H CONDO
“ทัพ... ดื่มเยอะไปแล้วนะ” มือบางคว้าแก้วเหล้าจากมือผมไปวางไว้บนโต๊ะ ผมจึงปรายตามองสีหน้ากังวลของมีนาอีกครั้ง ตั้งแต่เข้ามาในห้องตัวเอง ผมก็เปิดเหล้านั่งดื่มคนเดียวมากว่าชั่วโมงโดยไม่พูดอะไรกับเธอเลย ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรผม มันทำให้ผมไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรเมื่อมีเธออยู่ด้วย
“…” ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาจุดบุหรี่สูบนอกระเบียง อยากจะระบายความอัดแน่นในใจให้มันลดลงบ้าง ยิ่งเห็นสายตาที่ไอ้ไซเรนท์มองผู้หญิงคนนั้น ความกรุ่นโกรธก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น
แววตาเย็นชาที่มันเคยใช้มองเอวา... ตอนนี้มันกลับใช้สายตานั้นมองพันเก้าด้วยความรัก... ความห่วงใย...
ผมยืนมองภาพนั้นด้วยความสะอิดสะเอียนจนแทบกระอักเลือด! ในเมื่อแสดงออกมาว่ารักกันมากขนาดนั้น ผมก็จะทำให้พวกมันเจ็บปวดเจียนตายไปเลย!
“ทัพ... นาขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?” มีนาเดินเข้ามายืนข้างผม เธอเท้าแขนกับราวระเบียงพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนหันกลับมาสบตากับผมตรง ๆ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงรู้สึกเฉย ๆ ยามเห็นแววตาสื่อความรักของเธอ ผมรู้ว่ามีนารักผมมาก รักมากจนยอมได้ทุกอย่าง เพื่อให้ผมอยู่กับเธอให้นานที่สุด แต่สำหรับตอนนี้... ผมกลับเริ่มรู้สึก... รำคาญ
ผมพ่นควันสีขาวครั้งสุดท้ายพลางขยี้ก้นบุหรี่ทิ้ง ก่อนเดินกลับเข้ามาในห้อง แต่แล้วร่างกายผมกลับต้องชะงักเมื่อคำถามจากร่างบางนอกระเบียงดังขึ้น
“ทัพรักเอวาใช่ไหม?”
“..นี่เธอ” ผมหันกลับมาสบตามีนาอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าตกใจอะไรหรอกนะ และไม่คิดว่ามีนาจะหึงหวงผมด้วย แต่ผมแค่แปลกใจว่าทำไมจู่ ๆ มีนาถึงพูดจาราวกับเคยรู้จักเอวามาก่อน ทั้งที่ผมมั่นใจว่าสองคนนี้ไม่มีทางรู้จักกันแน่ ๆ
อย่าลืมสิ! มีนาเป็นน้องสาวของไอ้ธันวา เพื่อนสมัยเด็กของผม ถึงมันจะอายุมากกว่าผมแค่ปีเดียว แต่พวกเราก็ค่อนข้างสนิทกันมาก เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่ผมจะไม่รู้หากสองคนนั้นรู้จักกับเอวา
“รักสินะ...” เธอหลบตาผมแล้วหันออกไปนอกระเบียงแทน ผมยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเอวา... ร่างกายผมก็เหมือนกับสูญเสียการควบคุมไป “นาก็เคยคิดสงสัยเรื่องการตายของเอวา...”
“...”
“รู้สึกแปลกใจว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงพลัดตกตึกลงมา ยังเคยคิดเลยว่าเธออาจจะคิดสั้นฆ่าตัวตายก็ได้..”
“เอวาไม่ได้ฆ่าตัวตาย!” ผมตวาดก้องสองมือกำแน่นอย่างลืมตัว มีนาสะดุ้งตกใจพลางหันกลับมามองผมราวกับหวาดกลัว
“เอ่อ... ทัพ... นาขอโทษ นาแค่...”
“หุบปากแล้วกลับไปซะ!”
“ไม่ ๆ นาไม่กลับ! ทัพใจเย็น ๆ สิ นาแค่สงสัยนะ...” เธอเข้ามาสวมกอดผมแน่น เสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ ผมผลักเธอออกจากตัวด้วยความแรงระดับหนึ่ง มีนาเซถอยหลังจนเกือบจะล้ม “ทัพ.. อย่าเป็นแบบนี้สิ... นาไม่ได้ตั้งใจ”
“กลับไปก่อนมีนา..” ผมพูดเสียงนิ่งพลางหลับตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์ ผมรู้ว่าผมกำลังพาล... แต่มันห้ามตัวเองไม่ได้
“ก็ได้ นากลับแล้ว...” เธอปาดน้ำตาข้างแก้มแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนจะทิ้งคำพูดเดิมไว้ ๆ แล้วเดินออกจากประตูห้องไป “นารักทัพนะ”
ฮึ... รักเหรอ... คำนั้นสำหรับฉัน... มันตายไปพร้อมกับเอวานานแล้ว!!
“วา...” ผมทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนพลางหลับตาแน่น หัวใจมันปวดร้าวทุกครั้งที่คิดถึงเธอ ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของผม
‘ทัพ... เจ็บไหม...’ น้ำเสียงอ่อนโยนลอยเข้ามาในสมองของผม ภาพใบหน้าสวยปรากฏขึ้น สีหน้าเป็นห่วงเหมือนทุกครั้งเวลาที่ผมมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่นมา
‘เมื่อไหร่จะเลิกต่อยตีกับชาวบ้านเขาสักทีนะ’ เอวาทำเสียงดุ แต่มันกลับน่ารักในสายตาของผม
‘ไม่รักตัวเองบ้างหรือไงทัพ รักตัวเองบ้างสิ ทำไมชอบทำให้ตัวเองเจ็บตัวบ่อย ๆ’ เสียงหวานยังคงบ่นไม่หยุด เธอชอบพร่ำบอกให้ผมรักตัวเองมาก ๆ อยากให้ผมเป็นคนดี และผมก็พร้อมที่จะเป็นคนดีถ้าเพียงเธออยู่เคียงข้างผม
‘เขาไม่ได้รักวา ฮึก เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับวาเลยทัพ’
ผมลืมตาขึ้นในทันทีที่เสียงสะอื้นอย่างเจ็บปวดของเอวาลอยเข้ามา ผมจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี วันนั้นเป็นวันที่หัวใจผมแตกสลายไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของผู้หญิงที่ผมรัก
เช้าวันนั้นเอวาสารภาพรักกับไอ้ไซเรนท์ แน่นอนว่าผมรู้เรื่องทุกอย่าง ผมได้ยินทุกคำที่สองคนนั้นคุยกัน เพราะผมแอบยืนฟังอยู่ไม่ไกลจากนั้นนัก ผมได้ยินมันปฏิเสธเธอ ได้ยินเสียงเธอร้องไห้ ได้ยินเสียงมันถอนหายใจแล้วเดินจากไป ก่อนร่างบางของเอวาจะทรุดลงกับพื้น ตอนนั้นผมรีบวิ่งเข้าไปหาเธอทันทีราวกับว่าร่างกายมันเคลื่อนไหวตามหัวใจสั่ง เมื่อเอวาเห็นผมเธอก็สวมกอดแล้วร้องไห้อย่างหนัก
‘เขาไม่ได้รักวา ฮึก เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับวาเลย... ทัพ’
ผมอยากจะต่อยไอ้ไซเรนท์แรง ๆ ให้สาสมกับที่มันทำให้เอวาเสียใจ แต่ความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่มันทำอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเอวา ในเมื่อมันไม่ได้รักก็ไม่ควรให้ความหวัง เอวาจะได้ตัดใจจากมันได้
แต่ผมไม่คิดเลย... ไม่คิดเลยว่าหลังจากนั้นแค่ไม่กี่ชั่วโมง... ความตายกลับมาพรากเอวาไปจากผม... ไอ้เวรพวกนั้นมันพรากเธอไปจากผม!!