บทที่ 1 แรกพบสบตา 2

1234 Words
“วันเกิดหนูรดาทั้งทีป้าจะไม่มาได้ยังไงล่ะจ๊ะ” ดวงเดือนพูดและหันไปรับไหว้หญิงสาวอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของรินรดา “นี่จ้ะของขวัญวันเกิดจากป้า” ดวงเดือนรับของขวัญจากคนสนิท ซึ่งรินรดาได้ยกมือไหว้หญิงสูงวัยที่เป็นแม่บ้านคนเก่าแก่ของดวงเดือน “ขอบคุณนะคะ เชิญคุณป้ากับป้าอรนั่งที่โต๊ะเลยค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อคงจะลงมาแล้ว” รินรดาพาแขกทั้งสองคนไปนั่งที่โต๊ะที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม จำนวนเก้าอี้ครบตามจำนวนแขกที่มาวันนี้ และก็เป็นอย่างที่เธอพูดเพราะไม่นานบิดาและพี่ชายพร้อมกับป้าพิกุลก็เดินเข้ามาพอดี พอเห็นว่าเจ้านายมากันครบแล้วอาหารก็ถูกเสิร์ฟทันที อาหารวันนี้เป็นอาหารไทยไม่ได้สวยหรูเหมือนตามโรงแรมเพราะเจ้าของวันเกิดอยากให้เป็นการทานอาหารร่วมกันธรรมดา ภายในงานก็เปิดเพลงแจ๊สฟังสบาย ๆ ขับกล่อมให้ทุกคนมีความสุข การทานอาหารเป็นอย่างแช่มชื่นมีการพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์อะไร บางทีความสุขที่ได้รับก็ไม่จำเป็นต้องขวนขวายหาจากคนข้างนอก เพราะความรักของคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ++++++ พีรวัสมองถนนหนทางและข้างทางอย่างสนใจ ขณะที่รถยุโรปคันหรูวิ่งตามทางที่เขาได้แจ้งกับคนขับรถไปก่อนหน้านี้แล้วว่าต้องการให้ไปส่งที่ไหน กรุงเทพฯ ไม่ว่าตอนไหนการจราจรก็ติดขัดโดยเฉพาะวันนี้ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คนอื่นอาจจะไปเที่ยวแต่เขากลับเลือกที่จะกลับมาบ้านที่จากมาร่วมหกปี เขาไม่ได้บอกที่บ้านหรือบอกใครว่าจะกลับมาวันนี้เพราะอยากจะเซอร์ไพร์สมารดาที่โทรไปต่อว่าต่อขานเรื่องที่เขาไม่ยอมกลับตามกำหนดที่ท่านบอกไว้ ก็พอจะรู้ว่านอกจากวันนี้จะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าและยังเป็นวันเกิดของน้องสาวของชนาเทพอีกด้วย คิดแล้วเขาก็นึกถึงภาพรินรดาไม่ออกเพราะเขาไม่เจอหน้าหญิงสาวมาร่วมหกปี ไม่น่าเชื่อว่าคนที่คุ้นเคยกันอยู่บ้านข้าง ๆ กันแท้ ๆ จะไม่ได้เจอหน้ากันเลย ตอนนี้หญิงสาวคงโตเป็นผู้ใหญ่มากแล้วถ้าให้เดาตอนนี้รินรดาคงเป็นสาวมั่นสาวเปรี้ยวนั่นแหละ หลายอย่างอาจเปลี่ยนไปแต่ความดื้อของรินรดายังอยู่เต็มเปี่ยมก็ได้ อยากรู้นักว่ากลับมาเจอกันอีกครั้งอีกฝ่ายจะหนีหน้าไปได้อีกนานแค่ไหน “ถึงแล้วครับคุณผู้ชาย” คนขับรถของสนามบินพูดขึ้นเมื่อมาจอดรถที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ “ขอบคุณมากนะครับ” พีรวัสพูดแล้วเปิดประตูลงไปรอให้คนขับรถเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบมาวางไว้ให้ก่อนจะขอตัวกลับไป พีรวัสมองเข้าไปในบ้านและกดออดเรียกให้คนในบ้านรู้ ไม่นานก็มีสาวใช้วิ่งออกมาพร้อมกับยามที่ไปเดินตรวจดูรอบ ๆ บ้าน สองคนนั้นมองเขาด้วยตามสายตาที่ดูงง ๆ คงเพราะเป็นคนใหม่เลยไม่รู้จักเขา “เออ...มาหาใครครับ” ยามถามขึ้น “มาหาคุณดวงเดือนครับ ไม่ทราบว่าท่านอยู่ไหม” พีรวัสพูดอย่างนึกสนุกที่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ พอดีผมต้องทำตามกฎของเจ้านายน่ะครับ” เพราะไม่เคยเห็นหน้าชายหนุ่มมาก่อนเขาเลยไม่กล้าปล่อยให้เข้าไปในบ้านได้ แม้การแต่งตัวจะดูดีก็ตาม พีรวัสยิ้มมุมปากและนึกชื่นชมในความรอบคอบของคนในบ้านที่ไม่เปิดประตูให้คนสุ่มสี่สุ่มห้า “ผมชื่อพีรวัส” พอได้ยินชื่อแขกที่มาและประกอบกับว่าสังเกตใบหน้าคมเข้มดี ๆ ยามและเด็กรับใช้ในบ้านก็ต้องตาโตขึ้นมาเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่ยืนตรงหน้าเป็นใคร และไม่รอช้ายามรีบเปิดประตูให้ทันที “ขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมไม่ทราบว่าเป็นคุณพีรวัส” “ไม่เป็นไรทำแบบนี้ถูกต้องแล้ว” เขาพูดและไม่ถือสาทั้งสองคนแต่อย่างใด สองคนนั้นช่วยกันลากกระเป๋าเดินทางเดินเขาเข้ามาในบ้าน “แม่ไปไหนทำไมบ้านเงียบจัง” พีรวัสถามเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน และต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นใครแม้แต่ป้าบังอร “คุณท่านกับป้าอรไปงานวันเกิดคุณรดาค่ะ” เด็กรับใช้บอก “งั้นเหรอ เดี๋ยวช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ด้วยนะฉันจะไปหาท่านที่บ้านนู้นเอง” เขาบอกแล้วส่งเสื้อตัวนอกให้เด็กรับใช้แล้วตัวเองก็ถือแค่กระเป๋าสะพายใบย่อมติดตัวไปเท่านั้น พีรวัสเดินมาตามทางที่แนวรั้วกั้นระหว่างบ้านของเขากับชนาเทพ และต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่ามันมีประตูเล็ก ๆ กั้นอยู่ทำให้ดูสะดวกเวลาจะเดินข้ามไปหากัน ทันทีที่เดินเข้าไปในบ้านอีกหลังเขาก็ได้ยินเสียงเพลงซึ่งดังมาจากด้านหลัง เขาเลยเดินตามเสียงเพลงไปและต้องยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นว่ามารดากำลังนั่งคุยและหัวเราะอยู่กับเจ้าของบ้าน พอท่านหันมามองเห็นเขาก็ต้องตาโตขึ้นมา “เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณป้า” ชนาเทพถามขึ้นเมื่อเห็นดวงเดือนทำหน้าเหมือนตกใจอะไรบางอย่าง พอเห็นว่าท่านไม่ตอบเขาเลยหันไปมองและก็มีอาการไม่ต่างจากหญิงสูงวัยเลย ทำให้ผู้ร่วมโต๊ะคนอื่นต่างก็แปลกใจและหันไปมองตรงจุดที่ทั้งสองคนมอง “อ้าวตาพีทกลับมาตั้งแต่เมื่อไร” เป็นคุณจามรที่มีสติถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าใครเดินเข้ามาหา แน่นอนว่าเจ้าของวันเกิดที่ได้ยินชื่อคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานแผ่นหลังเกร็งขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ และเป็นคนเดียวที่ไม่หันไปมอง “สวัสดีครับคุณอา ผมเพิ่งกลับมาถึงพอเห็นว่าที่บ้านไม่มีใครอยู่เลยลองเดินตามเสียงเพลงมานี่แหละครับ” พีรวัสยกมือไหว้จามรผู้เป็นเจ้าของบ้านและเป็นบิดาของเพื่อนอย่างชนาเทพ ดวงเดือนพอหายตกใจก็อ้าแขนรอให้ลูกชายเดินเข้ามาหา พีรวัสเองก็ไม่ทำให้ท่านต้องรอนานเขาเดินเข้าไปกอดท่านแน่น ๆ ด้วยความคิดถึงแม้ว่ามารดาจะไปหาอยู่บ่อย แต่ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็เกือบปีแล้ว “จะกลับมาทำไมไม่บอกแม่ล่ะลูก แล้วนี่มายังไง” ดวงเดือนถามแล้วลูบหน้าลูบหลังลูกชายไปด้วย “รถของสนามบินมาส่งครับ ที่ไม่บอกเพราะอยากมาเซอร์ไพร์สแม่ไงครับ” เขาพูดยิ้ม ๆ แล้วหันไปกอดป้าบังอรที่นั่งน้ำตาคลออยู่ “ร้องไห้ทำไมครับเสียใจเหรอที่ผมกลับมา” พีรวัสกระเซ้าคนที่เลี้ยงเขามา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD