หมอนรสิงห์ดูแลพีรญาจนหญิงสาวหายเป็นปกติและกลับไปทำงานได้ ส่วนตัวเขาก็กลับไปค้างที่บ้านอย่างเดิมเพราะวันศุกร์ชายหนุ่มมีผ่าตัดสำคัญที่ต้องใช้สมาธิและต้องการพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนการเข้าห้องผ่าตัดเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
เมื่อชายหนุ่มไม่อยู่ที่คอนโดหญิงสาวก็รู้สึกว่าที่นี่มันเงียบเหงากว่าเดิมมาก เธออยากให้หมอนรสิงห์มาอยู่ด้วยทุกวันแต่ก็รู้สถานะของตนเองดี แค่ช่วงที่เธอไม่สบายเขามาคอยดูแลมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีใจอย่างที่สุด จากที่เคยคิดน้อยใจว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กที่เขาซื้อมาเลี้ยงไว้เพื่อสนองตัณหา ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไปเพราะคุณหมอหนุ่มแสดงให้เห็นแต่ว่าเขาห่วงใยและใส่ใจเธออย่างจริงใจไม่มีเรื่องบนเตียงเข้ามาเกี่ยวข้อง
ความอ่อนโยนที่เขามอบให้มันทำลายกำแพงในใจของพีรญาจนหมดสิ้น จากนี้ไปไม่ว่าหมอนรสิงห์จะต้องการอะไรหรืออยากให้เธอทำอะไร เธอก็จะเต็มใจให้เขาทุกอย่าง
นอกจากเขาจะเป็นผู้มีบุญคุณที่ชำระหนี้ให้เธอแล้วเขายังทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยมากอีกด้วย ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่มาค้างด้วยแต่ก่อนนอนเขาก็ยังโทรมาคุยด้วยแม้จะไม่นานเท่าไหร่แต่ก็ยังรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงของเขา
“หมอสิงห์งานยุ่งมากเหรอคะ”
“อือ....โดยเฉพาะพรุ่งนี้ถ้ามีเรื่องด่วนให้โทรไปที่โรงพยาบาลนะ เขาจะติดต่อฉันในห้องผ่าตัด ฉันคงอยู่ในนั้นหลายชั่วโมง”
“พรีมคงไม่มีเรื่องด่วนไปรบกวนเวลาของหมอขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ฉันพูดเผื่อไว้น่ะ เพราะถ้าฉันอยู่ในห้องผ่าตัดแล้วมือถือจะไม่ได้อยู่กับตัว”
“ค่ะหมอ พรีมว่าคืนนี้หมอสิงห์รีบไปพักผ่อนก่อนนะคะพรุ่งนี้จะได้มีแรง พรีมขอให้พรุ่งนี้การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี คนไข้ของคุณหมอปลอดภัยหายเป็นปกตินะคะ” พีรญาพูดให้กำลังใจเพราะนี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะทำให้เขาได้
“ขอบใจนะพรีม เธอก็รีบนอนก็แล้วกันถ้าฉันออกจากห้องผ่าตัดไม่ดึกฉันอาจจะแวะไปค้างที่นั่น”
“ได้ค่ะ พรีมจะรอนะคะ” หญิงสาวกดวางสายแล้วยิ้มแค่เขาบอกว่าอยากจะมาค้างที่นี่เธอก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
…
เย็นวันศุกร์หลังจากเลิกงานแล้วพีรญาก็แวะตลาดสดซื้ออาหารมาตุนไว้ เพื่อจะได้ทำอาหารง่าย ๆ ทานเอง
หลังจากกลับมาถึงคอนโดพีรญาก็ทำอาหารจากนั้นก็นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขกเพื่อรอหมอนรสิงห์จนกระทั่งเวลาสี่ทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววของเขา หญิงสาวอยากโทรศัพท์ไปถามว่าการผ่าตัดวันนี้เป็นไปด้วยดีหรือเปล่า แต่ก็กลัวว่าการโทรไปของเธอจะเป็นการรบกวนเวลาทำงานหรือไม่บางทีตอนนี้เขาอาจจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้วก็ได้
เธอนั่งรอจนกระทั่งเที่ยงคืนก็ตัดสินใจเข้านอนเพราะคิดว่ายังไงแล้วคืนนี้เขาก็คงไม่มา
หลังจากคิดว่าคืนนี้นรสิงห์คงไม่มาที่นี่แล้ว พีรญาก็ปิดไฟเข้านอน หญิงสาวหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ก็ตกใจเมื่อรู้สึกว่ามีใครกำลังลงนอนลงข้างเตียง เธอรีบลุกขึ้นนั่งและเปิดไฟหัวเตียงทันที
“หมอสิงห์....” พีรญาตกใจว่าเห็นว่าตอนนี้นรสิงห์มานอนบนเตียงของตัวเรียบร้อยแล้ว
“อือ....ฉันเองปิดไฟเถอะ ตอนนี้ฉันง่วงมาก”
“หมอมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ กินอะไรมาหรือยังเหนื่อยไหม”
“พรุ่งนี้ค่อยคุยนะ ตอนนี้ขอนอนก่อนฉันทั้งง่วงและเหนื่อย” นรสิงห์เหนื่อยจนไม่อยากจะคุยอะไรต่อ ทำให้พีรญาเอื้อมมือไปปิดโคมไฟแล้วนอนลงตามเดิม
นรสิงห์ขยับเข้ามาใกล้แล้วดึงเธอมากอด หญิงสาวนอนตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้นจนกระทั่งรู้สึกว่าลมหายใจของเขาสม่ำเสมอแต่อ้อมกอดก็ยังไม่คลายออก หญิงสาวไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวจะทำให้เขาตื่นเธอจริงนอนอยู่แบบนั้นทั้งที่ใจเต้นแรง และด้วยความเหนื่อยที่ทำงานมาทั้งวันพีรญาก็หลับไปในอ้อมกอดของหมอนรสิงห์
หญิงสาวรู้สึกตัวตื่นมาอีกครั้งในเวลาเช้า ในขณะที่นรสิงห์ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง เธอค่อย ๆ เอาแขนของเขาออกจากตัวเธอจากนั้นก็อาบน้ำแล้วออกมาทำอาหารเช้า
พีรญาลังเลว่าจะปลุกนรสิงห์ดีหรือเปล่า เธอเดินเข้ามาในห้องอีกครั้งและเห็นว่าเขายังคงหลับสบายจึงตัดสินใจไม่ปลุกเพราะคิดว่าเขาน่าจะเหนื่อยจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปลุกพีรญาก็รีบแต่งตัวมาทำงานที่คาเฟ่ ระหว่างทำงานก็คอยมองโทรศัพท์ไปด้วยเผื่อว่านรสิงห์จะโทรมา แต่โทรศัพท์ของเธอก็เงียบตลอดทั้งวัน
...
พอเลิกงานหญิงสาวก็รีบกลับมาที่คอนโดและหวังว่าจะเจอนรสิงห์อยู่ที่ห้องแต่ทั้งห้องก็ว่างเปล่า หญิงสาวรู้สึกอ้างว้างอีกครั้งเธอทำอาหารทานเองเงียบ ๆ อย่างเคย ก่อนจะอาบน้ำและเข้านอน
แต่ยังไม่ทันที่จะปิดไฟเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบเดินออกมาจากห้องนอนแล้วยิ้มด้วยความดีใจ
“หมอสิงห์....พรีมนึกว่าหมอจะไม่มา เหนื่อยไหมคะ” หญิงสาวถามแล้วเดินไปเทน้ำมาส่งให้
“ขอบใจนะ ฉันเหนื่อยนิดหน่อย ตอนแรกก็ว่าจะไม่มาแต่นึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอใช่ไหม”
“ค่ะ คาเฟ่หยุดทุกวันอาทิตย์ค่ะ แล้วพรุ่งนี้หมอต้องไปทำงานไหมคะ”
“ฉันก็หยุดเหมือนกัน นี่จะนอนแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“ฉันเหนื่อยมาก นวดให้หน่อยได้ไหม”” นรสิงห์พูดขณะที่เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
“นวดเหรอคะ?”
“อืม….ที่ไหล่และคอ ฉันปวดมาทั้งวันแล้ว”
“ได้ค่ะ หันหลังมาสิคะ”
แล้วพีรญาก็ขยับเข้าไปนั่งด้านหลังเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เธอเริ่มใช้ปลายนิ้วนวดไปตามบ่าและไหล่แม้จะไม่ชำนาญแต่หญิงสาวก็ทำอย่างตั้งใจ
“แรงกว่านี้หน่อย” นรสิงห์ออกคำสั่ง
“ได้ค่ะหมอสิงห์” พีรญาเพิ่มแรงนวดแรงขึ้นไปตามคำสั่ง เธอเต็มใจที่จะนวดให้เขาทดแทนกับเวลาที่เขาดูแลเธอตอนที่ไม่สบาย
“ดีขึ้นไหมคะ?” เธอถามหลังจากนวดไปสักพัก
“ดีมาก….แต่พอเถอะฉันกลัวว่าเธอจะเมื่อยมือ” น้ำเสียงแสดงความพอใจอย่างมาก เขาจับมือเธอที่กำลังนวดอยู่แล้วดึงเธอให้ลงมานั่งบนตัก
“หมอสิงห์....” พีรญานั่งนิ่งอยู่บนตักของเขา ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่มากว่าทุกครั้ง
“ฉันให้เวลาเธอมานานแล้วคิดว่าตัวเองพร้อมหรือยัง” นรสิงห์ถามอย่างตรงไปตรงมา ทำให้คนฟังหน้าแดงขึ้นอีกเรื่อย ๆ
“พรีม....”
“ถ้าไม่พร้อมฉันจะกลับ” เขากระซิบด้วยเสียงทุ้มต่ำและเปี่ยมอำนาจ
พีรญาอยากปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะคิดว่าถ่วงเวลาไปมันก็แค่นั้นยังไงเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ตลอด
“พรีม....คือพรีมไม่รู้จะเริ่มยังไง” เธอตอบเสียงสั่นเพราะไร้ประสบการณ์
“ใครจะให้เธอเริ่มกันล่ะพรีม ขอแค่เธอเชื่อใจฉันแค่นั้น” นรสิงห์ลูบไล้ปลายนิ้วไปบนแขนแผ่วเบา ลมหายใจแรงขึ้นอารมณ์ที่อยากจะปลดปล่อยเพราะเก็บสะสมนานเกินจะทนได้อีกต่อไป
“พรีมเชื่อใจหมอสิงห์แต่.....”
“เชื่อใจก็ไม่ต้องมีคำว่าแต่นะพรีม”
พีรญาสบตาคมคู่นั้นแล้วพยักหน้าช้า ๆ สายตาของเขามันทำให้เธอรู้สึกถึงแรงดึงดูดอย่างประหลาด
“เริ่มจากการจูบก่อนดีไหมล่ะ” เขากระซิบ
หมอนรสิงห์ใช้มือประคองท้ายทอยของหญิงสาวแล้วรั้งเข้ามาใกล้ก่อนจะกดฝีปากได้รูปของเขาลงบนริมฝีปากปากอย่างช้า ๆ ปลายลิ้นอุ่นแทะเล็มไปรอบริมฝีปากเล็กก่อนจะแทรกเข้าไปในโพรงปากหยอกล้อทักทายกับเรียวลิ้นเล็กจนหญิงสาวอ่อนระทวยในอ้อมแขนแกร่ง
หญิงสาวรู้สึกมึนงงไปหมด ความรู้สึกเสียวซ่านกำลังแล่นพล่านอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แขนขารู้สึกอ่อนแรงไปหมด เธอเกาะไหล่เขาไว้แน่น จูบอ่อนหวานของนรสิงห์ทำให้เธอทำตัวไม่ถูกหญิงสาวเผลอจูบตอบเขาไปไม่ค่อยประสีประสาแต่ทุกอย่างแสดงออกมาจากสัญชาตญาณ