ขณะที่สองคนพี่น้องปรึกษาเรื่องงานกัน รินรดาไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่เธอด้วยความแปลกและประหลาดใจ เพราะไม่เคยเห็นท่าทางจริงจังเป็นการเป็นงานของหญิงสาวมาก่อน ที่ผ่านมาเห็นแต่ภาคเอาแต่ใจและไร้สาระ
“พี่ขอไปดูสถานที่ก่อนแล้วกัน เราก็ไปทำแผนธุรกิจมาให้พี่ดูก่อนว่าเป็นยังไงพี่จะได้ช่วยดูอีกที ไม่แน่นะพี่อาจจะร่วมหุ้นสถานที่เปิดคลินิกเสริมความงามด้วยก็ได้” ชนาเทพพูดออกมา เพราะเขาเองก็อยากเปิดคลินิกแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าที่เดียวมีครบทั้งสปาและคลินิกความงามด้วยคงจะดีไม่น้อย
“จริงเหรอคะ! แบบนั้นก็ดีสิมาที่เดียวสวยครบสูตรเลย” รินรดาพูดด้วยความดีใจ ดวงตากลมโตสุกสกาว ท่าทางดีใจเหมือนเด็กของเธอทำให้ใครบางคนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“พี่ขอดูแผนธุรกิจของเราก่อนเดี๋ยวค่อยตัดสินใจทีหลัง” ชนาเทพพูดแล้วนึกเอ็นดูน้องสาวที่กระตือรือร้นที่จะทำธุรกิจเหลือเกิน
“ได้ค่ะรดาจะทำเต็มที่เลย” รินรดาพูดและยิ้มกว้างให้พี่ชาย
“แต่งตัวสวยแบบนี้จะไปไหนต่อหรือเปล่า” ชนาเทพถามเมื่อเห็นการแต่งตัวของน้องสาว แม้จะยังไม่ชินกับการแต่งตัวแบบใหม่ของรินรดา แต่ก็ต้องยอมรับแบบไม่อายว่าน้องสาวเขาแต่งตัวแบบนี้แล้วดูสวยเก๋ดีและคงไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้น
“รู้ทันอีกแล้ว พอดีวันนี้ชัยยุทธกลับมาจากบินน่ะค่ะรดาเลยว่าจะไปหาเขาที่คอนโดแล้วไปหาอะไรกินกัน คืนนี้ขอกลับค่ำหน่อยนะคะ” รินรดาพูดเสียงดังเหมือนจงใจจะให้ใครบางคนได้ยิน
พีรวัสที่เงี่ยหูฟังพอได้ยินว่ารินรดาจะไปไหนก็สำลักกาแฟที่เพิ่งดื่มเข้าไป
“เป็นอะไรหรือเปล่าไอ้พีท” ชนาเทพถามเพื่อนรักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสำลักกาแฟหน้าดำหน้าแดง
“มะ ไม่มีอะไรพอดีรีบดื่มไปหน่อยเลยสำลัก” พีรวัสพูดและหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับคราบกาแฟที่ริมฝีปากออกพร้อมกับมองไปที่หญิงสาวคนเดียวในห้องตาเขม็ง
ส่วนชนาเทพส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นรอยยิ้มและคำพูดของน้องสาวที่แสดงถึงความทะเล้นและสนุกที่แกล้งคนได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ ตอนกลับก็ขับรถดี ๆ ล่ะถ้าไม่ไหวหรือดึกเกินก็โทรมาเดี๋ยวพี่ไปรับเอง” เขาพูดกับน้องสาว
“รับทราบค่ะคุณหมอ ถ้าอย่างนั้นรดาไปก่อนนะคะไม่อยากให้ชัยยุทธเขารอ” รินรดาพูดแล้วลุกไปหอมแก้มพี่ชายก่อนจะเดินตัวปลิวออกจากห้องทำงานไปโดยที่ไม่เอ่ยลาพีรวัสแม้แต่น้อย
พีรวัสมองตามร่างโปร่งไปจนอีกฝ่ายลับสายตาก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเพื่อนเรียกเสียงดังออกมา
“พีท!!”
“จะพูดเสียงดังทำไมวะอยู่กันแค่นี้” เขาโวยเพื่อนรักขึ้นมา
“ก็ฉันเรียกแล้วนายไม่หันมามองสักที ตกลงเรื่องที่จะคุยน่ะจะยังคุยไหม ถ้าไม่ฉันจะได้ทำงานต่อแล้ว” ชนาเทพถามขึ้น และพอจะเดาคำตอบของเพื่อนได้ดี
พีรวัสนิ่งไปนิดก็ตัดสินใจพูดออกมา คนอย่างเขาเรื่องงานสำคัญกว่าอยู่แล้ว
“ฉันเพิ่งนึกได้ว่ามีงานด่วนเอาไว้คืนนี้ฉันจะไปหาที่บ้านแล้วกันนะ” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาพูดไปแบบนั้น
“อ๋อเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจนาย” ชนาเทพพูดลากเสียงแล้วพยักหน้ารับรู้ก่อนจะก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มเอาไว้แกล้งทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พีรวัสเดินออกจากห้องทำงานของเพื่อนรักอย่างรวดเร็ว เขาเร่งฝีเท้าหวังให้ทันหญิงสาวที่ทำให้เขากลายเป็นคนบ้าอยากรู้เรื่องชาวบ้านแบบนี้ และต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่ารินรดาเดินออกจากร้านกาแฟก่อนจะค่อย ๆ เดินตามหญิงสาวไปที่รถ พอเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าไปนั่งในรถแล้วเขาก็วิ่งไปที่รถหรูของตัวเองอย่างรวดเร็ว
...
รินรดาขับรถออกจากโรงพยาบาลของพี่ชายอย่างไม่เร่งรีบอะไรมาก มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรักทันที
“ชาช่ากลับมาถึงแล้วใช่ไหม ไม่มีอะไรหรอกฉันจะไปหาที่คอนโดอยากกินอะไรหรือเปล่าล่ะเดี๋ยวซื้อเข้าไปให้ โอเคตามนั้นเพื่อนรัก” เธอพูดจบก็วางสายไปแล้วมองไปที่กระจกก็ต้องยกยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อเห็นว่ารถที่จอดอยู่ด้านหลังเป็นใคร
“ทำไม่เนียนเลยนะคะพี่พีท แล้วแบบนี้บอกให้เราอยู่ห่าง ๆ ใครกันแน่ที่ต้องพูดคำนี้” รินรดาพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วร้องคลอตามเพลงโปรดอย่างมีความสุข
พีรวัสขับรถตามรถของรินรดาไปติด ๆ และต้องแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวแวะร้านอาหารก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับถุงอาหารพะรุงพะรัง จากนั้นก็ขับต่อไปอีกจนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงรถคันเล็กแต่ราคาไม่เล็กก็เลี้ยวเข้าไปในคอนโดหรู ไม่รอช้าเขาก็รีบขับเข้าไปแต่ไม่ได้จอดใกล้กันเขาขับเลยไปเหมือนเป็นคนที่มาคอนโดคนอื่น
“มาหาผู้ชายถึงคอนโดทำอะไรงามหน้าจริง ๆ” พีรวัสนั่งบ่นคนเดียวอยู่ในรถ แม้จะอยากตามเข้าไปแต่ก็ไม่รู้จะไปบอกรินรดายังไงเลยเลือกที่จะนั่งรออยู่ในนี้แทน
...
รินรดาเดินยิ้มมาจนถึงหน้าห้องพักของชัยยุทธพอกดออดเรียกไม่นานเพื่อนรักก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับชุดอยู่บ้านที่เป็นตัวเองที่สุด เสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขายาว และเสื้อคลุมที่มีขนฟูฟ่องสีม่วง
“กว่าจะมาได้ฉันหิวจะกินผู้ชายได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย” ชัยยุทธแกล้งพูดประชดแล้วเอื้อมมือไปดึงถุงอาหารที่เพื่อนถือมาก่อนจะเดินเข้าไปในครัวทันที
“อ้าวก็นึกว่ากินผู้จนอิ่มแล้วเสียอีก” รินรดาพูดแล้วบุ้ยใบ้ไปที่ตู้รองเท้าที่มีถุงเท้าผู้ชายตกอยู่
“ตาดีนักนะยัยคุณหนู ถุงเท้าอันนั้นอาจจะเป็นของฉันก็ได้” ชัยยุทธพูดแล้วสะบัดค้อนใส่เพื่อนที่รู้ทันไปหมด
“ฉันเป็นเพื่อนเธอมากี่ปีชาช่าทำไมจะไม่รู้ว่าเธอเป็นคนระเบียบขนาดไหนไม่มีทางที่ถุงเท้าจะหล่นเรี่ยราดแบบนี้แน่” เธอพูดแล้วยักคิ้วให้เพื่อนรักอย่างสนุกที่แกล้งอีกฝ่ายได้
“ย่ะแม่คนฉลาดปราดเปรื่อง แล้วที่มาหาฉันเนี่ยมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า” ไม่บ่อยนักที่รินรดาจะมาหาเขาทันทีที่ลงจากเครื่องแบบนี้
“ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากเล่นสนุกแกล้งคนเล่นเท่านั้นเอง” รินรดาพูดและยิ้มออกมาก่อนจะยกจานอาหารไปวางที่โต๊ะ
คนรู้ทันเพื่อนก็กลอกตามองบนกับความสนุกที่เพื่อนรักมี แต่ก็ไม่พูดบ่นอะไรเพราะเขาไม่เคยเถียงรินรดาชนะสักที อีกอย่างตอนนี้เขาก็หิวมากแล้วหลังจากที่ใช้พลังงานไปเยอะ
++++++