EP.26 [แบล็กเมล์]

1422 Words
พลั่ก! ฉันกลั้นใจดึงมือนำทัพออกจากไหล่แล้วหันกลับมาผลักเขาสุดแรง ความรู้สึกฉันในตอนนี้คล้ายกับเตาไฟที่มันร้อนจนอยากจะเผาไหม้ทุกสิ่งอย่าง! เขาจะเลวเกินไปแล้ว... หมอนี่น่ะ! สารเลวเกินไปแล้ว!! เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือกระทบผิวหน้าดังสนั่นทั่วบริเวณ นักศึกษาหลายคนรอบตัวต่างหยุดนิ่งมองเหตุการณ์กันอย่างสนใจ ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกแล้ว มันร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แน่นอน... มันร้อนเพราะความโกรธและความอาย “...” ใบหน้าหล่อร้ายกาจหันกลับมาสบตาฉันช้า ๆ สายตาดุดันคุกรุ่นไม่ได้ทำให้ฉันหวาดกลัวเลยสักนิด เขาแค่นยิ้มเย้ยหยันพลางดุนกระพุ้งแก้มราวกับสำรวจบาดแผลภายในปาก ฉันสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ กำสองมือแน่นเพื่อเก็บอารมณ์พลุ่งพล่านในกายพลางเชิดหน้าขึ้นสบตาคนสารเลวตรงหน้าอีกครั้ง นิ่งไว้พันเก้า... อย่าร้อนตัวให้ใครจับผิดได้ “ตบนี้สำหรับคำพูดมักง่ายของนาย” ฉันเอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่ง สีหน้าเย็นชาและสายตาวางเปล่าของฉันคงทำให้ผู้ชายตรงหน้าสำนึกได้บ้างว่าฉันรังเกียจเขามากแค่ไหน “ถ้าอยากจะทะเลาะกันก็อย่าลากฉันไปเกี่ยว” “…” “เพราะฉันไม่เคยเป็นอะไรกับนาย!” ฉันตวาดเสียงดังแต่คนสารเลวอย่างเขากลับไม่ได้ทุกข์ร้อนเลยสักนิด นำทัพหยิบบุหรี่ขึ้นจุดสูบด้วยท่าทางกวนประสาทสุด ๆ เหอะ! หมอนี่มันบ้า! โรคจิต! ประสาท! ด่าเขาในใจเสร็จฉันจึงเป็นฝ่ายเดินหนีออกมา ใครจะอยากอยู่ให้ปวดประสาทอีกล่ะ! “เดี๋ยว...” สองเท้าที่กำลังก้าวชะงักกึกเมื่อเสียงเข้มเอ่ยออกมา เขาไม่ได้แตะต้องตัวฉันเพื่อรั้งเอาไว้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา หากเพราะคำพูดต่อมาของเขาต่างหากที่ทำให้ร่างทั้งร่างของฉันชาดิกไปทุกส่วน “อยากได้หลักฐานไหมล่ะ?” อยากได้หลักฐานไหมล่ะ? เขาถามฉันแบบนี้งั้นเหรอ... หมอนี่... เขาต้องการจะบอกอะไร! “นายหมายความว่าไง!” ฉันหันขวับกลับไปถลึงตาใส่เขาในทันที รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง ฉันเกลียดรอยยิ้มเขา ไม่สิ... ฉันเกลียดทุกอย่างที่เป็นเขาเลยต่างหาก! “ก็หลักฐานว่าเธอเป็นเมียฉันจริง ๆ หรือเปล่าไงล่ะ!” เขาจงใจเน้นคำว่า 'เมีย' เสียงดัง มันดังจนฉันแทบจะทรุดลงไปนั่งกับพื้นเลยล่ะ “ว่าไงล่ะ? อยากได้ไหม?” “สารเลว! ไอ้ชั่ว!” ฉันพุ่งตัวเขาไปทุบตีเขาอย่างขาดสติ ให้ตายเหอะ! มันไม่จริงใช่ไหม! หมอนี่คิดจะแบล็กเมล์ฉันเหรอ! เขาถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปอะไรไว้เป็นหลักฐานอย่างนั้นเหรอ! เลว! เลวที่สุด! “ยัยเก้า! แก.. ใจเย็น ๆ ก่อน” ไกอาถลาเข้ามารั้งตัวฉันออกไปจากผู้ชายสารเลวคนนั้น เขายืนสูบบุหรี่นิ่ง ๆ ปล่อยให้ฉันทุบตีเขาโดยไม่ปัดป้องอะไร ทำแค่เพียงหันหน้าหนีไปอีกทางเท่านั้น เพื่ออะไร! ทำแบบนี้เพื่ออะไร! “ปล่อยฉันนะ! ฉันจะฆ่ามัน!” ฉันสะบัดมือไกอาออกสุดแรง ถ้าเป็นปกติมันคงจะกระเด็นไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้น่ะ เรี่ยวแรงของฉันมันเหลือน้อยลงเต็มที จึงทำได้เพียงแค่ปัดมือมันออกแรง ๆ เท่านั้น “ใจเย็น ๆ สิแก คนมองหมดแล้วนะ” ไกอาพยายามเตือนสติฉันอีกครั้ง และมันได้ผล... ฉันกวาดสายตามองไปรอบตัวก็เห็นว่าสายตานับสิบคู่กำลังจับจ้องมาทางฉัน คนพวกนี้คงจะเดาได้ไม่ยากว่าหลักฐานที่นำทัพพูดถึงคืออะไร และทำไมฉันถึงสติแตกขนาดนี้ ฉันสูดลมหายใจเรียกสติตัวเองอีกครั้ง สายตาเหลือบมองมีนาที่ตอนนี้ยืนทำหน้านิ่งไปแล้ว น่าแปลกที่เธอไม่โวยวายหรือร้องไห้อะไรออกมาเลย หลังจากนำทัพประกาศว่าฉันเป็นเมียเขา ฉันหันไปมองคนสารเลวอีกรอบ เราสบตากันนิ่ง ๆ คล้ายกำลังทำสงครามประสาทใส่กัน ถ้าฆ่าเขาได้ทางสายตา ฉันคงฆ่าเขาเป็นร้อยเป็นพันรอบ! ยิ่งมองหน้าเขา เห็นสีหน้าท้าทาย รอยยิ้มเย้ยหยัน และท่าทางกวนประสาทนั่น ร่างกายฉันยิ่งสั่นสะท้านไปทั้งตัว ฉันไม่เคยรู้สึกโกรธเกลียดใครเท่านี้มาก่อนเลย... หมอนี่เป็นคนแรก! “ฉันเกลียดนาย” ฉันทิ้งคำพูดสั้น ๆ แต่ความหมายชัดเจนไว้ให้เขา แล้วรีบเดินออกมาท่ามกลางสายตานับสิบคู่ที่มองแล้วหันไปซุบซิบกัน บอกฉันทีสิ... ชีวิตฉันหลังจากนี้จะได้พบคำว่า 'สงบสุข' ไหม? . . . [บทบรรยาย นำทัพ] “ฉันเกลียดนาย” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยออกมาพร้อมแววตาเกลียดชังอย่างไม่ปิดบัง พันเก้าจ้องหน้าผมนิ่งแล้วหันหลังเดินออกไป เธอกำลังโกรธผมมาก ผมรู้... เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ! ยิ่งเกลียดกันก็ยิ่งดี! ฉันจะยัดเหยียดความเกลียดชังให้ฝังลึกอยู่ในตัวเธอไปจนตายเลยพันเก้า! บุหรี่ในมือถูกทิ้งลงก่อนจะขยี้มันด้วยปลายเท้า สายตาผมเหลือบมองใบหน้าสวยของผู้หญิงอีกคนตรงหน้า เธอยังคงมองผมนิ่ง มองด้วยสายตาว่างเปล่า... เป็นครั้งแรกที่มีนาทำให้ผมรู้สึกว่า นี่แหละ...คือตัวตนของเธอ “เดี๋ยว!” มือบางรั้งแขนไว้ในตอนที่ผมกำลังจะเดินกลับไปที่รถ มีนาเบี่ยงตัวมายืนดักหน้าผม ผมจึงปรายตามองสีหน้าเจ็บปวดเหมือนจะร้องไห้ของเธอ อย่าหาว่าผมแข็งกระด้างเลยนะ แต่ผมไม่ใช่ผู้ชายโลกสวยที่เห็นน้ำตาผู้หญิงแล้วจะใจอ่อน ตรงกันข้าม... เวลาเห็นน้ำตาโง่ ๆ พวกนั้นแล้วมันจะยิ่งทำให้ผมรำคาญมากกว่าเดิม “พูดมา” ผมยืนล้วงกระเป๋าพลางชักสีหน้ารำคาญ ผมไม่มีอารมณ์มายืนเล่นให้เธอจ้องหน้าทั้งวันหรอกนะ “ทัพอย่าโกรธนาเลยนะ” มีนาเว้นช่วงแล้วเอื้อมมาจับมือผมเบา ๆ เธอก็เป็นซะอย่างนี้ ยอมได้ทุกเรื่อง ขอโทษได้ทุกครั้ง ทั้งที่บางครั้งเธอไม่ได้ผิด น่าเบื่อ... “แล้ว?” “นายังเป็นแฟนทัพอยู่ใช่ไหม...” เธอก้มหน้าลงพลางถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ คงจะกลัวผมเลิกกับเธอสินะ... ความจริงผมก็ตั้งใจไว้อยู่แล้วล่ะ ผมจะต้องเดินเกมต่อไปโดยไม่มีใครเข้ามาขัดขวางเหมือนกับที่มีนาทำในวันนี้ ผมเอื้อมมือสัมผัสข้างแก้มของมีนาแผ่วเบา รอยยิ้มละมุนของผมทำให้เธอเผยยิ้มกว้างออกมาราวกับโล่งใจ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นรอยยิ้มกว้างนั้นก็เลือนหายไปพร้อมกับคำพูดร้ายกาจของผม “ฉันไม่เคยเป็นแฟนเธอ... เลิกยุ่งกับฉันซะ!” . . . T CLUB “เฮีย! เฮียทัพ!” เสียงตะโกนเรียกพร้อมกับร่างสูงของใครคนหนึ่งวิ่งมาหยุดลงหน้าประตูห้องพักส่วนตัวของผม มันก้มหน้าหอบหายใจแรง ๆ แล้วเงยใบหน้าหล่อขึ้นมามอง “มีอะไรไอ้ซาน” ไอ้นี่ชื่อ ซานฟราน มันเป็นน้องรหัสของผมและยังควบตำแหน่งคุมคลับแทนผมอีกด้วย ซานฟรานอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี แต่ความบ้าระห่ำและดิบเถื่อนของมันไม่น้อยไปกว่าผมสักนิด เผลอ ๆ จะมากกว่าผมซะอีก “งานเข้าสิเฮีย ไปจัดการที” มันพูดด้วยน้ำเสียงติดหอบจนผมขมวดคิ้วสงสัย “แล้วทำไมมึงไม่จัด? ปกติหน้าที่มึงไม่ใช่?” ผมคาบบุหรี่ไว้มุมปากขณะสองมือยังง่วนอยู่กับการเช็ดปากกระบอกปืน “มันก็ใช่อ่ะ แต่ครั้งนี้จัดไม่ได้ว่ะเฮีย กลัวตีน” อะไรของมัน... ลูกมาเฟียอย่างไอ้เวรนี่กลัวตีนใครเป็นด้วยเหรอวะ ปกติเวลาในคลับมีเรื่องทีไร ผมเห็นมันเอาตีนลูบหน้าไอ้พวกนั้นทุกราย ทีนี้เสือกบอกกลัวตีน? “มาเฟียอย่างมึงยังจะกลัวตีนใครอีกวะ นอกจากตีนพวกกูเนี่ย” “ก็ตีนพวกเฮียนั่นแหละ ผมถึงไม่กล้าขวางไง” มันขยี้ผมตัวเองแรง ๆ พลางส่งสายตาหงุดหงิดมาให้ “หมายความว่าไงวะ?” “ไปดูเองเลยเฮีย หลังร้านโน้น!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD