รินรดาเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเองหลังจากที่ได้ยินคำพูดของพีรวัสแล้วเธอก็แอบเดินออกจากพุ่มไม้ด้วยฝีเท้าที่เบามาก ถึงจะรู้ว่าเขาไม่เคยคิดอะไรด้วยเลยแต่พอได้ยินก็เจ็บและหมั่นไส้ทุกที
“คิดเหรอว่าแค่คำพูดของพี่พีทจะทำให้รดาถอดใจได้ง่าย ๆ อยากรู้นักว่าจะทำได้อย่างที่พูดไหม” เธอมาก่อนคนอื่น ๆ แล้วเรื่องอะไรจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นมาแย่งพีรวัสไปด้วยล่ะ ต่อไปนี้เธอจะเดินหน้าทำทุกอย่างเพื่อให้ผู้ชายที่ปฏิเสธเธอครั้งแล้วครั้งเล่ากลืนน้ำลายตัวเองให้ได้ ว่าแล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาใครบางคนที่จะช่วยเธอได้
“ชาช่าวันนี้เธอว่างไหม ฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย อยากกินอะไรบอกเดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเต็มที่เลย...แค่นั้นเองไม่มีปัญหาเอาไว้เจอกันนะจ๊ะเพื่อนรัก” พูดจบเธอก็วางสายไปทันที ตอนแรกเธอตั้งใจจะชวนน้ำทิพย์ แต่เพราะรู้ว่าถ้าเพื่อนสาวรู้เรื่องที่เธอจะทำมีหวังโดนบ่นหูชาแน่
พอคุยโทรศัพท์นัดหมายกับเพื่อนเสร็จเธอก็วิ่งไปอาบน้ำแต่งตัวทันที จากนั้นก็วิ่งลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้คนที่กำลังเดินขึ้นต้องชะงักแล้วรีบถามออกมา
“จะรีบไปไหนรดา” ชนาเทพถามเมื่อเห็นว่าการแต่งตัวของน้องสาวดูแปลกตาไม่เหมือนชุดอยู่บ้าน
“รดามีนัดกับชาช่าค่ะ”
“นัดไปไหนกันวันนี้วันหยุดนะ” ชายหนุ่มถามขึ้นเพราะปกติวันหยุดพวกเขาจะอยู่บ้านไม่ค่อยไปไหน เพราะวันทำงานมีเวลาเจอกันก็แค่มื้อเช้าเท่านั้น
รินรดายิ้มประจบแล้วเดินเข้าไปกอดเอวของพี่ชายเอาไว้ก่อนจะพูดเสียงอ่อนเสียงหวานออกมา
“ก็ชาช่าว่างวันนี้วันเดียว แต่รดาสัญญาว่าจะกลับมาให้ทันมื้อเย็นไม่เบี้ยวแน่นอนค่ะ”
“ก็ได้ แต่ถ้าผิดสัญญาพี่จะตัดเงินเดือนเรานะ” ชนาเทพแกล้งพูดขู่ เพราะเขาไม่เคยใจแข็งและใจร้ายกับน้องสาวได้เลยสักครั้ง
“รดารู้ว่าพี่หนึ่งไม่ใจร้ายหรอก แต่ไม่ต้องห่วงค่ะรดากลับมาทันแน่นอน รดาไปก่อนนะคะจะได้ไม่เสียเวลา” พูดจบรินรดาก็เขย่งเท้าขึ้นไปจูบแก้มพี่ชายเร็ว ๆ แล้วรีบวิ่งลงไปบันไดไป
“ไปต้องวิ่งขนาดนั้นก็ได้ แล้วอย่าขับรถเร็วนะ!” ชนาเทพตะโกนไล่หลังน้องสาวไป และเขาต้องส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นว่ารินรดาส่งเสียงขานรับพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่อีก
“ไอ้พีทถ้านายรู้ตัวตนที่แท้จริงของรดาจะมาเปลี่ยนใจทีหลังฉันจะแกล้งให้กระอักเลือดเลยคอยดู” เขาเชื่อว่าถ้าผู้ชายอย่างพีรวัสรู้ตัวตนที่แท้จริงของรินรดาจะต้องหลงรักได้ไม่ยาก แต่ก็นั่นแหละสองคนนี้ชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากทุกที
...
พีรวัสยืนมองรถหรูคันเล็กสีแดงที่เคลื่อนออกจากบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ข้างบ้านอย่างแปลกใจ เพราะเขารู้มาว่าปกติแล้วทุกวันหยุดครอบครัวของเพื่อนรักจะไม่ออกไปไหน แต่นี่รินรดาขับรถออกไปดูจากการแต่งตัวแล้วคงไม่ได้ออกไปใกล้บ้านแน่
“จะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไม จะไปไหนก็ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย” พีรวัสก็เดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อลงไปทานมื้อกลางวันกับมารดา แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องของรินรดาก็ยังแว่บเข้ามาในหัวอยู่เป็นพัก ๆ แม้จะพยายามสลัดทิ้งเท่าไรก็ตาม
ส่วนรินรดาพอไปถึงที่ที่ได้นัดหมายกับเพื่อนรักอีกคนไว้ แต่พอเดินเข้าไปในร้านอาหารที่เพื่อนส่งข้อความมาบอกว่ารออยู่ที่ไหนก็ต้องชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่าชาช่าไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว เธอเดินเจื่อน ๆ เข้าไปหาคนทั้งคู่ทันที
“ทิพย์มาได้ยังไง วันนี้ไม่ไปหาพี่เปาที่คอนโดเหรอ” รินรดาถามแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับน้ำทิพย์พร้อมกับกอดแขนชาช่าไว้ด้วย
“ไปตอนเย็น เพราะตอนกลางวันมีเรื่องต้องมาทำเป็นเพื่อนชาช่าก่อน” น้ำทิพย์พูดเสียงนิ่ง ๆ แล้วใช้สายตาจับผิดมองคนมาใหม่ไปด้วย
รินรดามองหน้าคนที่นั่งข้าง ๆ และต้องถอนหายใจออกมาเมื่อเพื่อนยักไหล่ขึ้นแล้วกรีดกรายนิ้วหยิบแก้มกาแฟขึ้นมาจิบเบา ๆ
“อย่าทำเสียงแบบนั้นสิ ที่ไม่โทรไปชวนเพราะไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของเธอกับพี่เปา ส่วนชาช่าไม่มีใครหลงผิดมาเอาไปเป็นแฟนไงเลยว่าง” เธอพูดเสียงอ้อนแอ้ม
“ต๊าย! ปากคอเราะร้ายนะยัยคุณหนูรินรดา พูดอย่างนี้ฉันกลับดีกว่าเชิญพวกหล่อนอยู่กันตามสบายเลย” ชาช่าหยิบกระเป๋าและกำลังจะลุกแต่รินรดาก็รีบคว้าแขนเอาไว้ก่อน
“โอ๋ ๆๆ อย่าเพิ่งน้อยใจกันสิ แต่มาพร้อมกันแบบนี้ก็ดีแล้วช่วงนี้พวกเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันแบบนี้เลย” รินรดาพูดและยิ้มประจบเพื่อนทั้งสองคน
น้ำทิพย์และชาช่าหรือมีชื่อเต็มแมน ๆ ว่าชัยยุทธพากันถอนหายใจให้กับความขี้อ้อนเหมือนเด็กของเพื่อนตัวเอง ต่อหน้าคนอื่นรินรดาจะเป็นสาวมั่นไม่ยอมใคร แต่ถ้าอยู่กับคนที่สนิทเมื่อไรจะกลายร่างเป็นสาวขี้อ้อนติดจะบ๊องซ์ ๆ ด้วยซ้ำ
“เอาเถอะ ๆ ว่าแต่ที่นัดพวกเรามีเรื่องอะไรจะให้ช่วยเหรอ” น้ำทิพย์เป็นคนพูดออกมา
รินรดายิ้มเผล่แล้วพูดเสียงดังฟังชัดจนคนได้ยินพากันตกใจและอ้าปากค้างไปทันที
“ฉันจะให้พวกเธอพาไปแปลงโฉมและซื้อเสื้อผ้าใหม่”
“อะไรนะ / เล่าทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้!!” น้ำทิพย์และชัยยุทธพูดขึ้นมาพร้อมกัน แล้วหลังจากนั้นรินรดาก็ต้องตอบคำถามทุกเรื่องที่เพื่อนทั้งสองอยากรู้จนหมดเปลือก