจจะลืมคืดไปว่ารินรดาอายุแค่สิบขวบเท่านั้น