“เฮีย... มางานนี้ได้ยังไง” ฉันตัดสินใจถามออกไปในที่สุด ฉันรู้ว่าเขาเองก็รู้ว่าฉันเป็นใคร ผู้ชายอย่างไซเรนท์น่ะ ไม่มีทางขอผู้หญิงแปลกหน้าเต้นรำก่อนหรอก...ฉันรู้จักนิสัยเขาดี
“...มีคนส่งการ์ดมาให้” เขาตอบนิ่ง ๆ สายตายังไม่ละไปจากใบหน้าของฉัน วันนี้ไซเรนท์หล่อมาก เขาใส่ชุดสูทสีดำดูลึกลับบวกกับหน้ากากขนนกสีดำสนิทตัดกับผิวหน้าขาว ๆ ของเขา ดวงตาและเรือนผมก็สีดำเช่นเดียวกัน
เขาเปรียบเสมือนซาตานแห่งรัตติกาลในขณะที่ฉันเปรียบเสมือนนางฟ้าแห่งแสงสว่าง เพราะชุดสีขาวของฉันมันช่างโดดเด่นท่ามกลางฟลอร์เต้นรำจนฉันเองยังรู้สึกได้... เราสองคนดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง...
“ฉันก็ได้...”
“ทำไมไม่บอกเฮีย” พูดไม่ทันจบไซเรนท์ก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็น ๆ นี่เขากำลังโกรธฉันหรือเปล่า... ฉันหลุบตาลงเหมือนเด็กแอบทำความผิดแล้วโดนผู้ใหญ่จับได้
“ฉันแค่ไม่อยากให้เฮียเป็นห่วง”
“อย่าทำแบบนี้อีก...” ไซเรนท์โน้มหน้ามาใกล้จนปลายจมูกเราชนกัน เขากำลังจะทำให้ฉันขาดอากาศหายใจตายนะ แค่นี้หัวใจฉันก็จะระเบิดอยู่แล้ว
“ฉันขะ.... อ๊ะ!”
พรึ่บ!
หมับ!
ฉันที่กำลังจะเอ่ยคำขอโทษถึงกับร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ร่างกายโดนกระแทกเบา ๆ จากด้านข้างจนหลุดออกจากอ้อมกอดของไซเรนท์ ก่อนจะถูกวงแขนของใครอีกคนรัดรอบเอวเอาไว้อย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
“อะ... อะไรกันนี่!” เมื่อตั้งสติได้ฉันจึงรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของวงแขนนั้นด้วยความไม่พอใจแล้วก็ต้องชะงักค้างไป หน้ากากขนนกสีขาวถูกปกปิดใบหน้าขาวไว้ครึ่งหน้า เขาสวมชุดสีขาวสะอาดตาราวกับเทวาลงมาจุติ แต่สิ่งที่กระตุกหัวใจฉันแทบหยุดเต้นคือเรือนผมสีทองสว่างกับแววตาดุดันซึ่งขัดกับภาพลักษณ์เทพบุตรของเขาอย่างสิ้นเชิง
ไม่จริงน่ะ... หมอนี่คงจะไม่ใช่...
“หวานกันเหลือเกินนะ ฮึ!”
ใบหน้าของฉันชาขึ้นมาทันทีเมื่อน้ำเสียงประชดประชันของเขาดังขึ้น รอยยิ้มเย้ยหยัน แววตาดุดันมาดร้าย สัมผัสร้อนรุนแรงจากฝ่ามือที่กำลังกดเน้นรอบเอวของฉัน มันเดาไม่อยากเลยว่าผู้ชายตรงหน้าฉันเป็นใคร...ถ้าไม่ใช่ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้น!
นำทัพ!!
“ปล่อยฉันนะ ไอ้คนสารเลว” ฉันกดเสียงต่ำกระซิบลอดไรฟัน เหตุการณ์ล่าสุดระหว่างฉันกับเขามันยังวิ่งวนอยู่ในสมองของฉัน เขาทำให้ฉันอับอาย ทำให้ฉันกลายเป็นขี้ปากคนอื่น ถูกตราหน้าว่าแย่งแฟนชาวบ้าน แถมยังเป็นผู้หญิงสารเลว นอกใจแฟนตัวเองไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วอีกต่างหาก เขาน่ะ! สร้างแต่เรื่องเลว ๆ ให้ฉันตลอด!!
“ปากดี... ระวังจะโดนตบด้วยปาก”
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” ฉันพยายามสะบัดตัวออกจากวงแขนที่เริ่มรัดแน่นของนำทัพ สองมือผลักดันแผ่นอกแรง ๆ อย่างรังเกียจ เขาแค่นยิ้มยียวนพลางกระชับวงแขนแน่นกว่าเดิมจนใบหน้าเราแทบชิดกัน
ฉันเบี่ยงหน้าหนีเพื่อมองหาไซเรนท์ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ก่อนจะพบว่าเขากำลังเต้นรำอยู่กับผู้หญิงรูปร่างสูงเพรียวในชุดเดรสสีดำ ฉันมองไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นทำสีหน้ายังไงเพราะเธอกำลังหันหลัง ฉันเห็นเพียงสายตากังวลจากไซเรนท์ที่มองมาทางฉัน เขาทำท่าเหมือนจะเดินมาทางนี้แต่ติดมือบางที่เอื้อมคล้องรอบคอของเขาเอาไว้ สายตาเย็นชาตวัดมองจังหวะเดียวกับผู้หญิงคนนั้นเบี่ยงหน้ามาหาฉัน เราสบตากันนิ่งแล้วเธอก็เผยรอยยิ้มร้ายกาจให้ฉัน ไม่สิ... เหมือนเธอยิ้มให้นำทัพมากกว่า
สองคนนี้รู้จักกันเหรอ... แล้วผู้หญิงสวย ๆ แต่แววตาร้ายกาจคนนั้นเป็นใครกัน... ทำไมไซเรนท์ถึงไม่ผลักเธอออก?
“ฮึ... หึงมันหรือไง?”
ฉันหันขวับกลับมาจิกตาใส่คนสารเลวตรงหน้า
หึงเหรอ... น่าแปลก... ทำไมฉันถึงรู้สึกสงสัยมากกว่าความไม่พอใจกันนะ?
“มันเรื่องของฉัน!”
“หึงสินะ” เขายังไม่เลิกใช้นำเสียงกวนประสาทถามฉัน หมอนี่ต้องการอะไร!
“เฮียไซเป็นคนรักของฉัน ของใคร ๆ ก็หวง” ฉันเชิดหน้าตอบพลางจิกเล็บลงบนต้นแขนแกร่ง รู้สึกถึงแรงกดเน้นบริเวณเอวคอดที่ค่อย ๆ เคลื่อนลงต่ำจนน่าใจหาย “เอามือออกไปนะ!”
“ฮึ! บอกเองไม่ใช่เหรอ? ของใคร ๆ ก็หวง เธอเป็นของฉัน ฉันก็ต้องหวงสิ จริงไหม?” เขาก้มมากระซิบเสียงเบา ลมหายใจร้อนเป่ารดข้างแก้มเรียกเลือดบนใบหน้าฉันได้อย่างดีเลยล่ะ
“ฉันไม่ใช่ของนาย!”
“เธอเป็นของฉัน” นำทัพเถียงกลับทันควัน ฉันทุบหน้าอกเขาแรง ๆ อย่างหงุดหงิด หมอนี่ตั้งใจจะกวนประสาทฉันใช่ไหม!
“ฉันเป็นของเฮียไซคนเดียว!” แรงบีบสะโพกแนบแน่นขึ้นเมื่อฉันพูดจบ แววตาดุดันเกรี้ยวกราดขึ้น เขากระซิบลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
“พูดใหม่สิพันเก้า...”
“เอามือออกไปไอ้ชั่ว!” ฉันพยายามดึงมือนำทัพออกจากสะโพกของตัวเอง โชคดีที่แสงไฟภายในงานมันมืดสลัว ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องอับอายเพราะการกระทำเลว ๆ ของเขาอีกรอบแน่ ๆ
“ฉันบอกให้พูดใหม่!” เหมือนนำทัพจะเริ่มหมดความอดทน เขาบดเบียดร่างแกร่งเข้ามาแนบชิดมากขึ้นแทบจะรวมร่างกันเลยทีเดียว หมอนี่มันบ้า! โรคจิต!
“อะไร! ฉันเป็นของเฮียไซเพราะฉันเป็นแฟนเขา!”
“แต่เธอเป็นเมียฉัน!”
อะ...ไอ้!
ฉันกัดริมฝีปากแน่น เขามันทุเรศ! ทำไมต้องเอาเรื่องบ้านั่นขึ้นมาพูด ฉันไม่เต็มใจ ไม่อยากเป็น ไม่อยากยุ่งอะไรกับเขา ทำไมต้องลากฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยว่ะ!
“เลิกพูดแบบนี้สักที! ฉันจำไม่ได้! ไม่เคยและไม่ได้เป็นอะไรกับคนสารเลวอย่างนายทั้งนั้น! ปล่อย!”
“ดี... เดี๋ยวรู้เลยพันเก้า!”