บทที่ 2 คำขอที่ลำบากใจ 1

1742 Words
หลังจากเกิดเรื่องไม่ดีกับพิยะตา เธอก็ต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น ไม่อยากให้คนรอบข้างเป็นห่วงอีกอย่างช่วงนี้ดนุพร สาวประเภทสองเจ้าของบาร์เหล้ากินนรีก็มีอาการแปลกๆ ชอบหลบหน้าหลบตาจนหญิงสาวกังวลใจ         “พี่แหวนคะ...วันนี้อาโด่งยังไม่มาอีกเหรอ” สาวดริ๊งค์รุ่นพี่หันมองช้าๆ เธอถอนหายใจอย่างรู้ความในใจของคนถาม แต่เธอก็ไม่สามารถบอกอะไรได้         “ยังหรอก พี่ติดต่อไม่ได้เลย”         “แล้วใครจะดูแลร้านล่ะคะ”         “คงต้องเป็นหน้าที่พิตต้าแล้วล่ะ...ช่วยดูแลแขกในบาร์ให้หน่อยนะ เดี๋ยวพี่จะให้นังกานต์ไปช่วย”         “พิตต้าทำไม่ได้หรอกค่ะ...งานแบบนี้ไม่ถนัดเลย”         “ถือว่าช่วยเจ๊แกเอาบุญเถอะพิตต้า...หายไปแบบนี้ไม่รู้ว่าป่วยหรือเปล่า” เมื่อได้ฟังหญิงสาวก็ไม่กล้าขัดคำว่ายวานของรุ่นพี่ เธอเดินนิ่วหน้าเข้าไปแต่งตัวตามคอนเซ็ปวันนี้ที่แจ้งให้พนักงาน โคโยตี้ รวมทั้งสาวดริ๊งค์ทั้งหลายรับรู้แล้ว ชุดสีแดงร้อนแรงที่เธอสวมใส่ทำให้ผิวขาวดูผุดผ่องขึ้นอีกมาก         “ว้าวไหนมาให้พี่ดูหน่อยซิ”         “เป็นสาวเต็มตัวแล้วนะเนี่ย อิอิ”         “โฮ พิตต้าเป็นสาวตั้งนานแล้วนะคะ นมก็มี ฮ่าๆ”         “ก็ทุกทีแต่งตัวพื้นๆ ไม่เซ็กซี่แบบนี้นี่นา...วันนี้สงสัยแขกตาค้างแน่”         “คริ คริ ใช่ค่ะ ใครกล้ามายุ่งกับพิตต้า โดนหนักแน่ๆ เอาให้ค้างไปเล๊ย” เสียงหัวเราะสดใสของเธอทำให้เพื่อนร่วมงานพลอยสบายใจไปด้วย ผู้หญิงกลางคืนที่ถูกใครต่อใครตราหน้าว่าไร้ศักดิ์ศรี สิ้นคิด แท้จริงแล้วพวกเธอก็มีหัวใจมีชีวิตที่ต้องกินต้องใช้ไม่ต่างจากคนอื่น ถึงจะมีคนด่าว่าแค่ไหนสาวๆ ที่นี่ก็ยังยึดอาชีพสาวดริ๊งค์เพราะความสำนึกในบุญคุณและไว้เนื้อเชื่อใจดนุพรเจ้าของบาร์         “สาวๆ ทั้งหลาย มาสุมหัวกันอยู่นี่เอง หน้าบาร์ไม่มีใครอยู่เลย แบบนี้แขกก็หนีหมดสิจ๊ะ” เสียงที่ถูกดัดให้เล็กของสาวประเภทสองร่างเพียว บางดังก่อนที่จะโผล่พ้นม่านลูกปัดสีเข้ม         “อาโด่ง...หายไปไหนมาคะอา พิตต้าติดต่ออาไม่ได้เลย” หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปสำรวจร่างกายของดนุพร         “ว๊ายๆ ยายพิตต้า เดี๋ยวซิลิโคลของฉันก็หลุดออกมาหรอก ดูสิมากอดซะแน่นนมเพิ่งทำมานะจ๊ะ”         “อาก็...พิตต้าเป็นห่วงนี่คะ” หน้าเรียวสวยที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาถูกแต่กลับทำให้เธอโดดเด่นยิ่งกว่าใครๆ อีกไม่กี่วันหลานสาวคนเดียวของดนุพรก็จะครบ 19 ปี แล้วหล่อนกังวลไม่น้อยกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ความสาวความสวย และอาชีพที่ไม่มีใครคิดในแง่ดีอาจจะไม่เหมาะกับเธออีกต่อไป หล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบไล่ให้สาวๆ ออกไปประจำหน้าบาร์คอยเรียกแขกที่ผ่านไปมา         “มีอะไรเหรอเจ๊ หน้าตาไม่ค่อยจะดีเลย” แหวนสังเกตเห็นความผิดปกติของเจ้านาย         “ไม่มีอะไรหรอก ฝากดูแลพิตต้าด้วย วันนี้แต่งตัวสวยขนาดนั้นแขกคงไม่ปล่อยแน่ๆ” คนฟังเข้าใจเจตนาของเจ้านายเธอพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป         “ฉันจะบอกพวกเธอได้ยังไงเนี่ยว่าฉันติดหนี้เสี่ยพงษ์ ตั้งหลายแสน ดีนะที่คุณธีร์เค้ายอมช่วยเหลือปลดหนี้ให้ก่อนไม่งั้นบาร์ก็คงถูกปิดไปตั้งนานแล้ว” ดนุพรมองบาร์เหล้าเก่าๆ ของตัวเองอย่างอาลัยอาวรณ์ เงินที่กู้ยืมมาเพื่อปรับปรุงกิจการตอนนี้ถึงกำหนดต้องใช้คืนแล้ว แต่กำไรที่ได้มันก็น้อยนิดไม่เพียงพอที่จะจ่ายให้เจ้าหนี้แน่นอน         เก้าอี้ตัวสูงหลายตัวเรียงรายรอบบาร์เครื่องดื่มที่มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าละอ่อนสองคนทำหน้าที่ผสมเครื่องดื่มสูตรต่างๆ ตามที่ลูกค้าสั่ง หญิงสาวในชุดสีแดงวาบหวิวเปิดโชว์ส่วนเว้าส่วนนูนที่ขาวอวบอิ่มเดินมาจับจองเก้าอี้คนล่ะตัวเพื่อนั่งเฝ้ารอลูกค้า         “คุณพี่ขา แหมวันนี้แต่งตัวหล่อนะเนี่ย เข้าไปนั่งข้างในก่อนนะคะ” เสียงหวานรีบชักชวนหนุ่มกลางคนให้เข้าไปในร้านก่อนที่จะมีใครคว้าเอาไปเสียก่อน สายตาชายจับจ้องส่วนที่โผล่พ้นเสื้อตัวจิ๋วแล้วต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่         “น่านะ เข้าไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ สักแก้วสองแก้วนะคะ” เสียงของสาวอีกคนช่วยเร่งกันตัดสินใจให้เขารีบเดินตามแรงเกาะเกี่ยวที่ต้นแขน         “นั่งตรงนี้ก็ได้ค่ะ...เดี๋ยวจะให้น้องๆ มานั่งเป็นเพื่อนนะคะ” พีอาร์สาวรีบกวักมือเรียกรุ่นน้องหน้าตาจิ้มลิ้มให้มานั่งคุยกับลูกค้าหนุ่มวัยกลางคนที่เธอเพิ่งจะต้อนมาจากหน้าร้าน         “นี่เด็กๆ ช่วยดูแลพี่เค้าหน่อยนะ อย่าให้พี่เค้านั่งเหงาคนเดียวล่ะรู้ไหม” หญิงสาวจีบปากจีบคอพูดกับรุ่นน้องหน้าตาจิ้มลิ้ม ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ลูกค้าหนุ่ม         “แหมพวกพี่นี่เก่งนะเนี่ย...ลูกค้ากี่รายก็หลงเสน่ห์จนไม่อยากไปไหน”         “จะทำงานแบบนี้มันก็เหมือนการแสดงละครแหละพิตต้า เราต้องเล่นให้สมบทบาทว่าเราปลื้มเค้ามาก”         “พิตต้าไม่ได้เก่งการละครซะหน่อย” หญิงสาวเบ้ปากเมื่อนึกถึงการที่จะต้องออดอ้อนผู้ชายที่ตนเองไม่ได้รักใคร่         “ถึงจะเก่งแค่ไหน เจ๊เค้าก็ไม่ยอมให้หลานสุดที่รักมาทำอาชีพแบบนี้แน่นอน แค่มาเต้นนิดๆ หน่อย อกเจ๊ก็จะระเบิดจนซิลิโคนทะลักอยู่แล้ว จริงไหมเจ๊”         “เวอร์ไปพี่กานต์ อาโด่งไม่หวงพิตต้าขนาดนั้นหรอก”         “โอ๊ย มัวแต่ชวนพี่คุยแขกมาแล้ว...โน้น ขาประจำ”         “อี๋ เสี่ยเ*******ูทั้งนั้น” พิยะตามองหน้าร้าน ลูกค้าวัยเกษียณกลุ่มใหญ่เดินเมียงมองสอดสายตาหาแทะโลมสาวๆเนื้อละอ่อน         “ถึงจะแก่ แต่ก็เป็นแหล่งเงินแหล่งใหญ่นะจ๊ะ”         “ไม่เอาด้วยหรอก ขืนมายุ่งกับพิตต้า แม่จะอัดซะให้ลืมแก่เลย”         “อืม...งั้นเข้าไปนั่งในร้านเลย ไปคิดเงินตามเดิมดีแล้ว เดี๋ยวจะมาวีนแตกใส่แขกของพี่”         “ซะงั้น พิตต้าอุตส่าห์แต่งตัวสวย คิดว่าวันนี้จะได้นั่งดริ๊งค์บ้าง...อดเลย”         “เดี๋ยวเถอะ แค่แต่งตัวเปิดโน่นนิดนี่หน่อย เจ๊โด่งก็กลุ้มใจจะแย่ กลัวจะมีแขกมาลวนลามหลานสุดที่รัก” พิยะตาย่นจมูกให้คำประชดของรุ่นพี่ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในร้าน         “เดี๋ยวสิครับน้องสาว...ว้าวสวยซะด้วย” มือหนาคว้าแขนเรียวก่อนที่เธอจะเดินเข้าซุ้มประตู พิยะตาหันหลับมามองผู้ชายที่ขัดขวางเธอ ใบหน้าคล้ำมีหนวดเครายิ้มพร้อมมองสำรวจร่างกายหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้ายิ่งเนินอกอวบสายตาเป็นมันจับจ้องไม่เกรงใจคนสาว         “ขอโทษค่ะ...หนูไม่ว่าง”         “ได้ยังไงจ๊ะ ไม่รู้เหรอว่าพี่เป็นใคร”         “เอ่อเสี่ยคะ...กานต์หาเด็กคนอื่นให้นะคะ”         “ฉันสนใจน้องคนนี้ เด็กใหม่เหรอ สวยใส ขาวอวบ” ลูกค้าหนุ่มลูบปากตัวเองพึงพอใจเรือนร่างที่อวบสวยของหญิงสาว         “ไม่ได้คะ คนนี้มีแขกจองแล้ว”         “เฮ้ย นี่พูดไม่รู้เรื่องเหรอ ฉันยอมจ่ายเพิ่มให้ก็ได้” เขาอารมณ์ฉุนขึ้นมาทันทีที่ถูกปฏิเสธ         “พี่กานต์” พิยะตาเสียงสั่น เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากมือหนาแต่เขาก็ดึงรั้งร่างเธอเข้าไปใกล้กว่าเดิม แถมก้มสูดหายใจใกล้ๆ เรือนผมสีดำขลับ         “น่ากินจริงๆ” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบอย่างรังเกียจ         “เข้าไปนั่งดื่มเบียร์เย็นๆ กับพี่ข้างในดีกว่านะจ๊ะคนสวย”         “ไม่ค่ะ...ปล่อยหนูเถอะนะคะ”         “ไม่เอาน่า อย่าเล่นตัวไปหน่อย สวยๆ ขาวๆ ขนาดนี้ ปล่อยไปพี่ก็เสียดายแย่สิจ๊ะ” หนุ่มใหญ่ดึงรั้งแขนหญิงสาวจนเธอเอียงไปแนบหน้าอกกว้าง คนตัวเล็กย่นจมูกเหม็นกลิ่นน้ำหอมที่เขาชโลมไว้ทั่วตัวราวกับอาบแทนน้ำ อีกทั้งน้ำมันใส่ผมรุ่นโบราณที่ส่งกลิ่นน่าสะอิดสะเอี่ยนชวนขนลุก หญิงสาวใช้ฝามือดึงตัวเขาออกห่างจากเธอ         “อย่าค่ะ หนูขอร้อง”         “นี่หนูจะลองดีกับพี่ใช่ไหม” เขาหงุดหงิดที่หญิงสาวปฏิเสธไม่มีเยื่อใย         “เปล่าค่ะ ตะ แต่หนู” แขนแข็งๆ รั้งร่างบางเข้าไปกอดหมายจะซุกไซร้สูดดม แต่หญิงสาวก็ดิ้นรนต่อสู้สุดแรง         “ปล่อยหนูนะ”         “เสี่ยขาปล่อยน้องเค้าเถอะนะคะเสี่ย”         “เอ๊ะนังนี่ชอบแส่จริงๆ ออกไป” ชายตัณหากลับตะหวาดใส่กานต์อย่างไม่พอใจ เขาโมโหจนเกือบจะเงื้อมมือฟาดใส่เธอ         “อย่าทำพี่กานต์นะ” เสียงใสตะโกนห้ามด้วยความตกใจ พิยะตาอยากจะดิ้นรนมากกว่านี้แต่กลัวว่าแขกคนอื่นจะตระหนกตกใจอาจจะพลอยทำให้เดินออกจากร้านไปเลยก็ได้         “ปล่อยผู้หญิงซะ” เสียงทุ้มๆ ดังขึ้น ทุกสายตาหันกลับไปมองต้นเสียงทันที         “แกเป็นใคร”         “ผู้หญิงคนนี้ของฉัน...ปล่อยเธอซะ” ด้านหลังของคนที่มาช่วยเหลือมีชายร่างกำยำอีกสองคน เขาเดินออกมาจากความมืด เสื้อสูทสีดำที่สวมใส่ปกปิดอะไรบางอย่างใต้อุ้งมือ ลูกค้าหนุ่มใหญ่เหลือบมองเล็กน้อยก็จะลนลาน         “อืม กะ ก็ได้ วันนี้ไม่ได้วันหน้าคงไม่พลาด” เขารีบเดินเข้าไปในบาร์ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น         “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้นอบน้อม เธอสังเกตจากการแต่งกายและวัยของคนที่ช่วยเหลือแล้วไม่น่าจะเป็นคนธรรมดาที่มาเที่ยวหาความสำราญใจ เขายิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเช่นกัน         “ใครคะพี่กานต์”         “อะ เอ่อ พี่ไม่รู้ แต่พิตต้าเข้าไปข้างในเถอะเดี๋ยวแขกคนอื่นจะเรียกอีก” พิยะตามองตามร่างสูงเด่นนั้น เขาเป็นใครกันเสียงทุ้มที่ฟังแล้วจะต้องยอมปราชัยกับท่าทางที่สุขุมยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ คนระดับนี้ทำไมมาในที่เล็กๆ คับแคบ อย่างที่นี่ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD