“ฉันเลวได้มากกว่าที่เธอคิดอีก! มานี่!!”
นำทัพออกแรงกระชากฉันให้เข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ซึ่งคล้ายกับห้องทำงานของเฮียไมล์ ความหวาดกลัวผุดขึ้นอีกรอบเมื่อเขาลากฉันเข้ามาอีกห้องหนึ่งที่อยู่ภายในห้องทำงานนั่น ในห้องนี้มีเตียงนอนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ก่อนจะทันตั้งตัวคนสารเลวก็ออกแรงผลักฉันลงบนเตียงนั้นด้วยความรุนแรง
“อย่านะ! นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับฉันนะ!!” ฉันรีบลุกขึ้นนั่งพลางขยับตัวหนีจนชิดผนังหัวเตียง พลางส่งสายตาด่าทอใส่เขา นี่มันเริ่มไม่ตลกแล้วนะ! เขาไม่มีสิทธิ์มาบังคับฉันแบบนี้นะ!
“ไอ้สิทธิ์ที่เธอเรียกร้องมันเข้าไปอยู่ในตัวเธอมาเป็นเดือน ๆ แล้วไง!” ฉันหวีดร้องลั่นเมื่อโดนนำทัพคว้าข้อเท้าแล้วลากให้ลงมานอนใต้ร่างกายแข็งแกร่งของเขา สองมือยกขึ้นผลักดันสุดแรงแต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาสะทกสะท้านสักนิด “ป่านนี้มันคงเข้าไปทำพันธุ์ถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“หยุด! หยุดพูดนะเว้ยย!!”
เสียงกระซิบเย้ยหยันกับสายตาสะใจของเขาทำให้ฉันอยากจะร้องไห้ เขากำลังจะบอกกับฉันว่าวันนั้น... วันที่เขาทำให้ร่างกายของฉันแปดเปื้อน... เขาไม่ได้ป้องกัน! ไอ้คนสารเลวเอ๊ยยย!
“ทำไม... หรือเธอลืมมันไปแล้ว”
“...เฮือก!” เขาก้มลงกระซิบข้างหูจนฉันขนลุกไปทั่วทั้งตัว ริมฝีปากร้อนคลอเคลียพวงแก้มและลำคอของฉันแผ่วเบา ฉันเม้มริมปากแน่นกักกันเสียงร้องจากการถูกปั่นป่วนร่างกาย “ฉะ... ฉันไม่เคยเจอนาย! อย่ามายุ่งกับฉันนะ!”
“…” ที่เขาเงียบไปไม่ใช่เพราะกำลังฟังอยู่หรอกนะ แต่เพราะปากของไอ้บ้านี่มันไม่ว่างยังไงล่ะ เขากำลังกดจูบขบเม้มริมฝีปากร้อน ๆ ไปทั่วลำคอของฉันเลยไง!
“อย่าแตะต้องฉัน!!” สองมือทุบข้างแก้มคนสารเลว ฉันไม่ยอม ไม่ยอมให้เรื่องต่ำช้าพรรค์นั้นเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง “รังเกียจ! ได้ยินไหมนำทัพ!”
“รังเกียจมากไหม...” เขากระซิบเสียงเรียบ ริมฝีปากยังไม่ยอมละจากลำคอ ปลายลิ้นร้อนชื้นลากไล้จนร่างกายร้อนวูบวาบ
“เออ! รังเกียจโคตรมากอ่ะ! ขยะแขยงจนจะตายอยู่แล้ว!”
“งั้นก็ตายไปเลยสิ!”
“โอ๊ย!” ฟันคมฝังลงบนต้นคอ ความเจ็บแสบทำให้ฉันดิ้นสุดแรง ร่างกำยำของนำทัพกดร่างกายฉันไว้ทุกส่วน มันอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก “ไอ้ชั่ว! ปล่อยนะ!”
“นอกจากด่าแล้วทำอะไรเป็นบ้างไหมวะ!” เขากระชากเสียงใส่อย่างหงุดหงิด
“ฆ่านายไงไอ้สารเลว!”
“ฮึ! ก่อนจะฆ่าฉัน ลองดิ้นให้หลุดก่อนดีไหมยัยตัวดี!” นำทัพคว้าข้อมือฉันแล้วจับกดลงบนที่นอน ใช้สายตาท้าทายคล้ายจะกวนประสาท
“อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ! ฉันมีแฟนแล้ว! นายไม่ควรมายุ่งกับฉันนะ!”
คราวนี้ใบหน้าของเขาเรียบตึงลงทันที ฉันเห็นแววตาคู่นั้นมีประกายคุกรุ่นขึ้นมากะทันหัน มันดูเกรี้ยวกราดจนน่ากลัว เขากดแรงบนข้อมือฉันเต็มแรงจนกระดูกแทบจะแตกหัก ก่อนฉกวูบริมฝีปากลงบนลำคอฉันอีกครั้ง มัน... รุนแรงและป่าเถื่อนมากกว่าเก่า
“ปล่อยฉันไป... ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ฉัน... มีแฟนแล้ว.. ได้ยิน.. โอ๊ย!” ความรู้สึกเจ็บจี๊ดช่วงลำคอทำให้ฉันเผลอร้องออกมา เขาดูดเม้มและฝังเขี้ยวคมลงจนแสบไปหมด “เจ็บนะ... หยุด!”
“พูดอีกทีสิ...” เสียงดุดันกระซิบรอดออกมาจากเรียวปากร้อน เขาขบเม้มเนินอกจนร่างกายฉันร้อนรุ่มทั้งตัว
เขา.. เขาทำอะไรกับฉัน... ทำไมร่างกายมันร้อนขนาดนี้...
“อย่า โอ๊ย!” คมเขี้ยวฝังลงบนเนินอกฉันอีกครั้ง มันเจ็บแสบผิวหนังจนอยากจะร้องไห้
บ้าเอ๊ย! ทำไมเรี่ยวแรงฉันถึงหายไปดื้อ ๆ แบบนี้!
“บอกให้พูดใหม่ไง!” ฝ่ามือร้อนเคลื่อนไหวไปทั่วร่างกาย ทุกพื้นที่ที่เขาสัมผัสมันร้อนรุ่มราวกับไฟ แรงเคล้นคลึงบีบขย้ำปั่นป่วนสติของฉันจนรู้สึกหูหนวกตาบอดกะทันหัน... ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร...
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแรง ๆ เพื่อเรียกสติที่กำลังถูกแผดเผา กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งภายในโพรงปาก ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดรั้งใบหน้าเขาออกจากเนินอกแสบร้อน ไม่รู้ว่าเขาดึงชุดเดรสเปิดไหล่ของฉันลงตอนไหน รู้สึกอย่างเดียวคือตอนนี้มันกำลังจะหลุดออกจากเนินเนื้อทั้งสองข้างของฉันอยู่แล้ว
“ฉัน… ฉันมีแฟนแล้ว!” ฉันหลุบตาลงเมื่อสายตาดุดันของเขาแข็งกร้าวขึ้น จึงรีบพูดย้ำอีกรอบเพื่อให้เขาเลิกยุ่งวุ่นวายกับคนที่มีเจ้าของแล้วอย่างฉันสักที “มีคนรักอยู่ละ... อื้อ!”
ริมฝีปากร้อนฉกวูบลงมาปิดคำพูดทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ฉันเม้มปากแน่นสองมือยกขึ้นทุบตีสุดแรง รสจูบป่าเถื่อนขบกัดริมฝีปากจนเจ็บแสบไปหมด
“อ๊ะ!” กลิ่นคาวเลือดมาพร้อมกับความเจ็บปวดเมื่อนำทัพจงใจฝังเขี้ยวแหลมลงบนริมฝีปากปิดสนิทของฉัน มันเจ็บจนต้องร้องออกมา เปิดโอกาสให้เรียวลิ้นร้อนของเขาเข้ามาสำรวจความหวานภายในโพรงปากอย่างรวดเร็ว เขาตวัดปลายลิ้นไล่ต้อนลิ้นเล็กที่พยายามเบี่ยงหนีสัมผัสอย่างดุดัน ความรู้สึกวิงเวียนแล่นเข้ามาเมื่ออากาศหายใจกำลังถูกคนสารเลวช่วงชิงไปทีละนิด “อื้อ! อื้อ!”
ฉันสะบัดหน้าหนีเมื่อเริ่มหายใจไม่ออกแต่มือหนาของเขากลับสอดเข้ามาใต้ท้ายทอยแล้วดึงเส้นผมของฉันแรง ๆ จนต้องเงยหน้ารับสัมผัสแนบแน่นตามแรงบังคับของเขา เขาบดจูบรุนแรงลงมาซ้ำ ๆ แล้วละริมฝีปากออกเพื่อคืนอากาศให้หายใจ
“แฮ่ก.. พะ พอแล้ว อื้อ.. อย่าา” เบี่ยงหน้าหนีพลางหอบหายใจเมื่อใบหน้าหล่อร้ายกาจก้มลงมาอีกครั้ง แววตายังคงดุดันเกรี้ยวกราด เขากดจูบลงข้างแก้มหนัก ๆ แล้วดึงเส้นผมด้านหลังเพื่อบังคับให้ฉันสบตาเขา
“รักมันมากใช่ไหม...” น้ำเสียงดุดันกระซิบถาม สายตาดุร้ายของเขาทำให้ร่างกายฉันสั่นอย่างหวาดกลัว “ตอบ!”
"ยะ... อย่า... ฉันเจ็บ” นำทัพดึงเส้นผมฉันแน่นจนต้องหลับตาไล่ความปวดร้าวบนหนังศีรษะ... เขาต้องการอะไร... ฉันไม่เข้าใจ...
“รักมันมากใช่ไหม! ไอ้ไซเรนท์น่ะ!!”