EP.17 [แฟน]

1123 Words
ภายในห้องกว้างมีเพียงเสียงเตียงและเสียงครวญครางดังสะท้อนไปมา ผมเร่งจังหวะหนักหน่วงเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบรัดกลางลำตัว พันเก้าเกร็งตัวแน่น ผมกำลังส่งเธอไปถึงความรู้สึกด้านมืดของมนุษย์ ตัณหาราคะ คาวโลกีย์ที่ผู้หญิงอย่างเธอควรจะได้เจอ ผมส่งแรงกดสะโพกหนัก ๆ จนร่างบางสั่นสะท้านกระตุกตัวรุนแรง เสียงหวีดร้องออกจากริมฝีปากบวมเจ่อ ดวงตาหวานใช้สายตาหยาดเยิ้มมองสบผ่านความมืด ยิ่งได้เห็นท่าทางแบบนั้นของเธอผมก็ยิ่งกดสะโพกรุนแรงเน้นย้ำซ้ำ ๆ จนความสุขล้นทะลักภายในร่างบางอย่างสุดกลั้น ผมทิ้งตัวซบใบหน้าลงกับไหล่บาง สองร่างของเรายังเชื่อมกันอยู่ ผมไม่ได้ป้องกัน... อาจคิดว่าผมประมาทใช่ไหมล่ะ แต่เปล่าเลย... ผมตั้งใจต่างหาก! ‘อื้อ...’ พักเหนื่อยได้ไม่นาน เสียงครางหวานดังขึ้นข้างใบหน้า ผมมองพันเก้าที่เหมือนยังไม่สางจากยานรกนั่น ‘ร้อน...’ พรึ่บ! ‘อ๊า...’ ผมพลิกกายลงมานอนเบื้องล่างและส่งร่างบางให้นั่งคร่อมอยู่ด้านบน แรงกดน้ำหนักลงมาทั้งที่ยังเชื่อมกันอยู่กลางลำตัวส่งผลให้เสียงหวานครางกระเซ้าออกมา ‘ขยับสิ... อยากมากนักก็ลองขยับเองหน่อยเป็นไง’ แม้จะรู้ว่ายัยตัวดีกำลังขาดสติ แต่ก็อดเย้ยหยันไม่ได้ ผมจับสะโพกกลมขยับขึ้นลงแรง ๆ อย่างนึกหมั่นไส้ ‘จะ...เจ็บ’ ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่ร่างกายพันเก้ากับโยกไหวตามแรงขยับของผม ในที่สุดการควบคุมทั้งหมดก็ตกอยู่ที่เธอ ผมปล่อยมือออกจากสะโพกกลมกลึงแล้วคว้าจับทรวงอกอิ่มตรงหน้า บีบเคล้นขย้ำสุดแรงตามอารมณ์ดิบในกายร้อนผ่าว หลังจากนั้นเราสองคนต่างมัวเมาในบทรักอันเร่าร้อนของกันและกันไม่มีสิ้นสุด พันเก้ารองรับความดิบเถื่อนของผมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนเพลียหลับไป ร่างกายขาวนวลเนียนตอนนี้เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบทั่วร่าง บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเป็นของผมโดยสมบูรณ์ ผมตีตราผูกมัดเธอไว้ด้วยความแปดเปื้อน! . . . ปึง! ปึง! ปึง! เสียงทุบประตูดังขึ้นจากด้านนอกเรียกความคิดของผมกลับมาสู่ปัจจุบัน สายตายังจับจ้องใบหน้าสวยของร่างบางบนเตียงที่กำลังโดนพิษไข้เล่นงาน ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาจากห้อง เสียงทุบประตูยังคงดังต่อเนื่อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครถ้าไม่ใช่ไอ้พวกเพื่อนเวร! “กว่าจะเปิดได้นะไอ้เวร มัวจัดหนักอยู่หรือไงวะ!” น้ำเสียงหงุดหงิดของไอ้หัวแดงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกทุกข์ร้อนอะไรกับมันนัก มันจิกตามองอย่างรำคาญแล้วยื่นถุงกระดาษสีดำมาให้ ผมยืนมองถุงใบนั้นนิ่ง ๆ ไม่ได้ยื่นมือไปรับ แต่ถามมันกลับด้วยวลีสั้น ๆ “อะไร?” “ระเบิดมั้ง” กวนตีนกูเพื่อ? ไอ้อัลฟ่าทำหน้าหงุดหงิดอีกครั้งแล้วโยนถุงใบนั้นไว้หน้าประตูห้อง ให้ผมทายนะ... สาเหตุที่ทำให้ไอ้คนกะล่อนอย่างมันหงุดหงิดเนี่ยคงจะหนีไม่พ้นอารมณ์ค้างจากเรื่องอย่างว่ามาแน่ ๆ “เมียมึงทำกูอารมณ์เสีย! ห่าเอ๊ย! คนกำลังเข้าได้เข้าเข็ม!” นั่นไง! ผมทายสันดานมันผิดซะที่ไหนกันล่ะ ฮึ! “ยัยนั่นไปหามึงเหรอ” ผมหยิบถุงกระดาษสีดำขึ้นมาเปิดดูแล้วย้อนถามมันด้วยน้ำเสียงเดิม ๆ “เออดิ ยัยนั่นบอกว่าโทรหามึงไม่ติด กูไม่เข้าใจเลยว่ะ รู้ทั้งรู้ว่ามึงอยู่ข้างบนแต่ไม่ยอมขึ้นมาหา ดันเข้ามาขัดจังหวะตอนกูกำลังกินนมแทนซะงั้น?” ผมยืนฟังไอ้เพื่อนรักบ่นโดยไม่พูดอะไร ยัยนั่นที่อัลฟ่าพูดถึงคือแฟนคนปัจจุบันของผมเอง เธอชื่อ มีนา เป็นผู้หญิงนิสัยค่อนข้างดี ไม่วีน ไม่เหวี่ยง ไม่ระรานใคร ผมจึงคบกับเธอได้นาน เราสองคนคบกันมาเกือบหนึ่งปีแล้วมั้ง ตั้งแต่ตอนอยู่ปีสามแล้วล่ะ ผมก็จำไม่ได้ว่าคบกับเธอได้ยังไง รู้แค่ว่าผมไม่ได้คิดจะหยุดที่เธอแล้วกัน ผมรู้ว่าวันหนึ่งผมก็ต้องเลิกกับเธออยู่ดี ไม่ได้คิดจะคบไปตลอดอยู่แล้ว ถึงแม้เธอจะเป็นน้องสาวไอ้ธันวา เพื่อนสมัยเด็กของผมก็เถอะ อาจจะต้องแตกหักกันก็คราวนี้ละวะ แต่ช่างเถอะ! ตอนนี้ไอ้เวรนั่นก็ไปเรียนอเมริกาหลายปีแล้ว มันคงไม่สนใจแล้วล่ะมั้ง กลับมาเรื่องของมีนา ก็อย่างที่บอกว่ายัยนั่นไม่ระรานใคร เธอรู้ว่าผมนอนกับผู้หญิงคนอื่น เธอก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผม แถมยังทำหน้าที่แฟนที่ดีได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นบนเตียงหรือในชีวิตประจำวัน ผมคิดว่าเธอทำหน้าที่พวกนั้นได้ดีนะ อย่างเช่นตอนนี้ไง... มีนาซื้อขนมเค้กของโปรดของผมมาฝากผมที่คลับ เห็นหน้าผมหล่อแบบนี้ ผมชอบกินขนมเค้กนะครับ ยิ่งเวลาได้หงุดหงิดนะ ไม่เกินสิบนาทีอารมณ์ผมจะดีขึ้นมาเลย เข้าใจคำว่าฟินก็คราวนี้ละ.... เอาเถอะ เข้าเรื่องมีนาต่อดีกว่า มีนาเลือกที่จะไม่ขึ้นมาหาผมบนห้อง เพราะก่อนหน้านี้เธอโทรมาหาผมแล้ว แต่ผมไม่ได้รับสาย เธอคงรู้ว่าผมกำลังยุ่งอยู่บนเตียงกับใครสักคนเลยไม่อยากขัดจังหวะผม เธอจึงไปหาไอ้อัลฟ่าที่คงกำลังนั่งฟัดนัวเนียกับผู้หญิงสักคนในคลับแถวนั้นล่ะ เป็นเหตุให้ไอ้บ้านี่มายืนหงุดหงิดง่องแง่งใส่ผมอยู่นี่ไง “แล้วมีนากลับไปแล้วไง?” “เออ ยัยนั่นฝากบอกมึงด้วยว่าพรุ่งนี้มึงมีเรียน เฮ้ย! นี่กูกลายเป็นบุรุษไปรษณีย์ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!” ไอ้อัลฟ่าขมวดคิ้วบ่นแล้วยกมือขยี้ผมสีแดงของตัวเองแรง ๆ “เออช่างแม่งเหอะ เป็นเชี่ยอะไรกูก็หล่อ” “เออไอ้หล่อ” ยกขาขึ้นเตะไอ้เพื่อนเวรหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ในความมั่นหน้าของมัน “แล้วไม่รีบกลับไปกินนมต่อไง? เดี๋ยวหมาคาบไปรับประทานอย่ามาโทษกูนะ” “ฉิบหาย! กูลืมนม! ไปแล้วเว้ยยยเดี๋ยวนมหาย” ผมแค่นหัวเราะใส่มัน เมื่อไอ้หัวแดงวิ่งลงบันไดด้วยความรวดเร็วปานจะเหาะ แช่งให้แม่งตกบันไดแล้วสูญพันธุ์ซะเลยดีไหม... กลัวหายเหลือเกิน นมเนี่ยยย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD