คนหนึ่งหลง ( เสียง ) อีกคนแอบรัก ( เพื่อน )

2671 Words
ตอนที่ 5 แอบรักครั้งที่ 5 ????? “ เสียงโทรศัพท์ใคร ” ตอนนี้พวกผมนั่งอยู่หน้าคณะรอเวลาเข้าเรียน “ โทรศัพท์ของดิน มึงรับซิครามมึงอยู่ใกล้อ่ะ ” กานบอกผมรับโทรศัพท์หลังจากที่เรารู้ที่มา ว่าเสียงโทรศัพท์มาจากเครื่องไหน “ รับได้เหรอวะ ดินมันจะไม่ว่าเอาเหรอ ” “ รับได้ ดินเคยบอกไว้ว่า ถ้ามีโทรศัพท์ มาให้รับได้เลย เพราะว่า ตอนนี้พ่อไม่สบาย มันเลยรอรับโทรศัพท์แม่มันตลอดเวลา ” กานบอกแบบนั้นผมจึงหยิบโทรศัพท์ดินมารับ “ สวัสดีครับ ” ( คุณเป็นใคร ) ผมสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงจากปลายสาย “ ดินไปห้องน้ำครับ ” ( ไปนานหรือยัง แล้วจะกลับมาตอนไหน ) “ ซักพักแล้วครับ แต่ไม่รู้จะกลับมาตอนไหน มีธุระอะไรหรือเปล่า หรือจะให้ผมบอกว่าใครโทรหา ” ( ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมโทรมาใหม่ ) พอพูดจบประโยคปลายสายก็วางไป “ เขาว่าไงบ้าง ” “ เขาบอกจะโทรมาใหม่ ” ผมวางโทรศัพท์ดินไว้แล้วหันไปตอบเบส “ แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น ” “ เปล่า ไม่มีอะไร กูว่าดินไปห้องน้ำนานแล้วนะเดี๋ยวกูไปตามดีกว่า ” “ ไม่ต้อง เดี๋ยวกูไปตามเอง ถ้าให้มึงไปตามก็พอดีแหละ หายไปทั้งคู่ ” ผมหันไปมองค้อนต่อ แค่ผมเคยไปตามดินแล้วแอบเดินเลยไปห้องสมุดกัน ปล่อยให้พวกมันรอ ชั่วโมงกว่าๆ แค่นี้ พวกมันก็พากันพูดไม่เลิก “ ให้ไอ้ต่อไปนั้นแหละดีแล้ว อย่าไปมองมันแบบนั้น ” ผมหันไปทุบไอ้เบสเมื่อมันเอามือมาปิดตาผม “ พวกมึงเหมือนแฟนกันเลย ไอ้ต่อกับไอ้ดินอีกคู่ ทำไมกูรู้สึกว่ากูเป็นส่วนเกินในกลุ่มว่ะ ” “ ฮ่ะฮ่ะ ไม่อิจฉาเพื่อนนะชายกาน ” ผมอดไม่ได้ที่จะพูดขิงไอ้กาน ไม่แปลกที่ไอ้กานและทุกคนจะคิดแบบนั้นเพราะผมกับเบสตัวติดกันตลอด และไอ้ต่อกับดินก็ตัวติดกันตลอดเหมือนกัน ดินเป็นเพื่อนใหม่ของพวกเรา พึ่งจะรู้จักตอนเข้ามหาลัย ไอ้ต่อบอกว่าดินสอบติดแต่ไม่มีทุนเรียน พวกเราเลยขอให้ไอ้กานช่วย เพราะครอบครัวไอ้กานเป็นหุ้นส่วนกับมหาลัย มีทุนให้นักศึกษากู้ยืม แต่กรณีของดิน พี่ผึ้งพี่ไอ้ต่อบอกจะจ่ายทุนให้ดินผ่านทางมหาลัย ไปๆมาๆ พี่กันคุยอะไรกับพี่ผึ้งไม่รู้ ดินเลยได้ทุนโดยไม่ต้องคืนมหาลัย “ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละเบส กูพูดอะไรผิดหรือเปล่า ” ผมหันไปมองหน้าเบสเมื่อกานพูดแบบนั้น “ เปล่านิ ” “ ไม่สบายหรือเปล่า ” ผมพยายามที่จะเอามือไปแตะหน้าผากเบสแต่มันโยกหัวหลบ พร้อมกับจับมือผมไว้ ซึ่งผมก็ไม่ยอมยังพยายามที่จะเอามือแตะหน้าผากเบสให้ได้จึงเกิดการยื้อยุดกัน “ พอๆ เลิกเล่น โน้น ผัวเมียคู่โน้น เดินกอดคอกันมาแล้วโน้น ” ผมกับเบสเลิกเล่นแล้วหันไปมองต่อกับดินที่เดินกอดคอคุยอะไรกันมาไม่รู้ “ นินทากูเหรอ ” มาถึงต่อก็โยนอะไรซักอย่างใส่กาน “ เมื่อกี้ใครไม่รู้โทรมา เรารับให้ ดินไม่ว่าใช่ไหม ” ผมบอกดินเมื่อดินนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ปกติผมไม่ค่อยพูดเพราะหรอก ยกเว้นเวลาคุยกับดิน เพราะดินเป็นคนสุภาพมาก จะพูดอะไรก็ดูน่ารักไปหมด “ อ๋อ..ไม่ว่าๆ ใคร แม่หรือเปล่า ” “ ไม่ใช่แม่ เสียงผู้ชาย ” ดินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วกดโทรออก “ ไปโทรตรงนั้นได้นะ ”ผมบอกดินเพราะดินบันทึกชื่อไว้ว่า ‘ ตัวแสบ ’ คงจะสนิทกันระดับหนึ่ง น่าจะอยากคุยเป็นส่วนตัว “ โทรตรงนี้แหละ ไม่ได้เป็นความลับอะไร ” เมื่อดินตอบมาแบบนั้นผมจึงเงียบเสียงลง ( ……. ) “ บอลโทรหาน้าเหรอ ” ( …….. ) “ ฟ้าครามเป็นคนรับบอลมีอะไรหรือเปล่าครับ ” (……..) “ พอดีว่าน้าได้งานพิเศษทำ บอลไม่ต้องกังวลหรอก ” ( ………. ) “ บอลครับ อย่าเงียบสิ ฟังน้าอยู่หรือเปล่า ” (……) “ บอลไม่ต้องซีเรียสเรื่องของตานะ เดี๋ยวน้าจัดการเอง บอลตั้งใจเรียนนะครับ ” (…..) “ น้าต้องวางแล้ว ดีใจนะที่บอลโทรมาหา และอีกอย่างคิดถึงนะครับ ” (…….) ผมแอบขมวดคิ้วเพราะในบทสนทนามันมีชื่อผมอยู่ด้วย “ ขอโทษนะดิน เมื่อกี้เราได้ยินมึงเอ่ยชื่อเราด้วย ”ตัดสินใจถามออกไปเมื่อดินมันวางสายเรียบร้อยแล้ว “ ไม่มีอะไรหรอกพอดีหลานชายเราถามว่าใครรับโทรศัพท์แทนเราเมื่อกี้ ” “ แค่นั้นเหรอ ” “ ใช่ แต่แปลกนะปกติหลานชายเราไม่ค่อยพูด แต่วันนี้ทำไมถาม ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผิดปกติ ” “ ก็เสียงไอ้ครามมันหวานไง ไม่ว่าใครก็หลงเสียงมันทั้งนั้น ” ไอ้กานมันแทรกขึ้นมาทำให้ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย “ ก็เกินไปพวกมึง เสียงกูก็ปกตินั่นแหละ พวกมึงก็พูดเวอร์เกินไป นี้ก็อะไร บีบมือกูทำไม ” ผมหันไปดึงมือออกจากมือเบส “ เมื่อกี้มึงบอกว่าได้งานพิเศษทำ และกูได้ยินพูดเรื่องเงิน มันคืออะไร ” ต่อมันหันไปคาดคั้นดิน นั้นทำให้ทุกคนหันกลับไปมองดินกันหมด “ ไม่มีอะไร ” ดินตอบเบาๆและหลบตาทุกคน ผมรู้จักดิน เพราะวันนั้นไอ้ต่อโทรมาบอกว่าต้องเป็นรับเพื่อน ที่มาจากต่างจังหวัดทั้งๆที่มันกับพวกผมนัดกันว่าจะไปเดินดูหนังกัน ด้วยความที่กลุ่มเราไปไหนมักไปด้วยกัน พวกเราจึงขอตามไอ้ต่อไป พอไปถึง ผมก็ได้เห็นผู้ชาย ที่สูงไล่เลี่ยกันกับผม หน้าตาดีแต่ออกไปแนวหวานเหมือนผู้หญิง และดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อย วันนั้นพวกเราเลยพากันไปกินข้าวร้านไอ้ต่อแต่จะเรียกว่าร้านอาหารก็ไม่ถูก ต้องเรียกว่าภัตตาคารซะมากกว่า เพราะร้านของมัน อยู่ใจกลางกรุง แถมยังมีกับข้าว แทบจะทุกประเภท คุยกันได้สักพัก ผมจึงรู้ว่า ดินสอบติดที่เดียวกับผม แต่ไม่มีตังเรียนจึงจะเข้ามาทำงานก่อนสักปีหนึ่งแล้วค่อยเก็บตังเรียนหนังสือ พวกผมจึงเสนอให้กาน ไปขอให้พี่กันช่วย หลังจากที่ดินได้ เข้าเรียนหนังสือพร้อมกับพวกผม แต่วันเปิดเทอมวันแรกก็มีเหตุการณ์ เกิดขึ้นกับดินแต่ดินไม่ยอมบอกใคร “ ไปเถอะ เข้าเรียนกัน ” ดินหันมาดึงแขนผมให้เดินหนีพวกเพื่อน ท่ามกลางสายตาคาดโทษของไอ้ต่อ แสดงว่า ไอ้ต่อไม่ได้คำตอบจากดิน เช่นหลายๆครั้ง ที่ผ่านมา “ ดินมีอะไรจะบอกเราไหม บอกเราได้นะ ”ผมหันไปถามดิน ในตอนที่เรากำลังเดินขึ้นชั้นเรียน “ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวถ้ามี เดี๋ยวเราบอกนะ ” “ ดินอย่าลืมว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ดินเชื่อใจพวกเราได้นะ ” “ เรารู้ และเราก็ขอบใจฟ้าครามกับพวกเพื่อนมากๆที่ช่วยเหลือเราทั้งเรื่อง ที่พาไปขอทุน ไหนจะอีกหลายๆเรื่อง ที่ทำให้เราอีก ถ้าเราไม่ได้พวก เพื่อนๆป่านนี้เราก็ยังคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้หรอก ” ดินหันมาโอบกอดผม ทำให้ผมต้องกอดตอบกลับไป “ อ้าวไอ้ต่อไอ้เบส มึงเตรียมตัวถูกทิ้งได้เลย สองคนนั้นจะหันไปกินกันเองแล้ว ” ผมกับดินหันไปมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงกานตะโกนตามหลังมา “ ไม่มีทาง ยังไงดินก็ไม่มีทางทรยศกู ” ผมหันไปมองหน้าไอ้ต่อที่มันทำสีหน้า เหมือนกุมโลกไว้ทั้งใบ ต่อหน้ากาน “ ใช่ ฟ้าคราม ก็ไม่มีวันทรยศกูเหมือนกัน ”ไอ้เบสก็ไม่ยอมน้อยหน้าไอ้ต่อเช่นกัน “ มาเร็วๆ พวกมึงจะเถียงกันให้ได้อะไรขึ้นมาห๊ะเดี๋ยวก็เข้าเรียนสายหรอก ”ผมหันไปเร่งพวกมันสามคน เมื่อพวกมันยังเถียงกันไม่เลิก …… “ กูขอนั่งข้างครามได้ไหม ” ผมได้ยินไอ้เบสมันกระซิบกระซาบกันกับไอ้กานแว่วถึงผม “ ไม่ ” ไอ้กานมันไม่ยอมย้ายที่นั่งกับเบสง่ายๆ “ รีบนั่งเถอะ นั่งตรงไนก็เหมือนกันแหละ ” ผมหันไปดุพวกมันสองคนเพราะอีกไม่กี่นาทีอาจารย์ก็จะเข้าแล้วพวกมันยังตกลงกันเรื่องที่นั่งยังไม่ได้เลย “ ก็ไอ้กานนะสิ ปกติกูก็นั่งข้างมึงตลอดแล้วทำไมวันนี้มาแย่งที่นั่งกูล่ะ ” “ มึงก็ขยับไปนั่งตรงโน้นกาน ให้ไอ้เบสมานั่งข้างกูนิ ” ผมหันไปบอกกานเพื่อยุติปัญหาที่นั่ง “ ใช่สิ กูไม่สำคัญเหมือนไอ้เบสนิ ” “ เออ รู้ตัวก็ดี ” เบสมันยังไม่สงบปาก “ นั่งลงแล้วเงียบได้แล้วเบส ” ผมหันไปดุเบสอีกรอบเมื่อมันยังไม่เลิกเถียงกันกับกาน “ ครับ ” เบสมันทำหน้าหงอยๆ แล้วตลก ……. ผมแอบถ่ายรูปฟ้าคราม โดยที่เจ้าตัวไม่ระแวงอะไร มีหลายครั้งที่ผมเผลอแสดงออกไป แต่ฟ้าครามก็ยังไม่สงสัย ตั้งแต่วันที่ผมคุยกับแม่ ผมก็พยายามแสดงออกมากขึ้น แต่ก็ยังไม่กล้าบอกไปตรงๆ “ เบส! ” “ อะไร อยู่ใกล้แค่นี้ ทำไมต้องเรียกเสียงดัง ” ผมหันไปมองกานเมื่อมันเรียกผมเสียดัง “ โทษที กูจะถามว่าเลิกเรียนแล้วกลับเลยไหม ” “ มึงว่าไง กลับเลยป่ะ ”ผมหันไปถามคราม ทำให้กานมันชักสีหน้าใส่ผม “ แหม่ กูไม่น่าถามมึงเลย กูน่าจะถามไอ้ครามคนเดียว ก็น่าจะได้คำตอบของมึงด้วย ” “ ว่าไง คราม กลับเลยไหมหรือว่าไปไหนต่อ ” ผมยังเลือกที่จะเมินกานต่อไป “ ดินกับต่อละ ” และครามก็เลือกที่จะเมินผมหันไปสนใจดินกับต่อแทน “ เราต้องกลับไปทำงานที่ร้านพี่ผึ้งน่ะ ส่วนต่อ จะไปไหนหรือเปล่า ” “ ไม่ กะจะเข้าไปที่ร้านพอดี งั้นมึงไปพร้อมกันกับกูเลย เดี๋ยวแวะไปส่งที่หอแล้วจะรอรับไปที่ร้านพร้อมกันเลย ” “ งั้นเรากลับเลยก็ได้ เดี๋ยวแวะไปที่บ้านมึงก่อน นะ คิดถึงแม่ ” ผมยิ้มกว้างออกมาทันที่เมื่อคำตอบครามตรงใจผมที่สุด ถ้าวันนี้ครามจะไปไหนต่อ ผมก็คิดว่าจะไปด้วยและรอชวนมันไปกินข้าวที่บ้านผม “ เอาละ กูรู้สึกได้ว่ากูเป็นตัวเศษอีกแล้ว ” กานมันบ่นออกมาเบาๆ “ ไปเที่ยวร้านพี่ผึ้งไหมละ ถ้ามึงไม่มีธุระที่ไหน” ต่อมันได้ยินกานบ่นบ่อยๆเลยชวนไปที่ร้าน “ ไม่ กูอยากไปบ้านไอ้เบสมากกว่า ” ผมแอบร้องในใจเมื่อกานมันพูดออกมาแบบนั้น ก็นานๆที่จะได้อยู่กับคราม 2 คนนี้มันยังจะมาเป็นก้างอีก “ ก็ดีนะ แม่จะได้ไม่เหงา ดีไหมเบส ” ครามหันมาถามผม “ อือ ”ก็ในเมื่อครามว่าดีผมจะปฎิเสธอะไรได้ “ เออ..กูพึ่งนึกขึ้นได้ว่าพี่กันให้กูไปช่วยดูเอกสาร กูคงไม่ได้ไปแล้วละ ” ผมแอบยิ้มเมื่อกานพูดออกมาแบบนั้น ไม่แน่ใจว่าพี่กันให้มันไปช่วยงานจริงๆหรือก่อนหน้านี้มันอยากแกล้งผมกันแน่ “ งั้นเราไปกันเถอะ ดินกับต่อไปโน้นแล้ว ” ผมรวบของ ของฟ้าครามมาถือไว้ก่อนจะดันหลังฟ้าครามให้เดินออกประตูไปก่อน ……. “ เดี๋ยวแวะซื้อชมพู่เข้าไปด้วยนะ ” ครามมันหันมาบอกผม ขณะที่เรากำลังขับรถกลับบ้านผมอยู่ “ ซื้อไปทำไมที่บ้านผลไม้เยอะแยะ ” “ ก็กูอยากกินอะ ” “ …..” “ ไม่ได้เหรอ ” ตายผมตาย เจอลูกอ้อนเมื่อกี้ เล่นเอาผมแทบหัวใจวาย ตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบครามมันก็มีอิทธิพลกับชีวิตผมอย่างมากไม่ว่าจะตื่นนอนหรือก่อนนอนผมก็คิดถึงมันตลอดเวลา ซึ่งผมรู้ตัวว่าผมเป็นอย่างงี้มาตั้งแต่เรียนประถมด้วยกัน “ ได้ เดี๋ยวกูแวะตลาดให้ ” “ เอ๊ะ หรือว่าไปบ้านมึงแล้วชวนแม่ออกมาเดินเที่ยวดีกว่า ” พูดจบมันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร ผมเดาว่าน่าจะโทรหาแม่ผม “ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ” หลังจากวางสายครามมันก็ทำหน้าตาละห้อย “ แม่บอกไม่อยากออกมา ให้กูเดินเที่ยวกับมึงก่อนกลับบ้าน ” “ แล้วไงละ มึงไม่อยากเที่ยวเหรอ ” “ ไม่ กูอยากเที่ยวกับแม่ พอแม่บอกไม่อยากออก กูเลยจะกลับบ้านเลย แต่แม่น่ะสิ ฝากซื้อของเยอะเลย เราต้องเดินตลาดแล้วละ ” ผมแอบยิ้มเมื่อครามพูดออกมาแบบนั้น นั่นแสดงว่าแม่แอบช่วยให้ครามได้มีเวลาอยู่กับผมมากขึ้น “ คราม กูถามหน่อยสิ สมมุติว่ามีคนแอบชอบมึงอยู่มึงจะรู้สึกไง ” “ รู้สึกดีสิ มีคนชอบมันดีอยู่แล้ว ” ผมแอบยิ้มในใจเมื่อได้คำตอบแบบนั้น “ แล้วมึงคิดยังไง กับการที่เพื่อนที่สนิทกันมาก แล้วคนหนึ่งเกิดชอบอีกคน ” “ มึงจะให้กูตอบในมุมมองของคนที่ถูกชอบหรือคนที่ชอบ ” “ คนที่ชอบก่อน ” “ เดี๋ยวนะ ไอ้เบส มึงแอบชอบใครอยู่ บอกกูมา ” “ มีที่ไหนละ กูแค่อยากรู้ ” ผมรีบปฏิเสธเป็นพัลวัลเมื่อครามมันหันมาถามผม “ กูแค่แกล้งถาม ทำไมต้องรีบปฎิเสธขนาดนั้น มีพิรุธนะมึง ” “ ไม่มีอะไรทั้งนั้น มึงรีบตอบมาเถอะ ” “ ถ้ากูแอบชอบเพื่อนกูก็คงจะไม่กล้าบอกหรอก เพราะกูไม่แน่ใจ ว่าถ้าบอกไปแล้ว เพื่อนไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับเรา อาจจะทำให้เสียเขาไป สู้กูแอบชอบเขาต่อไปดีกว่า แต่ถ้ากูรักเขา กูจะสารภาพกับเขา เพราะถ้าเขาปฏิเสธกูก็คงจะตัดใจและถอยออกมา เพราะกูคงจะทนเห็นเขามีคนรักไม่ได้ ” ผมกำลังจะสารภาพออกไปแล้วถ้าไม่ได้ยินคำตอบถัดมา “ แต่ถ้าเพื่อนมาชอบกู กูก็คงจะปฏิเสธ เพราะกูรู้สึกว่า ระหว่างเพื่อนกับคนรัก การเป็นเพื่อนกัน น่าจะยืนยาวมากกว่า แล้วมึงละ คิดว่าไง ” “ กูก็คิดแบบมึงนั้นแหละ ” ผมโกหกคำโต เมื่อรู้ถึง สิ่งที่ฟ้าครามคิด “ สมกับที่เป็นเพื่อนรักกูจริงๆ อย่างงี้สิ เค้าถึงบอกว่าเพื่อนกัน ความคิดเห็นมักจะตรงกันเสมอ เบส!! ” ผมรีบเหยียบเบรค ตามสัญชาตญาณ ของคนขับรถ “ ห่ะ…มีอะไร ” ผมหันไปมองหน้าฟ้าครามเมื่อรถหยุดสนิทแล้ว “ มันจะเลยตลาดอยู่แล้ว เราต้องแวะซื้อของให้แม่นะ ” “ อ่อๆ โทษที คิดอะไรเพลินไปหน่อย ” ผมวนหาที่จอดรถ แล้วก็เดินตามฟ้าคราม ที่เดินไปซื้อของให้แม่ซึ่งผมไม่รู้ว่าแม่ฝากซื้ออะไรบ้างผมได้แต่เดินตามฟ้าครามไปเงียบๆ ตอนแรกวันนี้ผมตั้งใจจะสารภาพกับฟ้าครามว่ารู้สึกยังไงกับมัน แต่หลังจากนี้ผมคงได้แค่แอบรักมันต่อไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD