Siren & Tier 8
อย่ามาหื่นกามนะคะ
หลังจากทานอาหารเสร็จไซเรนพาเทียร์ขึ้นไปยังห้องทำงานเทียร์มองภายในห้องกว้างขวางที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูก่อนจะนั่งลงที่โซฟาส่วนไซเรนก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง
“ทำอะไรน่ะครับมานั่งนี่สิ” ใบหน้าสวยเบิกตากว้างกับมือที่ตบบนตักของเขา
“แต่ตรงนั้นไม่มีที่นั่ง” เธอเอ่ยขึ้นเพราะตรงนั้นไม่มีเก้าอี้เลย
“มีสิครับนี่ไง” ไซเรนชี้ไปที่ตักของตัวเองทั้งยังยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เทียร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเธอจะกล้าไปนั่งตักเขาได้ยังไงกัน
“มาเร็วครับอย่าให้ผมต้องโมโหเลยนะ” แม้ว่าจะไม่ได้ลงน้ำเสียงน่ากลัวแต่อย่างใดแต่ใบหน้าและสายตาของเขาที่จ้องเขม็งมาก็อดทำให้เธอรู้สึกขนลุกไม่ได้จนต้องลุกขึ้นและเดินก้าวไปหาอีกฝ่ายช้า ๆ และนั่งลงบนตักอีกฝ่ายอย่างเกร็ง ๆ
“อ๊ะ..” เทียร์ร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อไซเรนโอบรัดเอวเธอให้ขยับเข้ามานั่งชิดตัวเขามากขึ้นจนแผ่นหลังของเธอแนบไปกับอกแกร่ง กลิ่นน้ำหอมผู้ดีจากตัวเขาลอยขึ้นมาจนเธอได้กลิ่นจาง ๆ มือหนายังคงกอดเอวเธอไว้ส่วนอีกมือก็เลื่อนไอแพดตรงหน้าขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เอาล่ะครับมาพูดถึงงานที่เทียร์ต้องทำบ้างดีกว่า” ไซเรนเริ่มเข้าประเด็นใบหน้าหล่อเกยคางไว้บนไหล่บางอย่างถือวิสาสะ เทียร์ได้แต่นั่งเกร็งพร้อมกับข่มอารมณ์ในใจไม่ให้เตลิดไปไกลกว่านี้แม้ว่าในตอนนี้ใบหน้าของเธอกับเขาจะใกล้กันมากก็ตามแถมมือที่กอดเอวเธอก็กำลังขยับวน ๆ ไปมาอยู่เช่นเดียวกัน
“เอ่อคือว่าไม่รู้สึกไม่สะดวกบ้างเหรอคะ?” เธอถามเพราะมันใกล้ชิดกันเกินไปนี่สิ
“หืม..ไม่นิครับใกล้กันแบบนี้ดีออกจะได้ไม่ต้องพูดเสียงดังให้เปลืองพลังเสียง” เธอขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะเลิกสนใจและหันมาดูสิ่งที่อยู่บนหน้าจอแทน
“ในส่วนนี้คือส่วนที่เทียร์ต้องรับผิดชอบครับ” เธอมองไปยังตารางงานของอีกฝ่ายที่แบ่งเป็นช่วงเวลาอย่างชัดเจน ก่อนจะเบิกตากว้างเพราะเวลาพักของเขามีแค่พักทานอาหารเท่านั้นนอกนั้นก็เต็มไปด้วยงานที่ต้องทำยาวไปจนถึงเกือบ 4 ทุ่ม
“นี่คนหรือเครื่องจักรกันคะทำไมงานมันแน่นขนาดนี้” เธอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ไซเรนตื่นนอนในช่วงตี 5 เพื่อมาออกกำลังกาย
6 โมงทานอาหารเช้า หลังจากนั้นก็ทำงานยาว ๆ จนถึงเที่ยง พักทานอาหารและทำงานต่อถึง 6 โมงพักทานอาหารจากนั้นก็ทำงานต่อไปอีกจนถึง 4 ทุ่มและยังมีหมายเหตุไว้อีกด้วยว่าเป็นเวลาคร่าว ๆ เท่านั้น นั่นหมายความว่าปกติเขาทำงานเกิน 4 ทุ่มเลยงั้นสิ
“แต่ต่อไปถ้ามีเทียร์มาช่วยงาน ผมก็จะสบายขี้นไงครับ” ไซเรนบอกพร้อมปลายจมูกที่คลอเคลียตรงซอกคอขาวของเธอความหอมจากเทียร์ทำให้เขาเริ่มมีความต้องการมากขึ้น มือที่เพียงขยับวนเปลี่ยนเป็นบีบสะโพกเธอเล็กน้อยก่อนจะลากไปถึงต้นขาของเธอที่มีกระโปรงนักศึกษาปกปิดอยู่
เพียะ!
“อย่ามาหื่นกามนะคะ” ใบหน้าหล่อยกยิ้มเมื่อโดนมือบางตีเข้าอย่างจังพร้อมส่งสายตาดุ เขาข่มอารมณ์ในใจก่อนจะเอ่ยต่อ
“สิ่งที่เทียร์ต้องทำก็คือคอยแบ่งเบางานของผมมันจะมีเอกสารที่แค่ตรวจสอบเฉย ๆ อยู่ครับ นั่นทำให้เฮียเสียเวลาเป็นอย่างมากแต่จะตรวจสอบส่ง ๆ ไม่ได้นะต้องใช้ความละเอียดนิดหน่อย ดูว่ามันสัมพันธ์กันไหมถ้าไม่แน่ใจก็เอามาให้ผมดูก่อนก็ได้”
“อืม เรียกผมดูห่างเหิน ต่อไปน้องเทียร์เรียกผมว่าเฮียดีกว่า”
“หา…เฮีย?”
“ตามนั้น”
น้ำเสียงเกมบังคับทำให้เทียร์ไม่กล้าขัด ได้แต่รับฟังอย่างตั้งใจก่อนที่ไซเรนจะเริ่มสอนงานคร่าวๆ ให้เธอจนเวลาล่วงเลยมาจนดึก
ก๊อก
เทียร์ดึงสติจากงานที่ไซเรนให้ลองทำเธอกำลังจะลุกขึ้นแต่มือหนาก็ล็อกเอวเธอไว้เสียก่อน
‘เข้ามา” ไซเรนเอ่ยเสียงเรียบมองเทียร์ที่ยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอายเขายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหุบยิ้มมองลูกน้องที่บังอาจเข้ามาขัดจังหวะซึ่งคนที่เข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นชินนั่นเอง
“คะคือว่าผมเห็นว่ามันดึกแล้วน่ะครับคุณเทียร์น่าจะต้องกลับบ้านได้แล้ว” ชินก้มหน้าพูดอย่างประหม่ายอมรับว่าตกใจที่เปิดเข้ามาเห็นทั้งสองนั่งใกล้ชิดกันแบบนั้น แต่พอเจอสายตาของผู้เป็นนายเข้าไปก็เลิกตกใจทันทีเปลี่ยนเป็นความกลัวแทนถึงแม้ว่าจะอยู่รับใช้มาหลายปีแล้วแต่เขาก็ไม่เคยจะไม่กลัวสายตาของผู้เป็นนายสักนิดเดียว
“อ๊ะจริงด้วยค่ะสองทุ่มแล้วหนูต้องกลับแล้วไม่งั้นพ่อจะเป็นห่วง” เทียร์เอ่ยขึ้นเมื่อยกนาฬิกาขึ้นดูและพบว่ามันดึกแล้ว ใบหน้าหล่อจิ๊ปากอย่างไม่สบอารมณ์ทันที แม้ว่าอยากจะนั่งกอดคนตัวเล็กแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนแต่วันนี้เขาคงจะต้องยอมปล่อยเธอก่อน
“โอเคครับไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้านะ” เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะคลายมือออกจากเอวบางมองเทียร์ที่ลุกขึ้นเดินไปเก็บข้าวของของตัวเอง
“พรุ่งนี้เช้าเหรอคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวผมจะเล่ารายละเอียดให้ฟังเองครับคุณเทียร์” ชินเอ่ยขึ้นเนื่องจากตอนขามาเห็นเทียร์เอาแต่นั่งเกร็งเลยยังไม่อยากพูดเรื่องงานออกไปให้เธอเกร็งเพิ่มขึ้นไปอีกและกะว่าจะเล่าตอนขับรถไปส่งเธอขากลับ
“อ่าค่ะ” เทียร์ตอบรับเสียงเบา มองไซเรนที่ยิ้มให้เธอใบหน้าหล่อของเขาทำหัวใจเธอเต้นโครมครามได้อย่างง่ายดาย
“ไปก่อนนะคะ”
“ครับ” ไซเรนตอบรับอีกครั้งด้วยรอยยิ้มมองเทียร์ในชุดนักศึกษาที่เดินออกไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ไซเรนเอนตัวไปทางด้านหลังอย่างผ่อนคลาย ใบหน้าหล่อเงยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“เทียร์..” เขาเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายเบา ๆ มุมปากหนายกยิ้มเมื่อคิดว่าในตอนนี้เขาเริ่มเสพติดเธอมากขึ้นเสียแล้ว เขาไม่อยากจะปล่อยเธอกลับบ้านเหมือนในวันนี้และอยากจะนั่งกอดเธอพร้อมดมกลิ่นหอมของเธอ บางครั้งก็แอบเอาจมูกเข้าไปถูไถยามที่อีกฝ่ายกำลังตั้งใจทำงานที่เขามอบหมายให้ รู้สึกว่าการได้อยู่กับเธอมักจะทำให้หัวใจเขาสงบขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาการแบบนี้มันคืออาการเริ่มต้นของคนมีความรักอย่างแน่นอน