เหยดดดดด!!! ฉันทำอะไรลงไป! โดนแน่อีน้อย โดนเฮียเล่นแน่ ๆ ฉันกระแอมเล็กน้อยก่อนจะแก้ตัวอย่างเก้อ ๆ
“มะ ไม่มีอะไรค่ะ พะ…พอดีแมลงวันมันกวนใจคุณลูกค้า แฮะ ๆ ไม่อะไรนะคะ” ฉันหันไปบอกโต๊ะอื่น ๆ เพื่อให้คลายจากความตะหนก พร้อมกับได้โอกาสปัดตัวไอ้เคนแรง ๆ
“โอ้ย เจ็บนะคะ พอแล้วค่ะ” ไอ้ตัวกวนตีนปัดป้องฝ่ามือหนัก ๆ ของฉัน ดี! สมน้ำหน้าโดนซะบ้าง!
“ตกลงจะสั่งอะไร…คะ”
“อืมมมม น้ำเปล่าค่ะ” เป็นอีกครั้งที่หมอนี่ฉีกยิ้มกว่า แต่ช่วยดูหน้าฉันด้วยเหอะมันไม่แฮปปี้เลยนะเว้ย!
คนบ้าอะไรวะกวนตีนชิบ!
ฉันเดินปั้นปึงเข้าไปในครัวแล้วเทน้ำใส่แก้วอย่างลวก ๆ จากนั้นก็มองหาใครสักคน….ใครก็ได้ไปบริการไอ้บ้านั่นแทนฉันทีเถอะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว
“เห้ย ๆ ต้า เอาน้ำไปเสิร์ฟโต๊ะสี่แทนที” ต้าเป็นพนักงานเสิร์ฟรุ่นน้องที่เข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนเลยใช้งานง่ายหน่อย
“อ่อ ครับ ๆ” แม้จะทำหน้างง ๆ แต่ก็รับน้ำไปเสิร์ฟด้วยความเต็มใจ
ฉันชะโงกมองเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยกลับมาช่วยงานในครัวต่อและคิดว่าจะไม่โผล่หน้าไปเสิร์ฟอีก ขอหมกตัวอยู่ในครัวนี้แหละ ไม่งั้นคงเกิดปัญหาแน่ ๆ
แต่มันไม่เป็นงั้นดิ่ เพราะไอ้ต้าเดินกลับมาอย่าง งง ๆ แล้วบอกฉันว่าแขกโต๊ะสี่เรียกไปพบ….แม่งเอ้ย! ไม่อยากไปแต่เป็นหน้าที่ นี่มันวันนรกแตกแหกชิมิ??!
“…..” ฉันเดินไปที่โต๊ะเฮอร์ริเคนแล้วหยุดมองอยู่เฉย ๆ เหนื่อยใจจะพูด
.”มาแล้วหรอคะ?” ไอ้คนกวนตีนเอียงคอถาม “เธอเป็นคนเทน้ำใช่มั้ยคะ?”
“ใช่” ฉันตอบสั้น ๆ อย่างเหนื่อยหน่าย
“ไปเปลี่ยนมาใหม่ค่ะ” หะ! เรียกมาให้ไปเปลี่ยนน้ำเนี่ยนะ….
“ไม่ทราบในน้ำมีอะไรผิดปกติ…หรอคะ”
“ผิดปกติสิ มันเย็นเกินไปเธอไม่รู้หรอคะ” อ๋อออ ให้เปลี่ยนเพราะน้ำเย็นไป!!! ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้มนุษย์คนนี้ดี
โว้ย #$%^!$@E#$!%
“จะไปเปลี่ยนให้ค่ะ!” ฉันต้องทำตามที่ลูกค้าขอ
หลังจากนั้น…..คงรู้ใช่มั้ยว่าไอ้เคนไม่ปล่อยฉันไปง่าย ๆ มันเรียกใช้สารพัดบางครั้งก็ทักท้วงด้วยเหตุผลที่โง่เง่าปัญญาอ่อน ฉันอดทนทำ ๆ ไปจนกระทั่งปิดร้าน อย่าคิดว่าไอ้หมอนั่นจะลุกไปนะ ไม่จ้ะ มันยังอยู่! แต่เลิกงานแล้วหนิ หึ! ไม่มีอะไรต้อกลัวอีกต่อไป
ฉันใช้จังหวะที่ร้างคนเดินตรงเข้าไปกระชากคอไอ้คนกวนตีนออกมาที่หลังร้าน เพื่อเคลียร์ให้มันจบ ๆ ขืนปล่อยเป็นแบบนี้ต่อไปฉันไม่เป็นอันทำงานทำการแน่
“จะเอาไงว่ามา!”
“อะไรยังไงคะ” ไอ้คนตรงหน้าทำท่าบ๊องแบ๊วใส่ โคตรกวนอารมณ์อ่ะ
“นายจะเอายังไงกับฉัน! บอกมาเลยฉันพร้อมจะทำแค่เลิกรังควานฉันก็พอ!”
“ดีค่ะ งั้นพรุ่งนี้มาเจอที่ร้านคาเฟ่ครั้งก่อน จำได้ใช่มั้ยคะ” หมอนี่คงหมายถึงร้านที่โดนอีนุกบอกเลิก
“ที่นี่ตอนนี้ไม่ได้หรอไง” แค่นี้ก็สะอิดสะเอียนจะแย่ ถ้าเจอกันบ่อย ๆ ฉันไม่อ้วกแตกตายเลยหรอ
“วันนี้พี่ไม่อยากคุยค่ะ พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมง แล้วเจอกันนะคะ” เฮอร์ริเคนโบกมือลาอย่างอารมณ์ดี แต่ฉันนี่สิอารมณ์ขุ่นมัวพร้อมจะฆ่าคนได้ทุกวินาที!
ถ้าเป็นไปได้จะฆ่าไอ้เคนแม่งก่อนเลย!!!
ฤดูกาลเปลี่ยนไปตามเวลา.....ความรักก็เช่นกัน
ในหนึ่งปีมีหลายฤดู ทั้งร้อน ทั้งฝน
และอาจหนาวบ้างเป็นบางที มันเปลี่ยนไป
ตามเวลาที่กำหนด ทว่า ความรักก็เช่นกัน
แต่มันไม่มีกำหนด กฏเกณฑ์ที่ตายตัว
บางครั้งเปลี่ยนไปเองโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
วันใหม่ @คาเฟ่ 10.30น
ที่รีบมาไม่ใช่เพราะตื่นเต้นอะไรหรอกนะ แต่เพราะอยากรีบ ๆ เคลียร์ให้มันจบ ๆ ไปฉันคิดไว้แล้วว่าจะบอกความจริงซะ เพราะเหนื่อยหน่ายใจเต็มที รำคาญสุด ๆ ให้ไปตกลงกันเองละกันโคตรจะเบื่อ!
ฉันนั่งรออยูเกือบ 20 นาทีตาเคนก็เดินยิ้มหวานเข้ามาในร้าน เขาไม่ได้ยิ้มให้ฉันหรอกนะ นู้นยิ้มให้พนักงานสาวสวยที่ยืนบิดไปมา…น่าหมั่นไส้
“ไงคะ มาไวจัง” เฮอร์ริเคนเอ่ยทักพร้อมเคลื่อนกายเข้ามานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“งั้นฉันพูดเลยนะ” ฉันสูดหายใจลึก ๆ เข้าปอดหนึ่งทีก่อนจะพูดต่อ “ฉันกับนุกนิกไม่ได้เป็นแฟนกัน มันเป็นน้องสาวฉัน รู้อย่างนี้แล้วก็เลิกตอแหยฉันเหอะว่ะ ที่พูดเนี่ยคงเข้าใจนะ”
“รับผิดชอบมาเลยค่ะ” ห้ะ….รับผิดชอบ??
ประโยคบ้า ๆ ของไอ้เคนทำฉันปวดตับไปหมด แค่เข้ามาในร้านเค้กก็เอียนจะแย่นี่ยังต้องมานั่งฟังผู้ชายหน้าหวานพูดเรื่องบ้าบออีก เพราะความเบื่อจนใกล้จะเป็นประสาทมนุษย์หน้ามึนตามรังควานฉันจนอยู่ไม่สุข เพียงเพราะเรื่องงี่เง่าที่ฉันเองก็มีส่วนผิดที่เข้าไปพัวพันด้วย ถ้ารู้นะ หืมมมม!! ถ้าฉันรู้….
“นายเลิกไร้สาระสักทีแล้วก็เลิกตามได้แล้วป่ะ โคตรรำคาญเลยว่ะ”
“ไม่ค่ะ จนกว่าเธอจะรับผิดชอบ” เฮอร์ริเคนยืนกรานที่จะให้ฉันรับผิดชอบ
แต่มันเรื่องอะไรล่ะ??!!
“มันใช่เรื่องของฉันมั้ยวะถามจริง?” เออมันเกี่ยวอะไรกับฉันห้ะ
“นี่มันเกี่ยวกับเธอเต็มๆ เลยค่ะ ฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบค่ะ” ยิ่งเขาพูดฉันก็ยิ่งปวดประสาท ฉันไม่ชอบเลยอะไรที่วุ่นวายโดยเฉพาะโดนคนที่ไม่ชอบขี้หน้าตอแย
“ฉันไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้นแหละ ปัญญาอ่อน!”
ฉันบอกพร้อมกับลุกขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ไม่น่าเลยจริงๆ ไม่น่ามาเคลียร์กับมันเล้ยยย ควายก็ยังเป็นควายวันยังค่ำพูดจากไม่รู้เรื่อง นี่ฉันอุส่าห์สละเวลาอันมีค่ามาตามนัด แล้วอะไรสุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
มาให้เสียเวลาจริง ๆ
“แน่ใจนะว่าคะถ้าจะเลือกแบบนี้?” เฮอร์ริเคนถือวิสาสะดึงมือฉันไว้ก่อนจะเดินพ้นไปจากโต๊ะ
บังอาจมาก!! ฉันรีบสะบัดมือออกโดยพลัน โคตรรู้สึกขยะแขยงเลยรู้สึกคันยิบ ๆ เหมือนโดนเหลือบไรเกาะ นี่ฉันชักเริ่มจะหมดความอดทนเต็มทีอีกอย่างต้องรีบกลับไปทำงานด้วย ทำไมไอ้ผู้ชายหน้าหวานนี่ไม่ยอมเข้าใจสักที
“นายจะอะไรนักหนาวะ ฉันจะรีบกลับไปทำงาน!”
“พี่ว่าเราไม่ต้องรีบขนาดนั้นหรอกค่ะ ไม่มีงานให้ทำแล้ว…” ไม่มีงานให้ทำ? คำพูดของเขาทำให้ฉันขมวดคิ้วจนเป็นปมนอกจากพูดอะไรไร้สาระแล้วยังพูดไม่รู้เรื่องอีกด้วย
“หมายความว่าไง!”