บทที่ 5 ชะตาต้องกัน EP.4

1157 Words
“ดีถึงขั้นดีมากเลยจ้ะ แม่อรก็รู้นี่นาว่าผลกระทบหลังจากสงครามสิ้นสุดลง ก็เกิดภาวะขาดแคลนอาหารไปทั่วโลกโดยเฉพาะข้าว เลยเป็นผลดีต่อกิจการค้าข้าวของประเทศ ราคาข้าวก็พลอยสูงขึ้นตามไปด้วย โชคดีนักหนาที่พ่อกำนันมิ่งของแม่อรมีที่นามากมาย ทำให้ไม่ต้องไปหาซื้อข้าวที่ไหนมาเข้าโรงสีของเรา” เมื่อนึกถึงกำนันมิ่งผู้เป็นพ่อตา วิศาลก็หวนนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ สมัยยังหนุ่มแน่นขึ้นมาทันที... เขาเป็นลูกหลานคนจีนที่บรรพบุรุษมีแค่เสื่อผืนหมอนใบ อพยพหอบลูกหอบหลานมาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ตอนนั้นเขาทำงานเป็นเสมียนในโรงสีข้าวแถวเฉลิมกรุง จะว่าไปแล้วแม้แต่กุลีแบกข้าวสารก็เคยทำ กระทั่งได้พบกับอรสาที่เพิ่งเรียนจบโรงเรียนการเรือน เพราะอีกฝ่ายติดตามกำนันมิ่งผู้เป็นบิดาซึ่งเป็นเจ้าของที่นามากมายแถบทุ่งรังสิตไปติดต่อขายข้าวเปลือกที่นั่น เขาหลงรักอรสาทันทีที่เห็น ซึ่งหญิงสาวก็รู้สึกไม่ต่างกัน จากนั้นเป็นต้นมาทั้งคู่ก็ลอบพบปะกัน โดยมีนุงนุชคอยให้ความช่วยเหลือกระทั่งถูกจับได้ ซึ่งกำนันมิ่งก็ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์หนุ่มเชื้อสายจีนอย่างเขาแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะเห็นความขยันขันแข็งและความเป็นคนสู้งานของเขาก็เป็นได้ หลังจากแต่งงาน กำนันมิ่งก็ซื้อที่ดินตรงทุ่งบางกะปิและให้ชายหนุ่มลาออกจากงาน โดยให้เงินทุนก้อนหนึ่งเพื่อทำโรงสี และเป็นเพราะวิศาลมีหัวทางด้านค้าขายอยู่แล้ว จึงทำให้กิจการโรงสีเล็กๆ กลายเป็นโรงสีขนาดใหญ่ในปัจจุบัน เรียกว่าเป็นเศรษฐีคนหนึ่งในละแวกนี้เลยทีเดียว เพียงแต่ทั้งสองสามีภรรยาไม่ชอบโอ้อวดก็เท่านั้น “ป๊า ทำไมเงียบไปล่ะจ๊ะ” พัดชาเงยหน้าขึ้นถามบิดาอย่างสงสัย ที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็เงียบไปราวกับตกอยู่ในภวังค์ “ป๊านึกถึงตาอยู่น่ะลูก ถ้าไม่ได้ตาของพัดชาจุนเจือ ก็คงไม่มีวันนี้” วิศาลบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แกเองนั่นแหละเป็นคนขยันขันแข็งวิศาล ไม่งั้นอย่าหวังว่าคนอย่างกำนันมิ่งจะให้ความช่วยเหลือ” นงนุชบอกน้องเขยเสียงดัง “พูดถึงตาแล้วก็คิดถึงตาขึ้นมาเลยครับป๊า ตาบอกว่าก่อนเพชรจะไปเรียนเมืองนอกให้แวะไปหาที่บ้าน ตาจะให้พระเครื่องเอาไว้คุ้มครองป้องกันตัว” พัชระที่ล้มตัวลงไปนอนเอกเขนกต่อโพล่งขึ้นมา “รู้ไหมว่าตามิ่งของเพชรน่ะมีพระเครื่องเป็นย่ามๆ ล้วนแล้วแต่เป็นพระดีๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะพระนางพญาที่สวมติดคอ เรียกว่ายิงแทงไม่เข้าเลยแหละ ป้าจำได้ว่าในจำนวนพระเครื่องทั้งหมด นอกจากพระนางพญาแล้ว ยังมีพระผงสุพรรณกับพระรอดอีก ซึ่งเป็นพระในชุดเบญจภาคีที่ใครๆ ก็อยากมีไว้ในครอบครอง” นงนุชบอกหลานชายไปพลางก็เด็ดสายบัวในมือวางบนใบตองไปพลาง โดยมีน้องสาวช่วยเด็ดด้วย “พระเบญจภาคีคืออะไรหรือจ๊ะป้านุช” พัดชาเอ่ยถามอย่างสนใจใคร่รู้ ซ้ำยังรอฟังอย่างใจจดจ่อ คนเป็นป้าวางสายบัวในมือลง แล้วนั่งตรึกตรองอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะพูดออกตัว “เอาที่ป้าจำได้นะ เพราะพ่อเคยพูดให้ฟังนานมาแล้ว พระในชุดเบญจภาคีมีทั้งหมดห้าองค์ องค์แรกคือสมเด็จวัดระฆัง ซึ่งมีพุทธคุณครอบจักรวาล ใครมีพระองค์นี้ไว้กับตัว รับรองจะรุ่งเรืองไม่มีวันตกต่ำ องค์ที่สองคือพระนางพญา ที่ตามิ่งแขวนคอมาตั้งแต่หนุ่มๆ มีความเด่นด้านเมตตากรุณา และทางอิทธิฤทธิ์แกร่งกล้า คงกระพันชาตรี มิหวั่นเกรงต่อคมศาสตราวุธ แคล้วคลาด มีบารมี ผู้คนเกรงใจ อย่างที่ป้าบอกไงว่าตาน่ะยิงแทงไม่เข้า” “อ๋อ อย่างนี้นี่เอง เพราะตาเคยเล่าให้พัดชาฟังว่าเคยออกไปปราบโจรแล้วถูกฟันด้วยดาบที่แขน แต่ฟันไม่เข้า” เด็กหญิงบอกเสียงใส เวลาไปบ้านผู้เป็นตาครั้งใด ตามักจะเล่าวีรกรรมสมัยเป็นหนุ่มๆ ให้ฟังเป็นประจำ และเด็กหญิงก็ช่างพูดช่างคุย ช่างซักช่างถาม ซ้ำยังฉลาดเฉลียว กำนันมิ่งจึงรักเธอนักหนา จัดเป็นหลานสาวคนโปรดเลยก็ว่าได้ แถมยังเป็นหลานสาวคนเดียวอีกต่างหาก “วีรกรรมของพ่อน่ะมีเยอะแยะเล่าไม่หวาดไหว แต่ป้าเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง” “แสดงว่าที่ตายิงแทงไม่เข้าอย่างที่ป้านุชว่า เป็นเพราะตาแขวนพระสมเด็จนางพญาหรือครับป้านุช” พัชระที่ตอนแรกนอนอยู่บนพื้นถึงกับลุกขึ้นนั่ง “ก็ไม่เชิงจ้ะ เพราะจะว่าไปแล้วถึงไม่ห้อยพระ ตาของเพชรก็หนังเหนียวอยู่แล้ว และนอกจากจะมีพุทธคุณของพระคุ้มครองแล้ว ตาก็มีคาถาอาคมด้วย ที่สำคัญ ต้องเป็นคนอยู่ในศีลในธรรม เรื่องแบบนี้ถ้าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ แถวทุ่งรังสิตมีใครบ้างไม่รู้จักกำนันมิ่งล่ะ ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว” คนเป็นป้าเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจในตัวบิดา จนหลานสาวที่รอฟังเรื่องเล่าต่อทวงถามขึ้นมา “ป้านุชยังพูดเรื่องพระเบญจภาคีไม่หมดเลยนะจ๊ะ” นงนุชหัวเราะแห้งๆ “ป้าว่าที่เหลือไปถามแม่เราดีกว่า ความจำป้าชักเลือนๆ แล้ว แม่เราน่ะเป็นลูกสาวคนโปรด นอกจากจะพาไปไหนมาไหนด้วยแล้ว ยังชอบเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟังประจำ” ทั้งสองพี่น้องพากันหันไปทางผู้เป็นมารดาโดยพร้อมเพรียง “แม่เล่าต่อให้ฟังหน่อยสิจ๊ะ / ครับ” อรสาส่งยิ้มให้ลูกทั้งสองแล้วจึงเล่าต่อจากผู้เป็นพี่สาว “องค์ที่สามคือพระซุ้มกอ มีพุทธคุณเน้นทางด้านโภคทรัพย์ เป็นมหาอำนาจ วาสนาบารมี องค์ที่สี่คือพระผงสุพรรณ พุทธคุณเน้นด้านเมตตาบารมี น่าเกรงขาม ความมีเสน่ห์ ความสงบและหนักแน่น องค์นี้ตามิ่งเคยบอกแม่ไว้ว่าจะให้พัดชาติดตัวจ้ะ” “จริงหรือจ๊ะแม่ ดีใจจัง” เด็กหญิงอุทานอย่างดีใจ ทำให้พัชระที่นั่งฟังอยู่ทวงถามถึงของตัวเองบ้างทันที “อ้าว...แล้วของเพชรที่ตาบอกจะให้ล่ะครับแม่” พัชระแกล้งพูดโวยวาย อรสาเอามือจิ้มหน้าผากลูกชาย “แม่กำลังจะบอกอยู่นี่ไงจ๊ะ พระองค์สุดท้ายในชุดคือพระรอด พุทธคุณเน้นเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน ร่ำรวยทรัพย์ แคล้วคลาด คุ้มภัย จะได้ให้ลูกไว้ตอนไปอยู่ต่างแดนไงจ๊ะ” “พูดถึงเรื่องไปเมืองนอก เพชรอยากไปจริงๆ หรือ” คนเป็นป้าเอ่ยถามเพราะเคยคุยเรื่องนี้กับน้องสาวแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD