บทที่ 5 ชะตาต้องกัน EP.1

1090 Words
คนที่ขันอาสาออกมาตามหม่อมราชวงศ์ฉัตรกมลอย่างฉัตรพงษ์ ตอนแรกสาวเท้าเดินลิ่วๆ เหมือนรีบร้อนเสียเต็มประดา ทว่าพอก้าวพ้นประตูออกมาด้านนอกท่าทีก็พลันเปลี่ยนไป เพราะบรรยากาศรอบๆ ตัวนั้นฉุดรั้งให้เขาหยุดยืนอยู่กับที่ นัยน์ตาที่ฉายแววหงุดหงิดก็เปลี่ยนเป็นรื่นรมย์ ชายหนุ่มมองต้นข้าวสีเขียวขจีที่ไหวเอนไปตามแรงลม อีกทั้งเสียงดนตรีไทยที่ดังกังวานแว่วมากระทบหู “ใครมาเล่นดนตรีแถวนี้ เพราะจัง” ฉัตรพงษ์พึมพำกับตัวเองอย่างฉงน เขาชอบเสียงเครื่องดนตรีชนิดนี้มากกว่าเสียงเปียโนที่โสคนธิกาเล่นเสียอีก หลังจากหยุดฟังสักครู่เขาก็เดินเสาะหาที่มาของเสียง จนลืมไปว่าตัวเองออกมาตามน้องสาวของเพื่อน กระทั่งมาถึงบ้านหลังสีขาวที่ผู้เป็นเพื่อนให้สมญาว่าบ้านตุ๊กตา ชายหนุ่มก็ยืนตะลึงตาค้างอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นคนที่นั่งเล่นดนตรีอยู่ตรงระเบียงกว้างด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ ‘พัดชาเองเหรอที่เป็นคนเล่น ไม่อยากจะเชื่อ!’ ถ้าเป็นน้องสาวของเพื่อนที่นั่งเท้าคางฟังอยู่ใกล้ๆ เป็นผู้เล่น เขาจะไม่สงสัยหรือประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย แต่นี่กลับเป็นเด็กหญิงท่าทางซนอย่างพัดชา จะไม่ให้เขาแปลกใจอย่างไรไหว แล้วไม่ได้เล่นเพราะธรรมดาเสียด้วยสิ ต้องบอกว่าเพราะมากๆ เสียดายที่พอเขาเดินมา เพลงก็จบพอดี ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นปรบ เสียงปรบมือทำให้คนเล่นจะเข้กับคนฟังหันมามองโดยพร้อมเพรียงกัน หม่อมราชวงศ์ฉัตรกมลนั้นลุกขึ้นยืน แล้วทักเพื่อนสนิทของพี่ชายอย่างแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายมายืนอยู่ตรงนี้ “อ้าว พี่ฉัตรมาได้ยังไงคะ” “พี่ก็เดินมาสิหญิงนิ่ม ได้ยินเสียงดนตรีไทยก็เลยเดินมาตามเสียง นึกไม่ถึงเลยว่าคนเล่นจะเป็นพัดชา เล่นเก่งมากๆ เลยนะ” ฉัตรพงษ์เอ่ยชมแล้วจึงยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนหน้าตาสะสวย ที่นั่งมองเขาจากบนระเบียง เขาคิดว่าน่าจะเป็นมารดาของเด็กหญิงที่เล่นดนตรีเพราะใบหน้ามีส่วนคล้ายกันนั่นเอง “สวัสดีครับคุณน้า” อรสารับไหว้พลางมองชายหนุ่มร่างสูงในชุดเครื่องแบบสีขาวซึ่งยืนอยู่ด้านล่างด้วยความแปลกใจอยู่ครามครัน ใครกันอีกล่ะเนี่ย! ทำไมวันนี้มีแต่คนแปลกหน้าไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งนั้น แต่น่าจะมาจากที่เดียวกันกระมัง “เชิญขึ้นมานั่งข้างบนก่อนสิพ่อคุณ” ชายหนุ่มถอดรองเท้าไว้ข้างล่าง แล้วก้าวขึ้นบันไดก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนพื้นกระดานขัดมัน เผยรอยยิ้มกว้างและเอ่ยแนะนำตัวเมื่อเห็นหญิงวัยกลางคนเขม้นมองมาด้วยความสงสัย “ผมชื่อฉัตรพงษ์ครับ เป็นเพื่อนของพี่ชายหญิงนิ่ม คุณน้าคงเป็นแม่ของพัดชาใช่ไหมครับ” หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ “ใช่จ้ะ น้าเป็นแม่ของพัดชา แล้วทำไมถึงรู้จักลูกสาวน้าได้ล่ะจ๊ะ” ฉัตรพงษ์หัวเราะเบาๆ แล้วจึงอธิบายที่มาและที่ไปให้อีกฝ่ายฟัง “คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ เมื่อตอนบ่ายๆ ผมกับคุณชายณุซึ่งเป็นพี่ชายหญิงนิ่มเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์นอกรั้วกำแพงกัน ก็บังเอิญเห็นพัดชาอยู่บนต้นกระท้อนเลยเดินไปหา ตอนแรกผมสองคนยังนึกว่าเป็นเด็กผู้ชายด้วยซ้ำ ไม่นึกว่าจะเป็นเด็กผู้หญิง แถมปีนต้นไม้เก่งชะมัด” “ยายพัดชาปีนต้นไม้เก่งมาตั้งแต่เด็กแล้วจ้ะ ใช่ว่าน้าจะไม่เป็นห่วงนะ กลัวจะตกลงมาขาแข้งหักจะตาย” พอได้ยินมารดาพูดถึงเรื่องตกต้นไม้ คนที่เพิ่งตกต้นไม้ลงมาหมาดๆ ก็รีบพูดโพล่งขึ้นมากลางคัน “พอพี่ฉัตรเดินมาหาก็ขอให้พัดชาเก็บกระท้อนให้จ้ะแม่” เด็กหญิงต้องรีบพูดเพราะกลัวว่าฉัตรพงษ์จะเผลอพูดเรื่องที่เธอตกต้นกระท้อน ถ้ามารดารู้เรื่องนี้เธอจะต้องถูกห้ามไม่ให้ปีนอีกเป็นแน่แท้ “หญิงอาสาเดินออกมาตามพี่ชายณุกับพี่ฉัตร จนมาเจอพัดชาที่ต้นกระท้อนนั่นแหละค่ะคุณป้า” หม่อมราชวงศ์ฉัตรกมลอธิบายเพิ่มเติม แล้วจึงหันไปทางเพื่อนสนิทของพี่ชาย “อย่าบอกนะคะว่าที่พี่ฉัตรออกมาเนี่ยเพราะมาตามหญิงกลับ” ฉัตรพงษ์พยักหน้ารับ “ใช่แล้ว พี่อาสาพี่ชายเราออกมาตามหญิงเอง ถ้าเกิดหม่อมอาถามหาเดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก” เด็กหญิงทำหน้าละห้อย “หญิงยังไม่อยากเข้าไปเลยค่ะพี่ฉัตร กว่าจะออกมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ขอหญิงอยู่ต่ออีกสักหน่อยนะคะ” สีหน้าของเพื่อนใหม่ทำเอาพัดชาสงสาร จึงช่วยพูดอีกแรง “เดี๋ยวค่อยให้หญิงนิ่มเข้าไปนะคะ ไหนๆ พี่ฉัตรก็ออกมาแล้ว ลองชิมข้าวต้มผัดฝีมือแม่ของพัดชาก่อนดีไหมคะ” พูดจบเด็กหญิงร่างสูงก็ลุกขึ้นหยิบข้าวต้มผัดบนโต๊ะไปยื่นให้ชายหนุ่ม โดยเธอกับเพื่อนใหม่ก็ตามไปนั่งที่พื้นด้วย “นี่ตกลงจะเอาของกินล่อพี่ว่างั้นเถอะ” ปากก็พูดออกไปอย่างนั้น แต่มือก็จัดการแกะใบตองที่หุ้มออกแล้วใส่ปากเคี้ยว ก่อนจะทำตาโต ไม่นานข้าวต้มผัดในมือก็ถูกส่งเข้าปากจนหมดภายในชั่วพริบตา และไม่ใช่แค่ห่อเดียวด้วยซ้ำ ฉัตรพงษ์กินข้าวต้มผัดไปถึงห้าห่อด้วยกัน อร่อยจนลืมมารยาทการกินไปเลย “อร่อยมากเลยครับคุณน้า ผมไม่เคยกินขนมอะไรอร่อยเท่านี้มาก่อน แล้วเจ้าขนมชนิดนี้เรียกว่าอะไรนะครับ” “ข้าวต้มผัดจ้ะ ถ้าชอบเดี๋ยวน้าเอาใส่ถุงไปให้กินกันนะจ๊ะ” คนทำพูดอย่างใจดีแล้วก็นึกขำ ข้าวต้มผัดที่อีกฝ่ายกินอย่างเอร็ดอร่อยนั้นเป็นแค่ขนมพื้นบ้าน ไม่ได้มีชื่อเสียงเหมือนพวกขนมชาววังทั้งหลายเลยสักนิด อาจเป็นเพราะไม่เคยเห็นและไม่เคยกินกันมากกว่า “ขอบคุณมากครับ/ค่ะ” ทั้งสองคนต่างยกมือไหว้พร้อมกัน หม่อมราชวงศ์ฉัตรกมลนั้นคิดไว้ว่าจะต้องนำตัวอย่างไปให้ป้าชื่นลองชิมแล้วทำให้กินบ้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD