ตอนที่ 5/1 อดีตที่ยากลืมเลือน

1681 Words
‘เจ้าชอบหรือไม่?’ ประโยคคำถามของไป๋ลี่เซียนคล้ายไม่ได้ต้องการคำตอบจากของเล่นที่นอนแข็งทื่ออยู่ใต้ร่างนาง ทว่ากลับเป็นการพูดลอยๆ เสียมากกว่า เพราะอีกฝ่ายไม่มีแม้แต่แรงจะฆ่าไก่เสียด้วยซ้ำ! แต่ถึงกระนั้นไป๋ลี่เซียนก็ยังรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆ การเป็นฝ่ายได้คุมเกมรักช่างเป็นอะไรที่สุขล้นเกินจะกล่าว ลิ้นสากเล็กตวัดเลียไปทั่วหัวนมของบุรุษเพศที่กำลังแข็งเป็นไต ก่อนจะขบกัดเบาๆ ราวหยอกเอิน ‘อื้อ…อื้อ’ ร่างแกร่งของมู่จิวซินพลันกระตุกวาบ ชายหนุ่มได้แต่ร้องประท้วงอยู่ในลำคอเพียงเท่านั้น ‘ฮ่าๆ เจ้าม้าน้อยของข้า อย่ากลัวไปเลย’ เสียงนุ่มฟังดูรื่นหูเอ่ยเบาๆ คลอกับจังหวะดูดเลียราวกับของหวานที่แสนเอร็ดอร่อย นิ้วเรียวเล็กลากต่ำลงมาเรื่อยๆ จวบจนถึงตรงกลางหว่างขาของเจ้าของร่างแกร่งก็พลันหยุดชะงัก ไปลี่เซียนคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะใช้มือของนางลูบไล้ความแข็งแกร่งเบาๆ ลิ้นเรียวตวัดเลียต่ำลงจวบจนเจอแท่งหยกขนาดมหึมาที่กำลังกระดกไปมาอยู่ตรงหน้าตน ‘โอ้ว! ใหญ่เหลือเกิน’ ไม่รอช้านิ้วมือเรียวงามกำแท่งหยกชั้นเลิศก่อนจะตามด้วยลิ้นเรียวเล็กเลียแท่งหยกอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อลิ้มรสจนพอใจไป๋ลี่เซียนก็จัดการทั้งดูดทั้งอมแท่งหยกร้อนดั่งกระหายหิว ใบหน้าหล่อเหลาของมู่จิวซินพลันแดงก่ำ ตอนนี้ในหัวของเขาขาวโพลนราวกับอยู่ในห้วงฝัน ความรู้สึกหลากหลายพลันประเดประดังเข้ามาทำให้ชายหนุ่มแทบจะเป็นบ้าตายอยู่รอมร่อ มีคนเคยกล่าวกับเขาไว้ว่าการเสพสมของมนุษย์คืออาหารทิพย์ที่ไม่รู้จักอิ่ม มาตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่ามันคืออะไร รสชาติของการร่วมรักช่างทรมานเหลือเกิน แต่ในขณะเดียวกันก็หวานล้ำจนยากจะถอนกายถอนใจ อารมณ์ขัดแย้งฉายชัดบนใบกน้าหล่อเหลา แต่ทว่าความหฤหรรษ์กลับล่อลวงจิตใจผู้คนพาให้มืดบอด สำหรับมู่จิวซินแล้ว บทเพลงรักนับเป็นอาหารอันเลิศรสที่ชายหนุ่มไม่เคยได้ลิ้มลอง หากเมื่อยามใดได้เชยชิมแล้วก็ยากที่จะถอนกายถอนใจได้ เมื่อลิ้นเรียวเล็กตวัดเลียและดูดดื่มแท่งหยกกล้าจนหนำใจ ก็ถึงคราวที่โฉมสะคราญจะได้ขึ้นสวรรค์เสียที ไป๋ลี่เซียนจับแท่งหยกให้ตั้งตรงเพื่อเตรียมพร้อมรบ ก่อนที่หญิงสาวจะจับมันยัดเข้าไปในช่องทางรักภายในกายของนางช้าๆ แม้ว่าโพรงรักของโฉมงามจะเคยผ่านสมรภูมิรักมามากมาย ทว่าเมื่อแท่งหยกกล้าแท่งนี้ล่วงล้ำเข้าไปกลับสร้างความเจ็บแปลบจนใบหน้างามนิ่วหน้า ‘ซู๊ด…ซี๊ด!’ เสียงสูดปากด้วยความเจ็บปวดของไป๋ลี่เซียนดังก้องไปทั่วทั้งเรือน ทว่าโฉมงามผู้คลั่งไคล้ในรสชาติของความเจ็บปวดกลับคลี่ยิ้มจางๆ ด้วยความสุขสม ‘เจ้าม้าน้อย…เจ้าช่างแข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งนัก’ เสียงแหบพร่าราวกระซิบของโฉมสะคราญดังผะผ่าว แต่ในขณะเดียวกันกลับเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะปลุกเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนให้บุรุษใต้ร่างให้รู้สึกหื่นกระหาย ดวงตาสีนิลแข็งกร้าวด้วยความทรมาน เขาทรมานที่ไม่อาจครอบครองสตรีไร้ยางอายผู้นี้ได้ นางเปรียบเสมือนนางมารจิ้งจอกที่มีพิษสงร้ายกาจพร้อมจะเด็ดชีวิตผู้คนได้ทุกเมื่อ ในตอนนี้ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่ขบกรามแน่นและเฝ้ามองนางมารจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ผู้นี้ครอบครองเขาราวกับคลื่นพายุร้าย ร่างอรชรนั่งขย่มร่างแกร่งขึ้นลงดั่งกับควบอาชาชั้นลิศ เสียงซี๊ดซาดดังคลอเคลียกับจังหวะขึ้นลงไม่ขาดสาย ยอดถันสีสวยกระเพื่อมไหวไปตามแรงสัมผัสและแรงเสียดทาน ความซาบซ่านทำให้หญิงงามต้องกัดริมฝีปากของตนเองเพื่อข่มกลั้นความทุกข์ทรมาน ทว่าความคับแน่นและความมหึมาของแท่งหยกกลับทำให้บุปผางามของไป๋ลี่เซียนปริปลิ้นตามจังหวะขึ้นลงนัก น้ำเกสรใสค่อยๆ ไหลหลั่งชโลมแท่งหยกกล้าจนเปียกชุ่มไปหมด ‘อ๊ะ…อ่า…ซี๊ดดด’ เอวอรชรพลิ้วไหวตามห้วงอารมณ์ของเพลิงราคะ ความเจ็บปวดซาบซ่านขับเน้นให้ไป๋ลี่เซียนดูดดื่มไปทั่วเรือนกายกำยำ ผิวขาวเนียนของมู่จิวซินเริ่มเป็นห้อเลือดจ้ำๆ ไปทั่วทั้งเรือนกาย ขณะที่ปีศาจสาวกำลังร่ายรำเพลิงสวาทอยู่บนร่างของชายหนุ่ม มู่จิวซินพยายามกัดริมฝีปากของตนเองเพื่อไม่ให้มีเสียงครางรอดออกมา ตอนนี้ร่างกายบางส่วนของเขาเริ่มจะขยับเขยื้อนได้เองบ้างแล้ว ทว่าก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่มาก เสียงสูดลมหายใจลึกด้วยความทรมานดังเป็นช่วงๆ แต่ชายหนุ่มก็ทำได้เพียงแบกรับความทรมานปนหวานล้ำนี้ไว้จวนเจียนจะขาดใจ ในตอนนี้ความเสียวซ่านวิ่งวูบวาบไปทั่วเรือนกาย ก่อนที่มันจะเริ่มแล่นไปถึงโคนแท่งหยกของเขาอย่างยากที่จะหักห้ามใจ ‘ซี๊ด…’ เสียงสูดปากของมู่จิวซินทำให้ร่างอรชรที่กำลังเมามันในเกมราคะหยุดชะงัก ดวงตาคู่งามหันมาจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีนิลคู่นั้น ‘เจ้ากำลังจะขึ้นสวรรค์แล้วรึ?’ ใบหน้างามขมวดคิ้วแต่เพียงครู่เดียวนางก็คลี่ยิ้มจางๆ คล้ายกับรอยยิ้มที่อาบด้วยยาพิษ ‘เดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดให้ดู!’ ‘ซี๊ดดด…อ่าห์!’ เสียงสูดปากซี๊ดซ๊าดของไป๋ลี่เซียนดังคลอกับจังหวะขย่มตอเบื้องล่าง กลีบบุปผางามพลันขมิบและตอดรัดรูดขึ้นลงซ้ำๆ เล่นเอากายกำยำของมู่จิวซินถึงกับกระตุกเกร็งไปทั่วทั้งเรือนร่าง แต่ถึงกระนั้นจังหวะบีบรัดของนางกลับทำเอาเจ้าของร่างแกร่งถึงกับเสียวซ่านถึงขีดสุด ‘เจ้าม้าน้อย ข้าไม่ยอมให้เจ้าขึ้นสวรรค์ก่อนข้าหรอกนะ!’ ไป๋ลี่เซียนพลันเลียมุมปากด้วยความกระหายหิว นิ้วมือเรียวงามผลุบเข้าออกจากปากของชายหนุ่มดั่งกับจะกระตุ้นและก่อกวนไฟเสน่หาของอีกฝ่าย ‘อื้อ…อื้อ!’ มู่จิวซินพยายามใช้ลิ้นของเขาดันนิ้วเรียวที่กำลังล้อเล่นกับลิ้นของตนออกอย่างบ้าคลั่ง แต่ขณะเดียวกันแรงตอดรัดและบีบเน้นตรงแท่งหยกของเขาก็แรงมากขึ้นทุกทีๆ เรียกได้ว่าตอนนนี้ชายหนุ่มเจอทั้งศึกนอกและศึกในเลยทีเดียว ด้วยความทรมานปนกระสันซ่านปลุกเร้าให้น้ำสีขาวขุ่นพลันพุ่งกระฉูดออกมาจากแท่งหยกกล้าในทันที ยามเมื่อเจ้าของร่างแกร่งได้ไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้ว ร่างทั้งร่างของเขาก็โล่งราวกับยกภูเขาออกจากอก ทว่าร่างบอบบางที่อยู่บนเหนือร่างของเขาในตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ใบหน้างามสะคราญกลับดำมืดน่ากลัว ‘มู่จิวซิน เจ้ากล้าทิ้งข้าไว้ที่กลางทางงั้นรึ!?’ และแล้วฝ่ามืองามของสตรีผู้มีความงามดุงดั่งปีศาจร้ายก็ฟาดเพี๊ยะไปที่ใบหน้าด้านขวาของชายหนุ่มหนึ่งฉาดใหญ่ เมื่อความสุขสมปนหวานล้ำก่อนหน้าได้มลายหายไปกะทันหัน ความแข็งแกร่งที่มอบความสุขสมให้นางมาบัดนี้ไม่มีอีกต่อไป รสชาติของการถูกฉุดกระชากจากที่สูงลงมายังหุบเหวลึกสำหรับไป๋ลี่เซียนแล้วนางสุดแสนเกลียดชังนัก เพราะชีวิตของคณิกาหอหมื่นบุปผาเช่นนางจะมีบุรุษสักกี่คนที่จะเติมเต็มความปรารถนาให้นางได้อย่างที่ใจต้องการได้ เหตุใดเจ้าม้าน้อยที่นางสู้อุตส่าห์จับมาได้กลับกระทำหยามเกียรติข้าเช่นนี้!  ‘สารเลว!’ คำพูดสั้นๆ ของไป๋ลี่เซี่ยนกลับพังทลายโฉมหน้าที่งดงามดุจเทพเซียนภายในพริบตา กลิ่นอายอำมหิตพลันฉายชัดทั่วเรือนร่างงามในบัดดล ‘เซียงเซียง ไปเอาผงลืมวิญญาณมาให้ข้าเดี่ยวนี้!’ สิ้นคำสั่งของไป๋ลี่เซียน สาวใช้ที่มีนามว่าเซียงเซียงก็รีบนำขวดกระเบื้องขาวขวดเล็กมาให้เจ้านายอย่างรวดเร็ว ไป๋ลี่เซียนคลี่ยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง แต่ทว่ารอยยิ้มของนางกลับเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายข่มขวัญและอำมหิตนัก ‘เจ้าม้าน้อย…จงกินมันลงไปซะ!’ มือเล็กของบุปผางามบีบกรามของมู่จิวซินเต็มแรง เล็บเรียวงามจิกเข้าไปที่ผิวหน้าของชายหนุ่มด้วยความโกรธแค้น โกรธแค้นที่เขาบังอาจทำให้นางไม่ถึงสวรรค์ชั้นเจ็ด! โกรธแค้นที่เจ้าม้าโง่ตัวนี้กล้ากระทำการหยามเกียรตินาง! ‘ข้าจะให้เจ้ากลายเป็นทาสสวาทของข้าอย่างไม่มีวันลืมหูลืมตา ข้าจะดูดกลืนพลังหยางของเจ้าจนต้องร้องขอชีวิต หากมีครั้งหน้าที่เจ้ากล้าหยามเกียรติข้าเช่นนี้อีก ข้าสัญญาว่าจะสับเจ้ามังกรของเจ้าให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น!’ ขณะที่ไป๋ลี่เซียนพูดโฉมงามก็พยายามกรอกผ***วลงไปในปากของอีกฝ่ายสุดกำลัง ดวงตาคู่งามหยักยิ้มอย่างอำมหิตด้วยความสาแก่ใจ! ‘อื้อๆ อื้อๆ’ มู่จิวซินพยายามจะดิ้นขัดขืน ทว่าแรงของเขาในตอนนี้มีหรือจะสู้แรงผู้ใดได้ สิ่งเลวทรามที่สตรีผู้นี้กระทำไว้กับเขา เขาสัญญาว่าจะเอาคืนนางให้สาสม ดวงตาคมจ้องมองไป๋ลี่เซียนด้วยความเคียดแค้น หากสายตาของคนเราสามารถฆ่าคนได้ ป่านนี้สตรีไร้ยางอายผู้นี้คงเป็นสตรีคนแรกที่ต้องตายด้วยน้ำมือของข้า!  และแล้วชะตาชีวิตของมู่จิวซินในวันนั้นก็ถูกสตรีแซ่ไป๋ผู้นี้เปลี่ยนมันไปตลอดกาล…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD