เหลือทางเลือกไหนบ้าง

1227 Words
นับเป็นคืนที่สามแล้วที่พีรญามาทำงานที่ผับแห่งนี้ คืนนี้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น หมอนรสิงห์ก็แวะมาอย่างเคยแต่เขาไม่ได้เรียกเธอไปคุยเหมือนสองคืนแรกแต่หญิงสาวก็รู้ว่าเขามองเธออยู่ “เดี๋ยวเราจะไปกินก๋วยเตี๋ยวกันต่อแกจะไปด้วยกันไหมพรีม” “แกไปกับพลอยเถอะปลา ฉันเหนื่อยมากเดี๋ยวฉันเข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วก็จะรีบกลับเหมือนกัน” พีรญาตอบวรษาที่เดินมาคู่กับพลอยลดา “ขับรถกลับดี ๆ นะพรีม ซอยหอพักแกมันเปลี่ยวด้วยสิ” “ไม่เป็นไรฉันชินแล้วบ๊ายบาย แล้วเจอกันคืนพรุ่งนี้นะ” หญิงสาวบอกแล้วเพื่อนจากนั้นรีบกลับเข้าไปในห้องของพนักงานหยิบเสื้อคลุมตัวโตมาสวมทับชุดที่สวมอยู่จากนั้นก็เดินไปยังลานจอดรถของพนักงานซึ่งอยู่ด้านหลัง หญิงสาวขี่จักรยานยนต์ออกมาได้เพียงนิดผู้ชายสองคนก็มาขวางทางไว้ก่อน “ขอทางด้วยค่ะ” เธอบอกชายสองคนอย่างสุภาพ “จะรีบไปไหน คุยกันก่อนสิ” “พวกนายเป็นใครมาขวางไว้ทำไม” “ฉันเป็นคนของเสี่ยทรงพล เสี่ยให้มาถามว่าเมื่อไหร่จะใช้เงินเสียสักที” “ฉันก็กำลังหาเงินอยู่นี่ไง ถ้ามีก็เอาไปจ่ายแล้วน่า” “แล้วคืนนี้ได้เท่าไหร่เอามาจ่ายดอกเบี้ยก่อนไหม ถ้ายังไม่ยอมจ่ายอีกหน่อยหนี้สามแสนของเธอมันคงจะกลายเป็นห้าแสน” “จะบ้าเหรอฉันกู้มาสองแสนเองนะ” “ใช่....เธอกู้มาสองแสนแต่เธอไม่เคยจ่ายดอกเบี้ยเลยนะ ตอนนี้นี่มันก็ทบต้นทบดอกไปสามแสนแล้ว” “อะไรนะทำไมมันเร็วแบบนั้นล่ะ” “เธอไม่รู้เงื่อนไขเองนี่ว่าดอกเบี้ยเขาคิดเป็นรายวัน เอาเงินที่ได้คืนนี้มาก่อนอย่างน้อยฉันก็จะได้ไปบอกกับเสี่ยว่าเธอทยอยจ่ายดอกเบี้ย” หญิงสาวจำใจเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบเงินจำนวนสามพันที่เธอได้จากคืนนี้ให้กับผู้ชายสองคน “ทั้งคืนทำงานได้แค่นี้เหรอ แล้วเมื่อไหร่มันจะพอใช้หนี้ล่ะ” “นี่ฉันก็เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มแขกจนขาขวิดแล้วนะ กลางวันฉันก็ทำงานที่คาเฟ่แต่พวกนายก็รู้นี่ฉันยังเรียนไม่จบเงินเดือนก็ได้ไม่มาก เอาไว้ฉันเรียนจบแล้วฉันก็จ่ายหนี้พวกนายได้แน่นอน” “ฉันมีทางออกให้เธอนะ” “ทางออกอะไร” “ไปทำงานที่ผับของเสี่ยทรงพลสิ รับรองเธอได้ปลดหนี้แน่ ๆ” “ยังไงฉันก็ไม่มีทางไปทำงานที่ผับของเสี่ยทรงพลหรอก” พีรญาปฏิเสธเสียงแข็งเพราะรู้ว่าผับของเสี่ยทรงพลนั้นให้บริการลูกค้าแบบไหน “ลองคิดดูนะเธอทำงานที่นี่อีกกี่ปีกี่ชาติถึงจะใช้หนี้เสี่ยหมด ฉันว่าไปทำงานกับเสี่ยทรงพลไม่กี่คืนก็คงหมดหนี้ คืนแรกก็หลักแสนแล้ว” “ฉันไม่มีทางไปทำงานแบบนั้นเด็ดขาด” “คิดดูดี ๆ นะพรีมเสี่ยใจดีกับเธอมานานแล้วแต่อย่าถึงคราวให้เสี่ยต้องโมโห เสี่ยให้ฉันสองคนมาชวนเธอไปทำงานที่นั่นจะได้รีบปลดหนี้เร็ว ๆ” “ไม่!....ยังไงฉันก็ไม่มีทางไปทำงานที่ผับของเสี่ยทรงพลเด็ดขาด” “ก็ได้ แต่ถ้าภายในสิ้นเดือนนี้เธอยังหาเงินไปใช้เสี่ยไม่ได้เธอก็ต้องไปทำงานที่นั่น” “แต่เงินตั้งหลายแสนใครจะหาได้ภายในเวลาไม่ถึงเดือนกันล่ะ” “ฉันไม่ได้หมายความว่าให้เธอจ่ายทั้งหมด เสี่ยบอกว่าสิ้นเดือนนี้ขออย่างน้อยหนึ่งแสนก่อนแล้วที่เหลือค่อยผ่อนจ่าย เสี่ยเองก็ต้องรีบใช้เงิน ไม่ได้ผลิตแบงค์เองสักหน่อย” “แต่เสี่ยก็รวยล้นฟ้าผ่อนผันให้ฉันหน่อยไม่ได้รึไง อีกปีเดียวฉันก็จะเรียนจบแล้วนะ” “ใคร ๆ ก็อ้างแบบนี้ ขอร้องให้ผ่อนผัน ถ้าเธออยากให้เสี่ยผ่อนผันให้ เธอก็เข้าไปคุยกับเสี่ยเองสิ ไปคืนนี้เลยไหมล่ะตอนนี้เสี่ยยังอยู่ที่ผับ” “ฉันไม่มีทางไปเจอเสี่ยทรงพลเด็ดขาด” “ทีอย่างนี้ไม่กล้าไปเจอแต่ทีไปขอกู้เงินนี่รีบไปเลยโดยไม่มีใครเชิญเลยนะ” เขามองหน้าหญิงสาวแล้วหัวเราะ “จำไว้ก็แล้วกันถ้าสิ้นเดือนนี้เสียไม่ได้เงินหนึ่งแสน ยังไงเธอก็ต้องไปทำงานที่นั่น” เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกไป หญิงสาวหน้าซีดเพราะนึกไม่ออกว่าจะไปหาเงินจากไหนในเวลาอันสั้น เธอถอนหายใจก่อนจะสตาร์ทรถแต่รถยนต์ที่อยู่ข้าง ๆ ก็เปิดประตูออกมาเสียก่อน “เธอติดหนี้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอพรีม” “หมอสิงห์....” หญิงสาวตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะได้ยินบทสนทนาของเธอกับลูกน้องของเสี่ยทรงพลเมื่อครู่ “ไม่ต้องตกใจหรอก ฉันได้ยินหมดแล้ว ทำไมเธอไม่ให้ฉันช่วยล่ะ” “หนูไม่อยากขายตัว” “อย่าคิดว่ามันเป็นการขายตัวสิ คิดว่ามันเป็นการช่วยเหลือ” “ไม่มีใครช่วยใครแบบฟรี ๆ หรอกนะคะ พรีมรู้ว่าคุณต้องการอะไร” “เธอไม่ยอมขายตัวให้ฉันหรือเธอจะไปทำงานที่ผับของเสี่ยทรงพลล่ะ ผับนั่นไม่ใช่แค่เสิร์ฟเครื่องดื่มธรรมดานะ” “พรีมรู้ว่าผับนั้นเขาทำงานอะไร พรีมก็เลยไม่อยากไปทำงานที่นั่น” “ถ้ายังงั้นยอมให้ฉันช่วยสิ ฉันจะจ่ายหนี้ฉันจ่ายให้เลยสามแสน จากนั้นก็จะให้เงินเดือนอีกเธอจะได้ไม่ต้องมาทำงานกลางคืนแบบนี้” “นี่คุณกำลังจะจ้างให้หนูไปเป็นนางบำเรอของคุณอย่างนั้นเหรอ” “ฉันไม่ยึดติดกับคำเรียก อยู่ที่ว่าเธอจะตอบยอมรับข้อเสนอของฉันหรือเปล่า” “พรีมคิดว่าไม่ค่ะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งหลายวันพรีมจะต้องหาเงินมาให้ได้” “คิดดูนะพรีม เธอจะต้องหาเงินแสนหนึ่งภายในเวลาอีกแค่สิบกว่าวันไม่มีทางเลยที่เธอจะหาเงินได้เร็วขนาดนั้น หรือที่ไม่ยอมมาเป็นผู้หญิงของฉันเพราะอยากจะขึ้นค่าตัว ลองเสนอมาสิว่าอยากได้เท่าไหร่ฉันทุ่มไม่อั้นเลยนะ” “ทำไมคุณชอบดูถูกคนอื่นจังเลยคะ คุณก็รู้ว่าพรีมไม่มีทางเลือกอะไรเลย พรีมพยายามทุกอย่างเพื่อจะใช้หนี้โดยไม่ขายศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะผลักให้พรีมต้องไปทำแบบนั้น” หญิงสาวพูดแล้วสะอื้นอย่างไม่อาย เธอรู้สึกว่าตอนนี้ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาเกินกว่าตนเองจะรับไหว “อย่าร้องไห้สิ เดี๋ยวใครก็คิดว่าฉันทำอะไรเธอหรอก” ยิ่งพูดหญิงสาวก็ยิ่งร้องทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มจึงรีบจูงเธอเข้ามานั่งคุยในรถก่อนที่จะมีคนอื่นเข้าใจผิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD