“นี่นาย! ปล่อยสิ!” ฉันกัดฟันพูดเสียงเบา เมื่อสายตาของคนรอบข้างเริ่มมองเราสามคนเป็นตาเดียว สถานการณ์ในตอนนี้มันคงจะเหมือนศึกชิงนางสินะ... แต่อยากจะบอกว่าฉันไม่ได้รู้สึกดีเลยว่ะ!
“ปล่อยมือแฟนกูซะ...” แรงบีบข้อมือที่ไซเรนท์กำลังจับอยู่ทำให้ฉันหันกลับไปมองหน้าเขา ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาดุดันน่ากลัว ฉันไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย สายตาของเขาเหมือนอยากจะฆ่านำทัพเสียตรงนี้
“แฟน? ฮึ!” นำทัพทวนคำด้วยน้ำเสียงกวนเบื้องล่างอย่างมาก เขาแค่นหัวเราะพลางอัดบุหรี่เข้าปากหนัก ๆ
นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย พวกเขาจะเล่นสงครามประสาทกันใช่ไหม แล้วทำไมต้องให้ฉันมาอยู่ตรงกลางด้วยวะ!
“โอ๊ย! บีบแรงไปแล้วนะ!!” ฉันด่าไอ้หัวทองทางสายตาเมื่อเขาเพิ่มแรงบีบลงบนข้อมือของฉัน มันแน่นจนกระดูกแทบจะแตกหัก
เขากำลังโกรธสินะ... สายตาดุดันคู่นั้นมันช่างขัดกลับรอยยิ้มเย็น ๆ ที่เค้นออกมา
“มึงต้องการอะไรไอ้ทัพ?” ไซเรนท์เป็นฝ่ายปล่อยข้อมือของฉันแทนเมื่อเห็นว่านำทัพคงไม่ยอมปล่อยมือฉันง่าย ๆ ฉันจึงได้โอกาสรีบแกะมือหนาของนำทัพออกแต่ไอ้บ้านี่กลับออกแรงกระชากจนร่างฉันถลาเข้าไปหาเขาอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนไซเรนท์จะไวกว่าเพราะเขาตวัดวงแขนคว้ารอบเอวฉันไว้จากด้านหลัง เสียงกรี๊ดเบา ๆ ดังขึ้นจากรอบตัว ฉันถึงกับนิ่งค้างไปเลยเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นจากแผ่นอกด้านหลัง พอเงยหน้าขึ้นก็สบตากับผู้ชายตรงหน้าที่ยังจับข้อมือฉันเหมือนเดิม
ด้านหน้าฉันคือนำทัพ ผู้ชายร้ายกาจและกวนประสาทที่สุดในสามโลก เขาสบตาฉันนิ่ง แววตาดุดันราวกับเคียดแค้นฉันมาสักสิบชาติ
ส่วนเจ้าของอ้อมกอดจากด้านหลังก็คือไซเรนท์ ผู้ชายเย็นชาที่เคยร้องขอให้ฉันกลับไปหาเขา และใช่... เขาคือผู้ชายที่ฉันรัก
“ฮึ! หวงมากเลยสินะ!” นำทัพเค้นเสียงเย้ยหยัน เขาเพิ่มแรงบีบข้อมือขึ้นจนฉันต้องกัดฟันแน่น มันเจ็บจนปวดร้าวไปทั้งกระดูก
“เออ... รู้แล้วก็ปล่อยมือซะ” เสียงกระซิบข้างหูเรียกความร้อนบนใบหน้าฉันในทันที และเพราะความเขินหรืออะไรก็ตามทำให้ฉันเผลอละสายตาขึ้นสบกับนำทัพพอดิบพอดี สายตาที่เขาใช้มองฉันคล้ายกำลังดูถูกกัน...
อะ...อะไรยะ! เออ! รู้น่ะว่าเขินผิดเวลา!
“ยิ่งรู้ว่าหวง... กูยิ่งไม่ปล่อย”
“มึงต้องการอะไร”
“ยัยนี่ไง...” ฉันเบิกตากว้างทันทีที่นำทัพยกข้อมือฉันขึ้น คล้ายจะบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการคือฉัน แรงกอดรัดรอบเอวแน่นขึ้นตามอารมณ์คุกรุ่นของเจ้าของอ้อมกอด เสียงลมหายใจเข้าออกรุนแรงทำให้รู้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ไซเรนท์กำลังโกรธมาก... มากจนน่ากลัว
“อย่ายุ่งกับพันเก้า” เขากระซิบลอดไรฟัน
“ทำไม? รักมาก? หวงมาก? ฮึ! คนอย่างมึงรู้จักคำพวกนี้ด้วยหรือไง!!” นำทัพตวาดเสียงกร้าว ท่าทางกวนประสาทเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยท่าทางดุดัน เขาบีบมือฉันแรงขึ้น มันแรงมากจนมือข้างนั่นสั่นระริก ไม่รู้ว่าข้อมือฉันสั่นเองเพราะเจ็บปวดหรือมือของเขาเองที่สั่นเพราะความโกรธ
“โอ๊ย... เจ็บนะ! ปล่อยมือสิ!” ตอนนี้ฉันดึงวงแขนของไซเรนท์ออกไปแล้ว เขาถอยไปยืนด้านหลังของฉัน ในขณะที่ฉันพยายามแกะมือหนาของนำทัพออก
เขามันบ้า! โรคจิต! ชอบทำร้ายร่างกายฉันทุกครั้งที่เจอเลย! เกลียดหมอนี่ชะมัด! ให้ตายเหอะ!
“เจ็บเหรอ! โดนแค่นี้เธอเจ็บเหรอ! สิ่งที่เธอเจ็บมันยังไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของเอวาด้วยซ้ำ!!”
“โอ๊ยยย! นายเป็นบ้าอะไรวะ! มาพาลใส่ฉันทำไม! แล้วพูดถึงใคร! ฉันไม่รู้จัก! ปล่อยสิวะ! มันเจ็บ!” ฉันเริ่มดิ้นรนพลางสะบัดข้อมือข้างนั้นแรง ๆ หมอนี่มันบ้า! อยู่ดี ๆ ก็เอาฉันไปเปรียบเทียบกับใครไม่รู้! ไซเรนท์ก็อีกคน เอาแต่ยืนเงียบไม่ช่วยอะไรฉันเลย บ้าเอ๊ย!
“ฮึ! ก็ลองถามแฟนสุดที่รักของเธอดูสิ... ว่ารู้จักผู้หญิงที่ชื่อเอวาไหม?”
“...”
“เธอตายยังไง...”
“…”
“แล้วใครฆ่าเธอ!!”
สิ้นเสียงตะโกนกร้าวของนำทัพ รอบตัวพวกเราก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง น่าแปลกที่มันเงียบมาก... มากจนได้ยินเสียงลมหายใจของคนตรงหน้า ฉันสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของเขา แรงบีบข้อมือเริ่มคลายลง ไม่มีใครพูดอะไรต่ออีก พวกเขาแค่จ้องตากันอย่างดุดัน
ฉันไม่รู้ว่าไซเรนท์กำลังทำสีหน้าแบบไหน เพราะเขาอยู่ด้านหลังฉัน ฉันเห็นเพียงแค่สีหน้าเจ็บปวดของผู้ชายตรงหน้าที่ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือของฉัน
จนในที่สุดความเงียบก็ถูกทำลายลงพร้อมร่างบางในชุดนักศึกษาเรียบร้อย เธอเดินเข้ามาหาพวกเราด้วยสีหน้าคล้ายตกใจกับอะไรสักอย่าง
ฉันเคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้บ่อย ๆ เธอเรียนคณะเดียวกับฉันแต่คนละสาขาจึงไม่ได้รู้จักกันเท่าไหร่ รู้แค่ว่าเธอชื่อมีนา เป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปี และที่ฉันเพิ่งรู้จากไกอาเมื่อเช้าก็คือ มีนากำลังคบกับนำทัพ!
“ทัพพูดว่ายังไงนะ...”
“เธอเข้ามาทำไมมีนา” นำทัพไม่ตอบคำถามแต่ถามกลับด้วยน้ำเสียงดุดัน เขาไม่แม้แต่จะมองใบหน้าสวยของแฟนตัวเองเลยสักนิด หมอนี่นิสัยไม่ดีสุด ๆ เลย!
“นาได้ยินเสียงทัพก็เลยเข้ามาดูน่ะ แล้วนี่...” เธอตอบพลางมองข้อมือที่นำทัพจับก่อนจะลากสายตาขึ้นมองฉัน วูบหนึ่งฉันคิดว่าเธอคงจะมองฉันด้วยสายตาหึงหวงเหมือนผู้หญิงทั่วไปที่เห็นแฟนตัวเองจับมือผู้หญิงคนอื่น แต่เปล่าเลย... มีนามองฉันด้วยสายตาสงสัยมากกว่า... และฉันเชื่อว่าเธอไม่ได้เสแสร้ง
“เอ่อ...” ฉันทำหน้าเหลอหลาก่อนจะหันกลับมาหาตัวการที่ไม่ยอมปล่อยมือฉันสักที “นี่นาย! ปล่อยสักทีสิ! แฟนนายมองอยู่นะ!”
“ฮึ! กลัวแฟนฉันเข้าใจผิดหรือว่ากลัวแฟนเธอเข้าใจผิดกันแน่!” ทำน้ำเสียงประชดได้น่าตบมากอ่ะ บอกเลย!
“ก็ทั้งสองคนนั่นแหละ! ปล่อย!” ฉันสะบัดตัวแรง ๆ จนเขายอมปล่อยในที่สุด แต่เพราะฉันยื้อร่างมากเกินไปจึงเสียหลักไปด้านหลัง ไซเรนท์ที่ยืนเงียบมานานจึงใช้วงแขนพยุงร่างฉันไว้ได้ทัน
“ฮึ! ถ้ารักกันมาก... ก็เฝ้ากันไว้ให้ดี”
“…”
“เพราะกูจะขยี้หัวใจมึงให้แหลกคามือเลยไอ้ไซเรนท์!!” เขาทิ้งคำพูดคล้ายข่มขู่เอาไว้แล้วเดินออกไปโดยมีมีนาเดินตามไปติด ๆ ส่วนไซเรนท์ถึงแม้เขาจะยืนฟังเงียบ ๆ แต่ฉันสัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มภายในจิตใจของเขา เพราะสีหน้ากังวลและสายตาห่วงใยที่เขามองมาทางฉัน
เขากำลังกังวลอะไร... เกี่ยวกับเรื่องการตายของผู้หญิงที่ชื่อเอวาหรือเปล่า...