ณ ดินแดนวิมานไพลวัลย์ วิมานแห่งนี้อยู่ต่ำลงมาจากวิมานฉิมพลีที่เป็นที่ประทับของพญาครุฑราช
อาณาเขตวิมานแห่งนี้เป็นวิมานที่ทับซ้อนกับป่าของโลกมนุษย์มีถ้ำที่เหล่าครุฑอาศัยอยู่สามถ้ำและมีสระมรกตที่เป็นสระน้ำบริสุทธิ์ที่หล่อเลี้ยงเหล่าครุฑที่นี่ให้อยู่เป็นอมตะ
ทางทิศตะวันตกของวิมานไพรวัลย์คือถ้ำจันทร์เป็นถ้ำที่มีสีเทาเป็นเขตของครุฑตระกูลที่มีกายสีขาวปกครองโดยสิตามันครุฑราชที่เป็นครุฑที่มีความอาวุโสมากที่สุดของเหล่าครุฑที่วิมานไพรวัลย์แห่งนี้โดยมีอายุ 5000 ปี
ทางทิศเหนือของวิมานไพรวัลย์มีถ้ำแก้วตั้งตระหง่านเป็นแก้วสะท้อนเหลือบสีรุ้งอร่ามงามตาทั้งหมดเป็นอาณาเขตของเหล่าครุฑตระกูลที่มีปีกเป็นแก้วงามสะท้อนเป็นสีรุ้งปกครองโดยวายุนาคะครุฑราชมีอายุ 2000 ปี
ถ้ำที่สามคือถ้ำมรกตตั้งอยู่ที่ทิศใต้ของวิมานไพรวัลย์เป็นถ้ำสีเขียวมรกตที่เงียบสงบและมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมากเพราะเป็นที่ประทับของพญาครุฑราชในตอนที่ลงมาบำเพ็ญศีลในทุกๆพันปีที่นี่จะไม่มีครุฑตนใดอาศัยอยู่นอกจาก รักตปักษ์ ครุฑที่มีปีกสีแดงเป็นครุฑอาวุโสที่ได้รับหน้าที่เฝ้ารักษาถ้ำมรกตแห่งนี้
และปากถ้ำมรกตยังมีสระมรกตกว้างใหญ่ทอดยาวไปจนถึงทิศตะวันออกของวิมานไพรวัลย์มีครุฑหนุ่มนามว่า สรรปาราติ เฝ้าดูแลรักษาสระมรกตทางด้านทิศตะวันออกของวิมานไพรวัลย์เพื่อมิให้เหล่านาคมาขโมยน้ำในสระนี้ไปได้ด้วยเหล่าครุฑเชื่อว่าหากนาคตนใดลักลอบมาขโมยน้ำในสระมรกตนี้ไปได้จะเกิดเภทภัยกับวิมานไพรวัลย์แห่งนี้
ในวิมานไพรวัลย์แห่งนี้คนธรรมดาจะไม่สามารถมองเห็นสถานที่แห่งนี้ด้วยตาเปล่าได้ต้องเป็นผู้มีบุญจิตใจบริสุทธิ์เท่านั้นถึงจะเข้าถึงวิมานแห่งนี้ได้ และแถบป่าของโลกมนุษย์ที่อยู่กลางหุบเขาสูงถิ่นนี้เต็มไปด้วยป่าดิบชื้นที่มีอันตรายมากมายทั้งมองเห็นและมองไม่เห็นจึงยากที่ผู้คนทั่วไปจะเข้าถึง
ณ ถ้ำแก้ววิมานไพรวัลย์
“ลูกเราล่ะ”
ร่างของหญิงงามใบหน้าสวยนัยน์ตาหยาดเยิ้มหวานปานน้ำผึ้งสวมใส่อาภรณ์สีกลีบบัวพันรอบอกกับซิ่นไหมทองามเป็นสร้อยแสงจันทร์มเหสีของวายุนาคะครุฑราชเดินมาหาพสุนทราและสวามีของตนที่แท่นบำเพ็ญด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างร้อนใจเรื่องที่ตอนนี้บุตรชายจอมทโมนของเธอนั้นหายออกไปจากถ้ำแก้วล่วงเลยมาหาลายเพลาแล้ว
“เป็นเยี่ยงนี้เสียทุกครั้งสิท่านพี่”
พสุนทราครุฑหนุ่มในโจงกระเบนสีขาวส่วนบนเปลือยเปล่าโชว์แผงกล้ามเช่นพี่ชายใบหน้าดุดันอายุ1000ปีน้องชายของวายุนาคะครุฑราชส่ายหัวไปมาด้วยสีหน้าที่เอือมระอาเห็นว่าหลานตนนั้นดื้อเกินกว่าใครจะตามได้ทันวันนี้เห็นว่าพี่สะใภ้นั้นคงร้อนใจพอควรจึงได้มาหาพี่ของตนในขณะที่ยังบำเพ็ญศีล
“เจ้าอย่าร้อนใจไปเลยลูกเราใช่ว่าจักเอาตัวรอดไม่ได้”
ร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาผิวกายผุดผ่องบึกบึนไปด้วยแผงกล้ามค่อยๆก้าวย่างอย่างสง่างามลงมาจากแท่นบำเพ็ญวายุนาคะโอบปลอบร่างบางของมเหสีเขาเห็นว่าเรื่องนี้ก็เป็นธรรมดาที่ลูกของเขานั้นจะหายไปเช่นนี้ไม่เห็นจะต้องร้อนใจอะไรมากมาย
“ถือกำเนิดมาเป็นร้อยปีแล้วก็ไม่เห็นจักลดความทโมนลงได้เลยเพลานี้ก็มีเหตุครึ้มฟ้าพายุผ่าแสนน่ากลัวไม่รู้ลูกจักเป็นอย่างไรบ้างท่านพี่”
ดวงตาหวานหยาดเยิ้มปานน้ำผึ้งบัดนี้ดูเศร้าหมองสร้อยแสงจันทร์ค่อนข้างเป็นกังวลก็เพราะทั้งลมฟ้าลมฝนก็แรงจนน่ากลัวจนใจของคนเป็นแม่อย่างเธอนั้นสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่ดี
“เจ้าสร้อยอย่าตระหนกไปเลยลูกเราแม้ยังไม่สำเร็จหัวใจพญาครุฑแต่ก็ไม่ใช่เด็กที่ใครจักมารังแกเอาได้โดยง่ายเป็นธรรมดาของลูกผู้ชายคงมิไปไหนไกลดอกคงไม่พ้นลานสุขิน”
วายุนาคะเอ่ยปลอบมเหสีของตนให้หยุดตื่นตระหนกแม้อินทรครุฑราชจะอายุไม่ถึงพันปีและยังไม่ได้บำเพ็ญศีลจนสำเร็จวิชาหัวใจครุฑ แต่ก็ใช่ว่าอินทรครุฑราชนั้นฝีมือการป้องกันตัวจะด้อยไปกว่าครุฑตนใดในวิมานไพรวัลย์แห่งนี้และที่หายไปคงไม่พ้นลานสุขินลานที่ครุฑเด็กและครุฑหนุ่มสาวที่ยังไม่มีคู่ชอบเตร็ดเตร่เล่นสนุกกันอยู่เป็นแน่
“พี่ว่าตอนนี้เรามีธุระที่จักต้องสนใจมากกว่านั้นเสียแล้ว”
วายุนาคะรู้สึกได้ว่าตอนนี้นั้นสิตามันครุฑอาวุโสจากถ้ำจันทร์ได้เข้ามาประทับอยู่ที่ตำหนักแก้วครู่ใหญ่แล้วเขาจึงรีบไปที่ตำหนักแก้วโดยเร็ว