สายจากมนุษย์ต่างดาว

1230 Words
‘ที่สุดแล้ว...เราเพียงต้องการใครสักคน ที่พร้อมจะรับฟังทุก ๆ เรื่องในแต่ละวันของเรา ในยามที่เราพบเจอกับเรื่องราวอะไรต่าง ๆ ในแต่ละวัน เรามีความสุขเรื่องอะไร เรามีความทุกข์เรื่องอะไร เราก็อยากจะถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ พวกนั้นให้กับเขาได้รับฟัง ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะต้องประทับใจในความสุขของเรา และก็ไม่ได้คาดหวังให้เขามาปลอบใจกับความทุกข์ เราเพียงต้องการคนที่รับฟัง แค่เพียงฟัง เราต้องการแค่นั้นจริงๆ...” -แอดมินสายลม- ส่วนเรื่องที่มีโรคจิตโทรมาแอบอ้างว่าตัวเองเป็นมนุษย์ต่างดาวนั่นน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจากที่ฉันตั้งใจจะรับสายแล้วคุยด้วยเพื่อทำบุญ เห็นว่าคงจะเหงาแล้วอยากมีเพื่อนคุย เชื่อไหมนี่ก็ผ่านมาตั้ง 2 อาทิตย์แล้วที่เราสองคนคุยกันทุกวัน หมอนั่นโทรมาตรงเวลาเสมอ ฉันเองก็ไม่ได้ทำอะไร และไม่ได้คุยกับใครอยู่แล้ว ก็เลยคุยกันมาเรื่อย ๆ หมอนั่นไม่ได้มีบทสนทนาน่ารังเกียจแบบที่ฉันเคยได้ยินมา เกี่ยวกับพวกโรคจิตที่ชอบโทรไปป่วนผู้หญิงคนอื่น ๆ เราคุยกันถึงเรื่องราวที่เจอมาในแต่ละวัน ฉันเล่าทุกอย่างที่ไปเจอมาแต่ละวันให้หมอนั่นฟัง แปลกดีที่มันช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้เล่ามันออกไป อ้ออีกเรื่องหมอนั่นชื่อจำยากมากฉันเลยเอาชื่อแฝงของฉันที่ชื่อว่าสายลมมาตั้งให้เขา แต่ส่วนมากคนที่พูดจะเป้นฉันมากกว่า หมอนั่นน่ะไม่ค่อยพูดค่อยจาอะไร เหมือนจะชอบฟังมากกว่า ก็ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองหรือเปล่า แต่ฉันคิดว่างั้นนะ "ฉันไปหาข้อมูลเรื่องอ้วนมาแล้วนะ" ฉันเล่าให้เขาฟังน่ะว่าตัวเองอ้วนมาก แต่นายนั่นไม่เข้าใจคำว่าอ้วน แล้วก็ขอไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่องคำว่าอ้วน ถึงจะมาคุยกับฉันอีกที "อืม เป็นไง ที่ดาวนายมีคนอ้วนหรือเปล่า" ฉันว่าฉันเริ่มจะชินกับการที่ต้องเข้าใจ ว่านายสายลมนี่มาจากต่างดาวแล้ว "เคยบอกไปแล้วนี่ว่า พวกเราคุมอาหาร อะไรที่จะเอามากินต้องวิจัยก่อนว่ากินแล้วจะไม่ส่งผลเสียให้กับร่างกาย" ‘เหอะแบบนั้นคงอึดอัดตายชัก ฉันน่ะเคยลองกินคลีนแล้ว ทั้งไม่อร่อย ไม่อิ่ม ไม่รู้คนอื่นกินกันยังไง’ ฉันคิดในใจ แค่นึกภาพก็อี๋แล้ว "แสดงว่าไม่มี" ฉันขอเดาเลย "ใช่ ไม่มี อ้วนถือเป็นโรคอย่างหนึ่งสำหรับที่นี่" ‘เฮ้อ...แม้แต่ดาวดวงอื่นยังแอนตี้คนอ้วนเลยเหรอ เฮงซวยชะมัด' "แล้วแบบนี้นาย..." ไปต่อไม่ถูกเลยแฮะ "อะไรเหรอ" ฉันไม่กล้าพูดต่อเลย เขาจะรังเกียจฉันไหม ยิ่งเขาจัดหมวดหมู่คนอ้วนให้เป็นคนป่วย ยิางน่ากังวล "นายจะไม่รังเกียจฉันเหรอ ที่ฉันเป็นคนป่วยโรคอ้วนน่ะ" "ฉันจะรังเกียจเธอทำไม เราเป็นเพื่อนกันนะ" ‘ประโยคธรรมดาๆ ที่มันฟังดูแล้วพิเศษมากๆ สำหรับฉัน ชีวิตนี้เกิดมาไม่เคยมีเพื่อนสนิทกับเขาสักที เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหน อีอ้วน ก็มักจะเป็นคำเรียกที่ใครต่อใครเอามาเรียกแทนชื่อฉันเสมอ ฉันทั้งถูกแกล้ง ถูกล้อ และก็ไม่มีใครอยากคบเป็นเพื่อน นั่นยิ่งทำให้กำแพงในใจฉัน ยิ่งสูงขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ’ "เชื่อไหม ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันรู้สึกว่าฉันมีเพื่อนแล้วจริงๆ" ฉันพูดจริง ๆ นะ ทุกวันนี้ฉันไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลย ส่วนหนึ่งก็คงมาจากการที่ฉันปิดกั้นตัวเองด้วยแหละ ฉันกลัว ฉันกลัวการเข้าหาคนอื่น จริง ๆ ฉันกับสายลมเราแค่โทรคุยกัน แต่มิตรภาพที่มีให้กัน มันกลับยิ่งใหญ่มาก เขาทำให้ ฉันรู้สึกไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไป ไปเรียนก็มีความหวังขึ้น ไม่ว่าจะเจอกับอะไร ฉันก็จะคิดเสมอว่าไม่เป็นไร พอกลับมาบ้านได้คุย ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองไปเจอมาให้สายลมฟัง ทุกความรู้สึกแย่ ๆ ก็ทุเลาไปได้เยอะเลย ฉันไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกแล้ว "ดีใจนะที่เธอคิดแบบนั้น" เขาเป็นคนมองโลกบวก ต่างกับฉันที่มองโลกแบบเสมอ "เธอมีเพื่อนเยอะหรือเปล่า" "ถ้าเพื่อนบนไฮเรยามูก็เยอะ ฉันน่ะเข้าสังคมเก่ง แต่ชอบอยู่คนเดียว มันเงียบสงบ แล้วก็ไม่วุ่นวายดี" "ความเงียบไม่เห็นจะดีตรงไหน" ฉันไม่ชอบการอยู่เงียบ ๆ คนเดียวเลย "ดีสิ มันทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างเต็มที่นะ ฉันชอบทำงานประดิษฐ์เวลาเงียบๆ" "ประดิษฐ์อะไรเหรอ" "ก็ประดิษฐ์ข้าวของอะไรเรื่อยเปื่อย อย่างโทรศัพท์นี่ฉันก็ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง จริงๆ มันโทรทางไกลขนาดนี้ไม่ได้หรอก แต่ฉันก็พยายามทำจนสำเร็จ ทำอยู่เป็นปีกว่าจะจูนพิกัดจนโทรไปติดเธอ" "เวลาที่นี่กับที่นั่นเท่ากันไหม" ฉันเริ่มจะเชื่อจริง ๆ แล้วนะว่าเขามาจากต่างดาว ‘ฉันตัดสินใจถามอะไรขึ้นมาบ้าง บางอย่างมันทำให้ฉันเริ่มเชื่อแล้วจริงๆ ว่าเจ้านี่เป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆ’ "พ่อบอกว่าเวลาที่โลกเดินเร็วมาก 1 ชั่วโมงของเรา เท่ากับ 3 ชั่วโมงบนโลก" "น่าเบื่อแย่เลยสินะ กว่าจะผ่านไปแต่ละวัน" ถ้าเวลาบนโลกยาวนานขนาดนั้น ฉันคงเบื่อตาย "ไม่เลย ดีซะอีกมีเวลาทำอะไรเยอะแยะไปหมด" "นายก็พูดได้สิ นายไม่ต้องมีเจออะไรแบบฉันนี่" "ถ้าฉันเจออะไรแบบเธอ ฉันคงต่อสู้เพื่อตัวเอง" "ยังไง" "ถ้าใครมาล้อฉันเรื่องรูปร่าง ฉันต้องพยายามเปลี่ยนแปลง เพื่อลบคำพูดพวกนั้น" "พูดง่ายๆ ทำน่ะมันยาก" "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้หรอก ดูอย่างที่เราติดต่อกันอยู่ตอนนี้สิ จักรวาลกว้างใหญ่แค่ไหน ฉันเคยบอกเพื่อนว่าสักสันฉันจะทำโทรศัพท์ที่โทรไปบนโลกได้ ตอนนั้นพ่อฉันต้องเดินทางไปวิจัยและเก็บข้อมูลที่ดาวโลก นานมากที่ไม่ได้เจอ ไม่ได้ติดต่อพ่อเลย จนฉันเกิดความคิดขึ้นมาว่าอยากประดิษฐ์เจ้าเครื่องนี้ขึ้นมา แต่ไม่นานบริษัทหนึ่งบนไฮเรยามูก็ทำสำเร็จก่อน แต่โทรศัพท์นั่นใช้โทรหาได้แต่พวกเรา ฉันเลยคิดจะประดิษฐ์โทรศัพท์ที่จะโทรหามนุษย์ได้แล้วก็ต่อเครื่องแปลภาษาบองบริษัทพ่อเข้าไปเราต่างพูดภาษาตัวเอง แล้วเจ้าเครื่องเนี่ยจะทำการแปลเป็นภาษาจองอีกฝั่งโดยอัตโนมัติ" " ดูเพ้อเจ้อดี" "ใช่ไหมล่ะ แต่ฉันก็ทำมันจนสำเร็จ ลดความอ้วนทำง่ายกว่าประดิษฐ์ไอ้เครื่องนี่ตั้งเยอะ" ‘นี่ฉันต้องบ้าจี้ไปกับเจ้านี่จริงๆ เหรอ แต่ถ้าทำได้มันก็ดีกับตัวเองนี่ อืม!! ลองสักตั้ง ฉันจะลดความอ้วน!!!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD