“ได้ของขวัญชิ้นใหญ่ไปแล้วจะลืมของขวัญของป้าหรือเปล่านะ” ดวงเดือนแกล้งพูดขึ้นมา
“ไม่ลืมหรอกค่ะ ของขวัญที่ทุกคนให้มีค่าสำหรับรดาทั้งนั้นเลยค่ะ” รินรดาพูดและยิ้มเอาใจคุณดวงเดือน ใจจริงอยากจะลุกไปกอดท่าน แต่เพราะพีรวัสนั่งอยู่ข้าง ๆ ท่านเธอเลยไม่อยากเดินเข้าไปหา
“ป้าล้อเล่นจ้าคนสวย เอาไว้โอกาสหน้าป้าจะเตรียมของขวัญชุดใหญ่ไว้ให้เลยนะ” ดวงเดือนพูดพร้อมกับมองไปที่จามรด้วยสายตาที่อีกฝ่ายก็รู้ดีว่าคืออะไร
พีรวัสมองใบหน้าเรียวของรินรดาและคิดว่าเวลาผ่านมานานจากเด็กหญิงผมเปียหน้ากลมกลายเป็นสาวสวยเต็มตัวแล้ว ทุกอย่างดูเปลี่ยนไปเว้นเสียแต่แววตาที่รินรดามองเขา มันดูว่างเปล่าจนเขานึกโมโหไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะดื้อและทำตามคำพูดสุดท้ายของเขาได้ พอเห็นว่าเวลาผ่านเกือบจะเที่ยงคืนแล้วเขาก็พูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่นั่งเงียบไปนาน
“ผมมีของฝากมาให้ทุกคนด้วยนะครับ”
“ฉันว่าจะถามอยู่ แต่กลัวถูกไล่ออกเลยเก็บปากเอาไว้ก่อน” ชนาเทพพูดและหัวเราะออกมา พีรวัสไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มแล้วหยิบของฝากในกระเป๋าให้คุณจามรก่อนแล้วตามมาด้วยมารดาและผู้สูงวัยอีกทั้งสอง ของฝากทั้งสี่กล่องเป็นวิตามินและอาหารเสริมยี่ห้อดังที่เลือกมาให้เหมาะสมตามสภาพร่างกายของทุกคน
“อ้าวของฉันล่ะ” ชนาเทพโวยวายขึ้นเมื่อไม่เห็นของฝากของตัวเอง
“นายนี่นะกวนประสาทไม่เลิก กับคนไข้ไปกวนเขาแบบนี้ไหม แล้วของนายน่ะเรียกว่าของฝากได้เหรอวะ” พีรวัสพูดขึ้นมา เพราะไอ้เพื่อนตัวดีโทรไปบอกว่าอยากได้อะไร
“เออน่าอะไรที่นายซื้อก็คือของฝากนั่นแหละ ว่าแต่ได้มาไหมล่ะ” ชนาเทพถาม
พีรวัสส่ายหน้าไปมาแล้วหยิบของฝากออกมาส่งให้เพื่อนรักไปก่อนจะพูดแซวขึ้นมา
“เอาไป...ฉีดให้สาว ๆ วิ่งตามไปเลยนะ” ของที่ชนาเทพอยากได้เป็นน้ำหอมยี่ห้อดัง
“ไม่ฉีดสาว ๆ ก็วิ่งตามอยู่แล้วโว้ย” คุณหมอหนุ่มพูดและยักคิ้วให้เพื่อนอย่างรู้กัน
พีรวัสส่ายหน้าไปมาแล้วสายตาก็มองไปที่กล่องของขวัญอีกกล่องที่เขาตั้งใจซื้อมาฝากเจ้าของวันเกิดวันนี้โดยเฉพาะ เขามองอยู่สักพักก็ตัดสินใจพูดและยื่นกล่องสี่เหลี่ยมใบเล็กให้หญิงสาว
“รดา...พี่มีของขวัญมาให้ แต่ไม่รู้ว่าถูกใจหรือเปล่านะพอดีไม่เคยเลือกของผู้หญิงเท่าไร”
ทุกคนที่นั่งอยู่พอได้ยินคำพูดของพีรวัสก็พากันนั่งเงียบพร้อมกับมองและลุ้นว่ารินรดาจะยอมรับของขวัญไหม ด้านรินรดาเองก็หันไปมองคนพูดแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา จนรู้สึกว่ามือของตัวเองถูกบีบจากน้ำทิพย์ทำให้เธอต้องพูดออกมา
“ขอบคุณนะคะที่ซื้อมาฝาก” รินรดาพูดและยื่นมือไปรับ พยานทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ยังไม่ทันได้โล่งอกดีก็ต้องพากันชะงักเมื่อคนรับพูดประโยคต่อมา
“แต่วันหลังไม่ต้องลำบากซื้อมาให้หรอกค่ะ” รินรดาพูดเสียงเรียบและยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย
++++++