“ถ้าจะมาหาพี่ชายเธอ... มันอยู่ตรงนั้นไง” เสียงเนือย ๆ ตอบแทนอย่างนึกรำคาญท่าทางของหญิงสาว สายตาเขามองเลยไปด้านหลังเพื่อให้คนตัวเล็กมองตาม
“อ่าหะ งั้นพวกพี่คงจะเป็นเพื่อนของพี่ชายฉันสินะ” ไกอายิ้มหวานอย่างเป็นมิตร แม้ผู้ชายสองคนนี้จะดูนิสัยไม่ค่อยน่าเป็นมิตรสักเท่าไหร่ คนหนึ่งก็ดูเจ้าชู้เพลย์บอยระดับเทพ ส่วนอีกคนก็ดูเนือย ๆ เบื่อโลก แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อนของพี่ชายเธอ เพราะฉะนั้นต้องญาติดีเอาไว้ก่อน…
“ถูกต้องแล้วคนสวย เพิ่งจะได้เห็นน้องสาวไอ้ทัพตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ ก็วันนี้แหละ” ใบหน้าหล่อยื่นเข้าหาสาวสวยตาโต สายตาแพรวพราวคล้ายนึกสนุก หากแต่คนตัวเล็กไม่ได้มีท่าทางหวั่นไหวอะไรเลย เธอเพียงแค่ส่งยิ้มน้อย ๆ แล้วถอยหลังห่างออกมา
“เลิกม่อน้องเพื่อนสักทีเถอะมึง” เจ้าของใบหน้าเบื่อโลกดึงคอเสื้อเพื่อนกะล่อนให้นั่งลงที่เดิม เขาเหลือบตามองคนตัวเล็กอีกครั้งด้วยสายตาประมาณว่า ‘ไม่รีบไปหาพี่ชายเธอล่ะ’
คนตัวเล็กถอนหายใจแล้วดึงมือเพื่อนสาวด้านหลังให้เดินเข้าไปหาร่างสูงที่ยืนหันหลังสูบบุหรี่เงียบ ๆ โดยไม่ยอมหันกลับมามองพวกเธอสักที
“Happy birthday ค่ะพี่ทัพ” มือบางยื่นกล่องของขวัญเล็ก ๆ ในมือให้แผ่นหลังกว้างของพี่ชาย เขาขยี้ก้นบุหรี่ในมือลงแรง ๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาหาร่างบางทั้งสอง รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นขณะสายตาดุดันกำลังจับจ้องร่างบางด้านหลังน้องสาวที่ตอนนี้ยืนนิ่งค้างไปแล้ว
“อ้าว... วันนี้วันเกิดมึงเหรอวะไอ้ทัพ?” เป็นเสียงอัลฟ่าที่ทำลายบรรยากาศคุกรุ่นขึ้นมา คนถูกถามยกยิ้มเย้ยหยันขณะสายตายังไม่ละจากดวงตาหวานที่กำลังเบิกกว้างราวกับตกใจ
“...นั่นน่ะสิ” มือหนารับกล่องของขวัญจากน้องสาวโดยไม่แม้จะมองหน้า ก่อนจะเอ่ยคำพูดคล้ายยียวนกวนประสาทจนไกอาเผลอกัดริมฝีปากเบา ๆ “สงสัยกูจะจำวันผิดว่ะ”
“...”
“แต่ไหน ๆ ก็อุตส่าห์พา 'ของขวัญ' มาให้ถึงที่แล้วนี่... ฉันจะรับไว้แล้วกัน” นำทัพเน้นคำว่าของขวัญชัดเจนจนไกอารู้สึกถึงแรงบีบตรงฝ่ามือของเพื่อนรัก เธอหันกลับมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้มีแววตื่นตระหนก สายตาของเพื่อนรักจับจ้องพี่ชายเธอราวกับเคยรู้จักกันมาก่อน
“ถ้าไม่ใช่วันเกิดของพี่...” คนตัวเล็กหันกลับมามองพี่ชายต่างมารดาด้วยสายตาว่างเปล่า เมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวตลก เธอหลงคิดว่าพี่ชายอาจจะญาติดีกับเธอได้บ้าง คิดว่าเขาจะเลิกรังเกียจเธอกับแม่ของเธอเสียที แต่สุดท้ายเธอก็คิดผิด ผู้ชายไร้หัวใจคนนี้... ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ตอนเด็กเคยร้ายกาจยังไง ตอนโตมาก็ร้ายกาจอย่างนั้น ไม่สิ... ร้ายกาจกว่าเดิมด้วยซ้ำ! “ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน เราไปกันเถอะ”
“เดี๋ยว...” มือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้อย่างรวดเร็ว หากทว่าข้อมือที่เขาคว้านั้นกลับไม่ใช่ของน้องสาวอย่างไกอา แต่กลับเป็นข้อมือเล็กของเพื่อนรักน้องสาวของเขาต่างหากล่ะ!
“ปล่อย...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา เธอปล่อยมือเพื่อนรักแล้วหันมาสบตาดุดันของเขาตรง ๆ “ฉันบอกให้ปล่อยไง!”
.
.
.
[บทบรรยาย พันเก้า]
ฉันเกลียดโลกใบนี้... โลกที่มันกลมจนน่ารังเกียจ...
“พี่จะทำอะไรเพื่อนฉัน!” น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นจากไกอา มันคงเพิ่งระลึกได้ว่าควรจะห้ามการกระทำเลว ๆ ของพี่ชายตัวเอง
ใช่... มันช่างเลวร้ายมากเมื่อไอ้สารเลวที่ทำให้ชีวิตฉันแปดเปื้อนนั่น... คือพี่ชายต่างแม่ของเพื่อนรักฉันเอง!
“พี่นำทัพ! ปล่อยมือเพื่อนฉันนะ!”
หมอนี่ชื่อนำทัพสินะ ฉันไม่รู้ว่าเขายังต้องการอะไรจากฉันอีกถึงได้ตามรังควานไม่เลิก แรงบีบจากข้อมือทำให้ต้องใช้มืออีกข้างแกะมือหนานั่นออก เขาจะบีบให้มันแหลกคามือเลยหรือไงนะ!
“หนวกหูว่ะ! เธอแม่งน่ารำคาญเหมือนแม่เธอไม่มีผิด!” นำทัพเอ่ยเสียงดุดัน เขาไม่ได้ละสายตาไปจากฉันเลย
ให้ตายเหอะ! หมอนี่หยาบคายชะมัด พูดจาพาดพิงผู้ใหญ่ นิสัยเสียสุด ๆ
“อย่ามาว่าแม่ฉันนะ!” ไกอาขึ้นเสียงไม่พอใจพลางเดินเข้ามาช่วยฉันแกะมือหนาออกจากข้อมือที่เริ่มแดงของฉัน “ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้!”
“น่ารำคาญฉิบ! จัดการให้ทีดิไอ้เนือย!” ไอ้หัวทองสะบัดร่างเล็กของไกอาไปทางผู้ชายหัวสีดำหน้าตาเบื่อโลกด้วยความรุนแรง หมอนั่นตวัดแขนรับร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดก่อนจะพูดเสียงเนือย ๆ โดยไม่ได้มองหน้ายัยนั่นสักนิด
“ทำไมต้องเป็นกูวะ มึงเอาไปเลยไอ้ฟา กูเบื่อ!” เขาผลักไกอาจนเซไปนั่งบนตักไอ้ผู้ชายจอมกะล่อนอีกคนที่เต็มใจอ้าวงแขนรับร่างเล็กมากอดไว้แน่น
“น้อมรับอย่างยิ่งเลยไอ้เพื่อนเนือย”
“ปละ... ปล่อย ปล่อยฉันนะ!” ไกอาเหมือนเพิ่งจะได้สติว่ากำลังถูกพวกผู้ชายโยนไปมาราวกับตุ๊กตา ยัยนั่นเริ่มดิ้นหนีขลุกขลักในวงแขนแกร่ง เสียงเล็กโวยวายลั่นแต่มีหรือไอ้ผู้ชายหน้าหนาพวกนี้จะฟัง
“ไกอา!” ฉันก้าวเท้าหวังจะเข้าไปช่วยเพื่อนแต่ร่างกายกลับต้องหยุดชะงัก เมื่อถูกวงแขนแกร่งโอบรัดหน้าท้องเอาไว้ซะก่อน เขาออกแรงดึงร่างกายฉันเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดจากด้านหลัง แผ่นหลังเปลือยเปล่าสัมผัสกับแผ่นอกอุ่นเรียกความร้อนวูบวาบบนใบหน้าอย่างฉับพลัน “ปล่อยฉันนะ!!”
“ก่อนจะเสนอหน้าไปช่วยยัยนั่น ฉันว่าเธอเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่าไหม?”