Chapter : 6
ฉันเหม่อมองเงินจำนวนมากเบื้องหน้า จากที่ฉันคาดการณ์ ในซองซองนี้น่าจะมีเงินอยู่ประมาณหนึ่งหมื่น แม้ไม่มากสำหรับเขาแต่มันมากสำหรับฉัน โดยเทียบเคียงกัน กว่าจะได้ขนาดนี้ฉันต้องไลฟ์สดหลายสิบชั่วโมง ไม่ก็ทำคลิปเป็นสิบคลิป ซึ่งไม่ง่ายเลย อีกทั้งหนี้ของฉันยังต้องจ่ายรายวันอีก
ท่ามกลางความตึงเครียดคือความโล่งกายสบายใจ ฉันละทิ้งศักดิ์ศรีไปชั่วขณะเพื่อรีบเก็บเงินขึ้นมานับและมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิด
หนึ่งหมื่น หนึ่งหมื่นล่ะ ไชโย คราวนี้ฉันก็จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเจ้าหนี้หน้าเลือดพวกนั้นไปอีกสักพัก
แต่ทันใดนั้นเอง ขณะที่ฉันมีสุข ความสุขของฉันก็ลดฮวบลง ราวกับว่ามันรีบวิ่งหนีฉันไปและถูกแทนที่ด้วยความหดหู่อีกครั้ง “ยิ้มอะไร?” เอริกส์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นั่นทำให้ฉันได้สติขึ้นมา
ฉันมองหน้าเขาก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าฉันยังไม่สวมใส่เสื้อผ้าด้วยซ้ำ ด้วยความที่ทำอะไรไม่ถูก ฉันจึงยิ้มเจื่อนใส่เขาไปก่อนที่จะเร่งใส่เสื้อผ้ากลับเข้าที่จนเรียบร้อย
เอริกส์เฝ้ารอฉันอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งฉันจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ตอนนี้ฉันเหมือนคนรับใช้ที่กำลังโดนเจ้านายจับผิด ยังไงอย่างงั้น
“จำไว้นะ คัทย่า ถ้ากูเรียกหามึงเมื่อไหร่ มึงต้องมาหากู ไม่ว่ามึงจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม” เขาว่างั้นและทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมา
“ไอ้เหี้ยนี่! มึงคิดว่ากูเป็นอะไร? กะหรี่ส่วนตัวของมึงงั้นเหรอ?” ฉันสบถด่าเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ผู้ชายคนนี้ทำร้ายจิตใจของฉันไม่เลิก ดีใจได้ไม่ทันไรเขาก็เริ่มมันอีกแล้ว เขาทำให้ฉันรู้สึกแย่จนยากจะร้องไห้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม
เขาไม่แคร์ หนำซ้ำยังหัวเราะเยาะฉันด้วย “ใช่เลย อีกะหรี่ นั่นแหละที่มึงเป็น”
ฉันกำซองเงินด้วยมือที่สั่นเทาแล้วหันหลังเดินออกจากห้อง โดยไม่หันกลับมามอง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากตาของฉันเมื่อฉันออกจากประตู ความรู้สึกขยะแขยงต่อตัวเองทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในขุมนรก
...
ภายในห้องของเอริกส์ มันกลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง หลังจากที่คัทย่ากลับไป
ชายหนุ่มนั่งครุ่นคิดอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา เขาหยิบไฟแช็คราคาแพงขึ้นมาจุดเล่น เกิดเป็นจังหวะที่ทำลายความเงียบสงบ
“แม่งเอ๊ย!!” เขาสบถขณะที่นึกถึงเรื่องในอดีต เอริกส์พยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำใจให้นิ่ง และกลับมามีความสุขุมและเย็นชา
อย่างไรก็ตาม เขาทำไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องพึ่งพากลิ่นควันจากมวนบุหรี่ เอริกส์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ มันเป็นบุหรี่เย็นที่เขาคุ้นเคย ยี่ห้อเดียวกันกับที่คัทย่าเคยเขวี้ยงใส่เขา
ตั้งแต่เมื่อคราวนั้นที่เอริกส์ซื้อบุหรี่มาผิด เขาก็สูบบุหรี่กล่องนั้นที่คัทย่าไม่ชอบ และแอบสูบยี่ห้อนี้เรื่อยมาโดยตลอด กระทั่งถึงปัจจุบัน
เอริกส์ครุ่นคิดในใจ “มันไม่เห็นเหมือนอย่างที่คิดเลย เอาคืนงั้นเหรอ? แก้แค้นงั้นเหรอ? ไม่ ไม่ มันไม่ใช่แบบนี้”
เอริกส์สูบควันเข้าสู่ปอดก่อนที่จะพ้นมันออกมา เขายังคงครุ่นคิดต่อไปด้วยความเครียดที่ล้นทะลัก “ทำไมเธอถึงได้ดูน่าสงสารขนาดนี้...”
ตอนแรก เอริกส์ต้องการจะผิดสัญญา ด้วยการไม่ให้เงินคัทย่าและเลือกที่จะปล่อยคลิปเธอด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาเปลี่ยนใจ
“หรือเรายังใจอ่อน ใจอ่อนทั้ง ๆ ที่เธอทำกับเรามามากถึงขนาดนั้น ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะ เรากำลังเห็นใจเธอและไม่ต้องการให้เธอรู้สึกแย่ ถึงเราจะเลิกชอบเธอไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกำลังเริ่มขึ้นอีก วงจรเดิม ๆ จะไม่จบไม่สิ้นถ้าหากว่าเราไม่ทำให้เธอรู้ว่าเราเป็นฝ่ายเหนือกว่า” เอริกส์เต็มไปด้วยความสับสน เขาครุ่นคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับคัทย่าว่าจะเอายังไงต่อดีกับเธอคนนี้
...
เมื่อกลับมาถึงห้องเช่าของฉัน ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงและเริ่มร้องไห้อย่างหนัก ความรู้สึกอับอายและความเจ็บปวดในใจทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
ฉันนึกถึงอดีตของฉันกับเอริกส์ ความสัมพันธ์ที่เคยมีแต่ความสุขที่เป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียวและความฝันในวัยเยาว์ เรื่องราวต่าง ๆ นานา มันกลับกลายมาเป็นฝันร้ายที่ไม่สามารถหนีได้
ฉันคว้าบุหรี่จากกระเป๋า สูดควันเข้าไปในปอด ความรู้สึกเสียดแทงในอกทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง ฉันจ้องมองควันบุหรี่ที่ลอยขึ้นมา ความคิดที่เต็มไปด้วยความโกรธและความขัดแย้งในใจ
ขณะที่ฉันกำลังจมอยู่ในความคิดและความรู้สึก เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันหยิบมันขึ้นมาดูและเห็นข้อความจากเอริกส์
“อัพโหลดคลิปนี้ลงช่องของมึงซะ” เอริกส์ส่งไฟล์คลิปที่เขาถ่ายไว้ในวันนี้มาให้ พร้อมกับข้อความสั่งการ
“มึงแม่งไอ้สวะ” ฉันพิมพ์ตอบกลับไปด้วยความโกรธ “คิดว่ากูจะทำตามเหรอ?”
“ใช่ กูรู้ว่ามึงจะทำ” เขาตอบกลับมาทันที “เพราะมึงไม่มีทางเลือก และเพราะมึงรู้สึกผิดกับสิ่งที่มึงทำในอดีต”
อะไรนะ แปลว่ามันรู้ว่าฉันรู้สึกผิดกับมันงั้นเหรอ ทั้ง ๆ ที่ฉันด่ามันไปขนาดนั้น นี่มันกำลังคิดอะไรของมันอยู่กันแน่ ไม่สิ บางทีมันอาจจะแค่กวนประสาทฉันไม่ก็กำลังประชดประชันฉัน ถึงได้พิมพ์ออกมาแบบนี้มา อา ช่างแม่งปะไร
หลังจากที่ครุ่นคิดอย่างหัวเสียเสร็จ ฉันก็รู้สึกตกใจและสับสนเมื่อเปิดคลิปนั้น
ฉันเห็นภาพตัวเองในสภาพที่น่าอับอาย มันกลับมาทำร้ายฉันอีกครั้ง แต่ในใจลึกๆ ฉันก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นแปลก ๆ ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ มันเป็นความรู้สึกที่ฉันเกลียด เขินอาย และอยากได้อีก ผสมปนเปจนทำให้ฉันฟุ้งเฟ้อ
“ทำไมมึงต้องทำแบบนี้ด้วย?” ฉันพิมพ์ถามด้วยความสงสัยและฉันก็ได้คำตอบที่ไม่คาดคิดกลับมา มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอลเวงในหัวใจ ราวกับว่าเอริกส์ได้เข้ามาข้างในตัวฉันพร้อมสว่านของเขาและค่อย ๆ ควานเนื้อของฉันออกไปจากร่างกาย
“เพราะมึงเป็นของกู คัทย่า”
To be continued...