บทที่ 6

1901 Words
ผู้เป็นสามีที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันปิดประตูบ้าน และหน้าต่างทุกบานเพื่อเตรียมตัวเข้านอน เขาเห็นภรรยาก้ม ๆ เงย ๆ ทำอะไรสักอย่างไม่ได้สนใจนาง แค่เดินเข้าห้องแล้วล้มตัวลงนอนไม่นานก็หลับไป “หือ หลับแล้วนอนไวจังเพิ่งจะมืดเอง แต่คนที่นี่ก็คงไม่นอนดึกตื่นสายเหมือนคนที่นั่น” หลังจากประโคมเครื่องบำรุงทั้งหลาย นับแต่เส้นผมจรดปลายเล็บเท้าเสี่ยวม่านจึงมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งยังรู้สึกว่าหนังตาเริ่มจะหนักจนต้องล้มตัวลงนอนข้าง ๆ สามี ดูเหมือนยุคสมัยนี้เขาจะไม่นิยมนอนเตียง ดีที่ยังมีที่นอนยัดฟูกหนานุ่ม ไม่แข็งและอ่อนเกิน หัวหนุนหมอนห่มผ้าก็หลับสนิท “เสี่ยวม่าน” “งื้อ” “เสี่ยวม่านตื่นได้แล้ว” “ฮ้าว.. เช้าแล้วอย่างนั้นหรือ” สะลึมสะลือลืมตาขึ้นมาอย่างอยากลำบากเห็นเพียงความมืด กับแสงของดวงจันทร์ที่สอดเข้ามาเล็กน้อย ก่อนจะฟุบนอนลงเหมือนเดิมอย่างง่วงงุน “อืม.. ยังหรอก” “ยัง แล้วปลุกทำไมเล่า” “ก็เจ้าเล่นกำแขนน้อยข้าไว้แบบนี้ ข้าจะหลับได้อย่างไรกัน” คราวนี้ลืมขึ้นมาอย่างไม่อิดออด แขนน้อยหรือ “หา! อุ๊ต๊ะ!” มองตามสายตาที่คาดโทษฐานทำให้เขาต้องตื่นมากลางดึก พบว่ามือขวาของเสี่ยวม่านกำแขนน้อยของอาหมิงไว้ และไม่ได้กำจากข้างนอกด้วยนะ มันดันมุดไปใต้กางเกงของเขา “ยังไม่รีบปล่อยแขนน้อยข้าอีก!” “แหะ ๆ เผลอกำจริงด้วย” ถูกเขาจ้องหน้าแล้วจึงยิ้มเขิน นี่ตนเผลอไปล้วงของเขามากำตอนไหน “เจ้านี่เหลือเกิน จะก่อนหรือหลังก็หมกมุ่นแต่กับเรื่องนี้” “ข้าหลับแล้ว ไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ไม่เห็นต้องดุกันเลย หากว่ามันอึดอัดนัก เดี๋ยวข้าแยกไปปูที่นอนอยู่อีกมุมห้องก็ได้” คนกำลังนอนสบาย จะไปรู้ไหมเล่าว่าเผลอละเมอทำอะไรไปบ้าง ไม่เห็นต้องแยกเขี้ยวจะกัดคอกันแบบนี้ รอให้สวยก่อนเถอะ จะรู้สึกว่าไม่ควรทำแค่ละเมอกำ “...” อาหมิงมองภรรยาที่หอบขนผ้าห่มกับที่นอนในตู้ ออกมาปูนอนต่างหากอย่างตะลึง เขาคิดว่านางแค่งอนไม่คิดว่าจะทำจริง “ไม่ต้องนั่งจ้องข้าขนาดนั้นก็ได้ นอนไกลขนาดนี้แล้วข้าคงไม่กลิ้งละเมอไปกำไข่เจ้าหรอก” กล่าวจบเสี่ยวม่านมุดลงใต้ผ้าห่มอุ่นสบาย กลางดึกเช่นนี้อากาศค่อนข้างหนาวเย็น การได้ซุกตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น ๆ กับที่นอนนุ่ม ๆ คือสิ่งที่ปรารถนาซึ่งหาได้ยากจากชีวิตที่แล้ว เพราะอากาศที่โลกนั้นร้อน ต่อให้นอนเป่าพัดลมมันจะรู้สึกดีเท่าความเย็นจากธรรมชาติได้อย่างไร เพียงไม่นานหญิงสาวก็ผล็อยหลับไป ทิ้งให้สามีนั่งอ้าปากมองนางหลับ แต่ตัวเขานั้นก็อยากนอนเพียงแต่แขนน้อยของอาหมิงมันดันตื่นขึ้นมา เพราะเมื่อครู่เสี่ยวม่านก้มลงปูผ้าแล้วไม่ระวังทำให้กระโปรงเปิดขึ้น เขาจึงได้เห็นบางอย่างที่ถูกแต่งเล็มสวยงาม มิได้รกรุงรังเหมือนเช่นทุกครั้งกอปรกับกลิ่นกายของนางนั้นหอมหวาน ไม่ได้เหม็นสาบดังแต่ก่อน และผิวพรรณที่เกลี้ยงเกลาสะอาด จนมองตามแล้วเลือดลมสูบฉีดอยากหาทางระบายน้ำ “เอ่อ เสี่ยวม่าน เจ้าหลับแล้วหรือ” “...” เงียบไม่ขยับ “นี่ฮูหยิน” “...” ก็ยังนิ่งไม่ไหวติง “เฮ้! ได้ยินข้ามั้ย” “...” พลิกตัวมาหน่อยแล้วก็หลับต่อ “ให้ตายสิ แล้วข้าจะทำเช่นไรเล่า เจ้านี่ก็เหลือเกินปกติปลุกอย่างไรก็ไม่ตื่น ยามนี้กลับไม่ยอมลงเสียได้ เฮ้อ! ตกลงข้าต้องนอนปวดรอให้มันสงบใช่หรือไม่ เมียก็มีแล้วแท้ ๆ” อาจเพราะเข้านอนแต่หัวค่ำเสี่ยวม่านจึงรู้สึกตัวตื่นเร็ว แต่นางก็ยังไม่อยากจะลืมตา นอนพลิกซ้ายพลิกขวาบิดยืดเพื่อขับไล่ความขี้เกียจ “ฮา! ต้องลุกแล้วสินะ” งัวเงียขยี้ตา แขนเท้าค้ำกับที่นอนเพื่อยันกายลุกขึ้น แต่เมื่อลืมตาขึ้น “ตาเถร! ตกใจหมดเลย นี่เจ้าทำบ้าอะไรแต่เช้าเนี่ย” เล่นนั่งจ้องหน้ากันเขม็ง นึกว่าผีบ้านผีเรือนมานั่งเฝ้าเสียอีก นี่ฟ้ายังไม่ทั้งสว่างมาก แค่พอมองเห็นเองนะ ตนเกือบลุกวิ่งออกไปแล้ว “หลับสบายดีมั้ย” คำถามที่เหมือนเสียงขู่เพราะมันฟังดูเย็นสะท้านแปลก ยังกับคนเค้นสอบปากคำผู้ต้องหา อีกนิดจะเหมือนหมอผีตอนจับวิญญาณถ่วงน้ำอยู่แล้ว “อือ ข้าหลับสบายมาก ถามทำไม” “ก็ไม่ทำไม แต่เพราะเจ้าทำให้ข้าทรมานจนนอนไม่หลับทั้งคืน” “อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน จะทำอะไรของเจ้า” จู่ ๆ เขาก็กระโดดพรวดมาหา จนเสี่ยวม่านตกใจกระถดถอยหนี “ช่วยทำมันให้สงบลงเดี๋ยวนี้ เจ้าทำให้ลูกชายข้าตื่น ต้องรับผิดชอบมัน” “แต่ข้ายังไม่พร้อม” “ว่าไงนะ ไม่พร้อมหรือ!” “อื้อ” ดูเหมือนจะเป็นโอกาสในการทำภารกิจครั้งแรก ถึงมันจะดีแต่เสี่ยวม่านกลับคิดประวิงเวลา หากให้เขาง่ายเกินไปครั้งหน้าอาจจะต้องรอนาน อีกทั้งร่างกายนี้ยังไม่สามารถทำให้เขาประทับใจได้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาหิวโซจนต้องนับวันรอจะได้กินตน “เจ้าคิดจะเอาคืนข้ารึไง ปกติเป็นเจ้าที่กระโจนใส่ข้า แต่วันนี้กลับเอาแต่หนี” “ไม่ใช่นะ แต่ข้ากลัวว่าจะเป็นเหมือนทุกครั้งต่างหาก ที่พอเห็นแล้วมันเหี่ยวลง” “ถ้ามันจะลง ก็คงลงไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มานี่เลย มาให้ข้าจัดเสียดี ๆ” “ไม่ได้ ข้าบอกว่ายังไม่พร้อมอย่างไร!” เพราะเขาเอาแต่จะมุดเข้าใต้กระโปรง นางจึงยกขาถีบสวนไปจนอาหมิงหงายหลัง แล้วนอนนึ่งอยู่ที่พื้น “เสี่ยวม่าน! เจ้าถึงกับถีบข้าหรือ” คำถามที่ออกจากปากของคนที่นอนอยู่ทำให้นางรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป แต่นางไม่ได้รู้สึกผิดสักนิด แต่อมยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “ใช่ ข้าถีบ” “เฮ้อก็ได้! ข้าจะไม่บังคับเจ้าแล้ว” เขาทำท่าจะลุกขึ้น แต่กลับได้เห็นสายตาวิบวับของภรรยาที่ กำลังมองแขนน้อยที่พองตัวของตน “อะไรของเจ้า เหตุใดถึงยิ้มเช่นนั้น” “สามี เจ้าอยากรู้ไหมว่า เวลานอนเฉย ๆ มันเป็นอย่างไร” “นอนหรือ? หมายความว่าอย่างไร” “อยากรู้ก็นอนลง แล้วจะได้รู้ เหมี้ยว!” เห็นเมียกางเล็บยั่วเหมือนแมวป่าก็มา แม้ไม่เข้าใจแต่ก็รีบทำตาม “เอ่อ เจ้า... จะทำอะไรกับมัน” ความรู้สึกเย็นวาบยามเมื่อกางเกงถูกดึงลง ทำให้ตื่นเต้น “ข้าจะดูแขนน้อยเจ้านะสิ จะว่าไปมันเหมือนดอกเห็ดเลย ข้าจะกินมันดีมั้ยนะ” “กินหรือ?” แผล็บ ๆ! แผล็บ ๆ! เสี่ยวม่านตวัดลิ้นเลียปาก ทำให้สามีขนลุก นี่นางหิวจนคิดจะกินของเขาจริงนะหรือ “เฉยไว้ ไม่ต้องกลัว แล้วทุกอย่างจะดีเอง” มือผอมลูบไล้ท้องน้อยของเขาเพื่ออยากให้ผ่อนคลาย แต่มันกลับทำให้เขาครางเสียงต่ำ “คิก ๆ จะกินแล้วนะ งับ!” “อะ! สะ เสี่ยวม่าน อู๊ย..เสียววาบ!” มองหัวที่ก้มอยู่กลางลำตัว อาหมิงแทบจะกู่ร้องกับความรู้สึกนี้ สองมือกำแน่น ความรู้สึกเหมือนจะขาดใจทำให้เขากัดฟันเพื่อไม่ให้เสียงครางลอดออกมา แต่ยังครางอืมในลำคอ จนกระทั่งเขาทนมันไม่ไหวอีกต่อไป “อ๊าก! เสี่ยวม่าน..!” ก็โล่งเลยสิทีนี้ “เอา ข้าห่อข้าวใส่กล่องให้เจ้าแล้ว จะได้ไม่ต้องเดินกลับไปกลับมา” “ข้ากลับมากินที่บ้านก็ได้ ไม่เห็นต้องห่อให้เลย” “ขาหายสั่นแล้วหรือ” “ห่อก็ดี จะได้มีเวลาพัก ข้าไปนะ” ก่อนไปจะยังทำสายตาอ้อนอีก โดนจัดไปแค่นี้ติดใจเลย ผู้ชายหนอผู้ชาย ชอบอยู่อย่างเดียวก็เรื่องเสียน้ำนี่แหละ “อืม ไปเถอะ” รีบไปสักที นางจะได้พักดี ๆ บ้าง อยากนอนพัก คนเขาปวดกรามจะแย่ “ยินดีด้วย! คุณได้รับรางวัลเป็นเงินของยุคนี้จำนวนห้าตำลึงเงิน เงินจะถูกโอนเข้ายังบัญชีของผู้ถูกเลือก และสามารถนำออกมาใช้จ่ายได้ตลอดเวลา” “เยี่ยม! แค่ใช้ปากก็ถือว่าทำภารกิจแล้ว” “ตามที่ระบบเคยแจ้งไปก่อนหน้า ภารกิจนี้จะอิงจากสามีของเสี่ยวม่านเป็นหลัก ไม่นับความสุขของผู้โดนเลือก” “อ้าว! ไหงเป็นงั้นเล่า เขาสบายตัวได้แต่คนทำไม่ได้เนี่ยนะ ไม่ยุติธรรมเลย” “เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกเลือกโกงระบบ” “โกง? จะโกงยังไง ในเมื่อมันคือการเสพสุขของคนสองคน หรืออาจจะเล่นกันเป็นกลุ่มก็ได้นะ” “คุณจะสร้างฮาเร็ม?” “เปล่า เคยเปรียบเปรย ถึงตัวข้าจะมาจากยุคที่เต็มไปด้วยเสรีก็เถอะ แต่การทำแบบนั้นมันไม่ใช้แนว” “ดีใจที่ได้ยินคำตอบนี้ เพราะผู้ถูกเลือกต้องการแบบนั้น ระบบจะคัดกรองเพื่อหาคนใหม่ทันที” “หาคนใหม่ แล้วเสี่ยวม่านคนนี้ล่ะ” “ย่อมเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณ หมายความว่าคุณ จะถูกส่งกลับไปยังที่ควรไป” “จะได้กลับบ้านหรือ!” ได้ฟังแล้วก็ดีใจ แม้จะชอบบรรยากาศที่นี่ แต่คนที่คนที่โตมากับเทคโนโลยีก็อึดอัดอยู่ดี “ไม่ใช่กลับบ้าน แต่จะได้ไปที่ชอบ ๆ เพราะคุณในโลกนั้นได้เสียชีวิตแล้ว” “เสียชีวิต! ตายแล้วนะหรือ ตายอะไร ตายยังไง ไม่เห็นจะจำได้เลย นี่หลอกกันรึเปล่า” “คุณทำงานหนัก เย็บผ้าส่งลูกค้าโดยไม่หยุดพัก ทำให้เกิดอาการวูบ ตกจากเก้าอี้ก่อนหัวใจจะวายเฉียบพลัน ตอนนี้ร่างคุณก็ได้ถูกนำไปชำแหละเพื่อขนถ่ายอวัยวะให้กับผู้อื่น ตามที่เคยทำเรื่องบริจาคให้กับสภากาชาด” “ด้วยแต้มบุญนี้ คุณถึงได้รับให้เป็นผู้ถูกเลือก เพราะระบบเห็นใจที่คุณเกิดเป็นมนุษย์ป้าจนอายุสามสิบห้า แต่ไม่เคย ป๊ะเทงเทง! ป๊ะเทงเทง! กับใคร จะหญิงจะชายคุณก็ทำได้แต่มโนไปเอง” “...” อายเขามั้ย ไม่น่าไปถามระบบเลย พับผ่าสิ “สรุปว่าหากคุณไม่ทำตามกฎ คุณจะตายกลายเป็นปุ๋ยอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของจักรวาลนี้” “โหดจัง” “หือ” “ตกลง ไม่กลับแล้ว จะอยู่ที่นี่แหละ จะเป็นเสี่ยวม่านไม่ต้องหาคนอื่นมาแทนเค้านะ พลีส!” “คำเตือน กรุณาใช้คำศัพท์ให้เข้ากับยุคสมัย หากฝ่าฝืนจะถูกริบของรางวัลจากการทำภารกิจ” “เอะอะจะยึดอย่างเดียวเลย” “ระบบได้ยิน” “ขอโทษเจ้าค่ะ ไม่พูดอีกแล้ว”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD