EP.1 [จุดเริ่มต้น]

1611 Words
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม...? มันไม่มีจริงหรอก... พรหมลิขิต... เรื่องบังเอิญ... สิ่งเหล่านั้นมันไม่มีอยู่ในชีวิตจริงหรอก... นอกจากเวรกรรม! . [จุดเริ่มต้น] . . . Rrr… ฉันขยับตัวหนีเสียงเรียกเข้าที่กำลังส่งเสียงดังข้างหูอย่างหงุดหงิด ใครมันโทรมาตอนนี้เนี่ย! หมอนหนาถูกยกขึ้นปิดหน้าแต่เสียงน่ารำคาญก็ยังดังขึ้นไม่หยุด ผลสุดท้ายต้องจำใจเอื้อมไปหยิบมากดรับสาย ถ้าไม่ใช่ธุระด่วนนะ แม่จะด่าให้ลืมบ้านเลยทีเดียว! “ใครวะ!” นี่มันวันหยุดฉันนะเว้ย! [นั่นใครน่ะ!?] ฉันขมวดคิ้วทั้งที่ยังลืมตาไม่ขึ้น ยัยนี่ประสาทป่ะเนี่ย โทรมาหาฉันแท้ ๆ แต่เสือกถามว่าฉันเป็นใคร! “แล้วโทรหาใครละวะ!” โคตรหงุดหงิดเลยบอกตรง ๆ ฉันเป็นคนหลับยากนะ แต่ถ้าหลับเมื่อไหร่ใครก็ห้ามกวน [ฉันก็โทรหาผัวฉันสิยะ! แกนั่นแหละเป็นใคร! กล้าดียังไงมารับโทรศัพท์นำทัพกันห๊ะ!] “...” ยัยบ้านี่พูดบ้าไรเนี่ย นอกจากจะโทรผิดแล้วยังช่างมโนอีกต่างหาก มาปลุกฉันแต่เช้าแบบนี้ อยากตายหรือไงหะ! “นี่ยัยชะนี! ผัวเธอเป็นใคร หน้าตาเป็นยังไงฉันไม่รู้จักหรอกนะ เลิกมโนแล้วก็เลิกร่ำร้องหาผัวได้แล้ว คนจะนอน! รำคาญ!” ติ้ด! สายถูกกดทิ้งไปพร้อมโทรศัพท์ราคาแพงถูกโยนตุบลงบนที่นอนสีขาว บ้าชะมัด! คนจะหลับจะนอน สงสัยจะนอนต่อไม่ได้แล้วสิ หงุดหงิดแต่เช้าสิน่า! ฉันขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะต้องเบ้หน้าเล็กน้อย “เจ็บว่ะ..” ความเจ็บหน่วงช่วงท้องน้อยแล่นวาบเข้ามาทันที ตอนนี้เหมือนความรู้สึกทั้งหมดของฉันเริ่มตื่นจากอาการงัวเงียอย่างเต็มที่ “โอ๊ย..” เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมฉันถึงแสบช่วงล่างขนาดนี้วะ! มือบางเปิดผ้าห่มผืนหนาออกทันทีก่อนจะต้องตกใจ ดวงตาเบิกกว้างกับภาพที่เห็น ...เลือด เลือดสีแดงเข้มเลอะเปื้อนผ้าปูที่นอนขาวสะอาดจนน่ากลัว ตามหน้าขามีแต่คราบเลือดแห้งกรังติดอยู่เป็นทางยาว แต่สิ่งที่ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจคือ...ฉันไม่ได้สวมใส่อะไรไว้เลย สองมือเริ่มสั่นไหว ความหวาดกลัวกำลังเกิดขึ้นในใจ เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไมฉันถึงมาอยู่ในสภาพแบบนี้? และเมื่อสังเกตภายในห้องมืดที่มีเพียงแสงสลัวลอดผ่านจากผ้าม่านขนาดใหญ่ ฉันก็ต้องยอมรับความจริงที่ว่า... ที่นี่ไม่ใช่ห้องของฉัน!! “อืมมม” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังจากภายใต้ผ้าห่มข้างกาย ฉันสะดุ้งเล็กน้อยขณะถอยตัวหนี สิ่งแรกที่พบหลังจากจับจ้องอยู่นานคือเส้นผมสีทองโผล่พ้นผ้าห่มหนาออกมาครึ่งหัว หัวสมองมึนงงเริ่มประมวลภาพผู้ชายหัวสีทองจากเหตุการณ์เมื่อคืนได้อย่างเลือนราง ไอ้บ้านี่.. คือผู้ชายที่มาช่วยฉันจากไอ้พวกสารเลวนั่นนี่! ทำไงดีวะพันเก้า! คิดสิคิด เสียตัวให้ไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้แบบนี้ ฉันอยากจะบ้าตายยย!!! ร่องรอยสีกุหลาบบนร่างกายฉันช่วยตอกย้ำเรื่องราวเมื่อคืนอย่างชัดเจน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงโลกสวย ไม่ใช่คนอ่อนต่อโลก ถึงแม้จะเสียใจที่เสียครั้งแรกให้ไอ้ผู้ชายแปลกหน้านี่ไป แต่ก็ทำบ้าอะไรไม่ได้แล้วนี่ ต้องหนี! ใช่! ฉันต้องหนีก่อนที่ไอ้บ้านี่มันจะรู้ตัว ฉันไม่อยากรู้จัก ไม่อยากเห็นหน้าหรือจำหน้าเขาได้ คิดได้ดังนั้นจึงกัดฟันหย่อนขาลงจากเตียงช้า ๆ สองมือรวบผ้าห่มหนามาพันรอบตัว ฝ่าเท้าสัมผัสพื้นเย็นเฉียบจนร่างกายสั่นสะท้าน ฉันค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนพื้นแล้วอุทานลั่น ขา... ขาฉันมันสั่นไปหมดเลย เรี่ยวแรงก็ไม่มีแม้แต่จะประคองตัว เมื่อคืนไอ้บ้านี่ทำรุนแรงกับฉันขนาดนี้เลยเหรอวะ! นึกแล้วอยากจะลุกขึ้นไปตบสักทีสองที “ลงไปนั่งทำอะไรของเธอน่ะ” ฉันสะดุ้งอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงไอ้หัวทองถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวจากด้านหลังจนเผลอเกร็งตัว “นี่…” “อย่าเข้ามานะ!” ฉันจ้องเงาสีดำด้านหน้าที่หยุดนิ่งไป แสงจากหน้าต่างฝั่งเขาทำให้มองเห็นเงาตกกระทบลงบนผนังห้องสีขาวอย่างชัดเจน “อะไรของเธอวะ ฉันจะเข้าไปช่วย..” “ไม่ต้อง!” ฉันพูดแทรกอีกรอบเมื่อเห็นเขาทำท่าจะขยับตัว บอกแล้วใช่ไหมว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเขา ไอ้บ้านี่น่ะ ฉันไม่อยากจำหน้าเขา เพราะอย่างนั้นฉันจึงค่อย ๆ ประคองตัวเองยืนขึ้น กระชับผ้าห่มรอบหน้าอกแน่น “ทำอะไรของเธอวะ!” ไอ้หัวทองตะโกนถามคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ฉันทำเป็นไม่ได้ยินแล้วก้มเก็บเศษชิ้นส่วนเสื้อกับกระโปรงยีนของตัวเองขึ้นมากำแน่น เสื้อขาดแบบนี้แล้วจะใส่กลับยังไงวะ! ฉันกลอกตาไปมาอย่างเซ็งจัดก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นเสื้อยืดสีดำกองอยู่ด้านข้างจึงก้มลงไปหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง เหอะ! เหลือแต่เสื้อของไอ้บ้านั่นสินะที่ยังอยู่ในสภาพดี หมับ! ฉันปรายตามองข้อมือตัวเองที่โดนไอ้หัวทองคว้าเอาไว้ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำ “ปล่อย...” “คุยกันให้รู้เรื่องก่อนดิวะ!” หมอนั่นยื้อแขนฉันให้หันกลับไปทางเขาอย่างรุนแรงจนฉันหลุดเสียงร้องออกมาเบา ๆ ฉันเจ็บช่วงล่างอยู่นะเว้ย! แม่งบ้าหรือไงวะ! “เป็นบ้าอะไรของนายวะ! ปล่อยดิ!” รู้สึกอยากต่อยหน้าหมอนี่ชะมัด ผลสุดท้ายฉันก็ต้องจำใจหันหน้าไปมองเขาจนได้ ใบหน้าขาวหล่อเหลาชักสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมร้ายกาจจิกมองเหมือนไม่พอใจกัน “ปากดีแบบนี้ แปลว่าไม่เสียใจ?” นอกจากคำถามจะยียวนแล้ว หน้าตาเขายังกวนประสาทฉันอีก “เออ ไม่ได้เสียใจ ไม่ได้แคร์ รู้แล้วก็ปล่อยสักทีสิวะคนจะอาบน้ำ!” ถึงจะพูดแบบนั้นก็เหอะ แต่ความจริงแม่งไม่ใช่เลยว่ะ โคตรแคร์อ่ะบอกเลย แต่ไม่อยากฟูมฟายต่อหน้าไอ้บ้าที่พรากเวอร์จิ้นฉันไปไง! “เออก็ดี ได้ฟันเวอร์จิ้นฟรี ๆ โดยที่ฉันไม่ต้องเสียอะไร” “ไอ้...!” หมับ! มือหนาของเขาคว้าข้อมือฉันไว้ได้ทันก่อนมันจะพุ่งใส่ใบหน้ากวนประสาทนั่น ไอ้บ้านี่มันถ่อยจริง ๆ เลย นอกจากจะไม่ขอโทษฉันแล้วยังจะมาดูถูกกันอีก “จะต่อยคนอย่างนำทัพ… ยังเร็วไปสำหรับเธอ” ไอ้หัวทองดึงมือข้างนั้นเข้าไปกดจูบหนัก ๆ หนึ่งทีพร้อมส่งสายตาเรียกร้องมาให้ ความร้อนจากส่วนที่โดนริมฝีปากนั่นสัมผัสลามไปทั่วทั้งแขน “ปล่อยสักที!!” ฉันสะบัดมือแรง ๆ อีกหลายทีจนเขายอมปล่อยในที่สุด แล้วรีบหันหลังเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำก่อนปิดกระแทกใส่เสียงดังลั่น หวังให้มันหลุดกระเด็นไปกระแทกใบหน้ากวนประสาทนั่นสักที สาบานเลย! ชาตินี้จะไม่ขอเจอะเจอไอ้บ้านี่อีกเด็ดขาด! . . . หลังจากอาบน้ำชำระล้างคราบโสมมออกจากร่างกายเสร็จเรียบร้อย ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำโดยไม่หันไปมองไอ้หัวทองนั่น เขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ริมระเบียง ถึงแม้จะไม่ได้มองแต่ฉันรู้นะว่าเขาจ้องฉันอยู่ “เสื้อฉัน...” “อะไร?” เพราะจู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาตอนที่ฉันกำลังใส่รองเท้าจึงลืมตัวถามกลับไป บ้าเอ๊ย! ไปพูดกับเขาทำไมเนี่ย! “เธอใส่เสื้อฉันอยู่” “...” คราวนี้เป็นฉันที่หันกลับไปมองเขา สายตาร้ายกาจนั่นกวาดมองไปทั่วหน้าอกฉัน อะ...ไอ้บ้านี่ “เฮ้ย! มองอะไรของนายวะ!” “มองเสื้อ...” กวนตีน… “เออ! ฉันใส่เสื้อนายแล้วทำไม เสื้อฉันมันขาดไม่เหลือชิ้นดีไม่ใช่เพราะฝีมือนายหรือไง!” พูดไปแล้วก็รีบกัดปากตัวเอง บ้า ๆ จะรื้อฟื้นขึ้นมาทำไมวะเนี่ย “ฉันไม่ได้ทำ” หมอนั่นปฏิเสธหน้าตาย เขาขยี้ก้นบุหรี่ทิ้งแล้วสาวเท้าเดินเข้ามา ฉันรีบถอยหลังหนีจนชิดบานประตู จะเข้ามาใกล้ทำไมวะ! ฉันด่าเขาทางสายตา แต่เหมือนคนหน้าหนาจะไม่รู้ตัว เขาก้มหน้าลงมาใกล้จนปลายจมูกแทบชนกันสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุหรี่ราคาแพง “เธอต่างหากที่ทำ...” “ไอ้... เฮือก!” คำด่าสะดุดไปเมื่อเขาจงใจกดปลายจมูกลงข้างแก้มฉัน อะ...ไอ้บ้านี่มันหอมแก้มฉัน! “เมื่อคืนน่ะ” “…” “เธอโคตรเร่าร้อนเลยว่ะ... โอ๊ย!!” พลั่ก! ไม่ทันจบคำพูดทุเรศนั่นเข่าน้อยของฉันก็ยกขึ้นกระแทกหน้าขาแกร่งด้วยความแรงจนร่างสูงทรุดลงไปนั่งกุมเป้าบนพื้นห้อง ฉันจิกตามองอย่างรังเกียจ เขากัดฟันแน่นแล้วส่งสายตามาดร้ายกลับมาให้ “ทำบ้าอะไรวะ!” “เมื่อคืน...” น้ำเสียงเย็นชาของฉันสะกดสายตามาดร้ายนั่นไว้นิ่ง นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสำหรับการพบเจออันเลวร้ายของฉันกับเขา “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “...” “ฉันกับนาย... ไม่เคยพบกัน” “…” “ลืมซะ... เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้... ลืมมันซะ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD