ตอนที่ 3 ความอึดอัดใจ

1961 Words
ในตอนเช้าโสภิดาตื่นขึ้นมาแล้วมีอาการไข้นิดหน่อยจากเหตุการณ์เมื่อคืน เธอลงมาข้างล่างแล้วเข้าไปในครัวเพราะไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร คนในห้องครัวหันมามองเธอเป็นตาเดียว จนเธอทำตัวไม่ถูก จนหวานเดินเข้าไปถามเธอ “คุณส้มลงมาในครัวทำไมคะ” หวานถามเธอด้วยความสงสัย “ฉันไม่รู้จะทำตัวยังไงดีจ๊ะพี่หวาน มีงานอะไรให้ฉันช่วยทำไหมจ๊ะ ฉันทำกับข้าวได้ ล้างผัก หั่นผัก หั่นหมู ปอกหอม ปอกกระเทียม อะไรก็ได้” โสภิดาบอก คนรับใช้ต่างก็พากันงงที่เธออยากช่วยงานในครัว “ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณใหญ่รู้ว่าพวกเราใช้งานคุณนายรองพวกเราตายแน่” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น “คุณนายรองที่ไหน คุณส้มเป็นเมียเก็บคุณใหญ่ คุณใหญ่เธอไม่ได้รับมาเป็นคุณนาย” อีกคนหนึ่งที่มีอายุมากกว่าทุกคนพูดขึ้น แล้วปิดปากกลัวโดนโสภิดาตบเหมือนเมียรองคตนอื่นๆ หรือไปฟ้องอารยะว่าเธอพูดไม่ดีด้วย โสภิดามีท่าทีที่ดูสลดลง เพราะคำพูดเหล่านั้นมันเสียดแทงหัวใจของเธอ “ป้าไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นนะคุณส้ม อย่าเอาเรื่องป้าเลย” พิมพ์ที่ทำหน้าที่แม่ครัวเอ่ยขึ้น เธอกลัวโดนเล่นงานจากการปากสว่างของเธอ “ฉันไม่บอกคุณใหญ่หรอกจ๊ะป้า” โสภิดาบอกแล้วยิ้มให้ จนคนรับใช้พากันนึกสงสารเธอ ดูท่าทางเธอคงไม่มีพิษมีภัยและซื่อๆ อย่างที่หวานเล่าให้ฟังเมื่อคืนนี้จริงๆ “งั้น คุณส้มทอดไข่ดาวเป็นไหมคะ เอาแบบไข่ขาวสุกแต่ไข่แดงเยิ้มๆ แต่ต้องทอดใส่กระทะแบบไร้น้ำมันนะคะ” พิมพ์เปลี่ยนท่าทีแล้วบอกเธอด้วยความเอ็นดูปนสงสาร โสภิดายิ้มแป้น เธอพยักหน้าแล้วเดินไปจัดการทอดไข่ดาวให้พิมพ์ทันที เธอทำออกมาได้ดีกว่าที่คาด เพราะโสภิดาเธอชอบทำอาหาร และเธอเคยเห็นในวีดีโอสอนทำอาหารอยู่บ่อยๆ “ปกติตอนเช้าเมนูของที่นี้จะทำสองอย่างให้พวกคุณๆ ได้เลือกทานกัน มีข้าวต้มหนึ่งอย่าง แล้วชุดอาหารเช้าแบบฝรั่งอีกอย่างที่ประกอบไปด้วย ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ไส้กรอกย่างกระทะไม่ใส่น้ำมัน คุณใหญ่มักจะชอบทานข้าวต้มแล้วต่อด้วยชุดอาหารเช้า ส่วนคุณอ้อมจะทานข้าวต้มเพียงอย่างเดียว และคุณเล็กบางทีเธอก็ทานข้าวต้ม บางทีก็เลือกทานชุดอาหารเช้า บางทีเธอก็ทานกาแฟเพียงแก้วเดียว” พิมพ์บอกโสภิดาเมื่อเห็นว่าเธออยากช่วยงานในครัว “แล้วต่อไปฉันจะต้องทำอะไรบ้างคะ” โสภิดาถาม เธอไม่อยากอยู่ว่างๆ “คุณนายรองที่ผ่านมาก็นั่งเล่น ดูหนัง ออกไปช้อปปิ้งบ้าง ไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ ป้าเลยไม่รู้จะให้คุณส้มทำอะไร” พิมพ์บอก “งั้นก็ให้คุณส้มมาช่วยในครัวสิป้า เตรียมอาหารช่วยทั้งมื้อหลักและอาหารว่าง” หวานเสนอความเห็น “แบบนั้นก็ได้คะ ถ้าอยู่เฉยๆ ฉันเบื่อแย่เลย” โสภิดาบอก “แต่เสาร์อาทิตย์ฉันมีเรียนนะจ๊ะ อาจช่วยได้แค่วันธรรมดา” เธอบอกแล้วส่งยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะย่างไส้กรอกในกระทะต่อจากไข่ดาว *************************** บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าดูปกติดี ยกเว้นโสภิดาเองที่รู้สึกอึดอัดเพราะเรื่องเมื่อคืน แล้วยังต้องย้ายมานั่งข้างนุสราอีก ตามตำแหน่งที่คนรับใช้เตรียมไว้ให้ “ทำไมส้มดูหน้าแดงๆ” นุสราถามแล้วเอามืออังหน้าผากเธอ “มีไข้หน่อยๆ อย่าลืมทานยานะ” นุสราบอก “ค่ะ” โสภิดารับปากแล้วทานข้าวต้มเหมือนกับนุสรา ส่วนอารยะวันนี้ทานทั้งข้าวต้มและเอาไข่ดาวประกบกับขนมปังปิ้งเป็นเหมือนแซนวิชโดยใช้ไข่ดาวไปถึงสองฟอง โสภิดาพยายามไม่มองหน้าเขา “ถึงกับเป็นไข้เลยเหรอ” ไอรดาวางแก้วกาแฟในมือลงแล้วพูดขึ้นมา วันนี้เธอทานกาแฟแค่แก้วเดียว โสภิดาไม่ตอบ ก้มหน้างุด นุสรายังคงทานข้าวต้มต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนอารยะนั้นมองหน้าน้องสาวเหมือนจะตำหนิ เพราะเขาไม่อยากให้เธอพูดอะไรกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของนุสรา “เล็กไปทำงานแล้วนะคะ” ไอรดาขอตัวออกไปทำงานโดยมีคนขับรถให้ เธอไม่ชอบขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง นุสราวางช้อนลงแล้วยิ้มให้กับสามีที่เป็นห่วงความรู้สึกของเธอ โสภิดาเองก็ทานไม่ลง เธอรู้สึกผิดลึกๆ ต่อนุสราและอึดอัดที่นุสราทำดีด้วยแทนที่จะเมินเฉยหรือพูดต่อว่าเธอบ้าง เธอจะได้สบายใจขึ้น “พี่ใหญ่ทานเยอะไปนะคะวันนี้” นุสราบอกสามี เป็นนัยว่าเมื่อคืนเขาคงใช้พลังงานไปมาก “วันนี้ป้าพิมพ์ทอดไข่ดาวออกมาน่ากินดี พี่เลยอดใจไม่ไหว” อารยะบอกนุสราแล้วยิ้มให้เธอ หวานที่ยืนรอรับใช้แถวนั้นส่งยิ้มให้กับโสภิดา “งั้นเราออกไปกันเถอะ” อารยะบอกแล้วชวนภรรยาลุกขึ้นเพื่อที่จะออกไปทำงาน ทั้งสองคนลุกตามกันเดินออกไป ทิ้งโสภิดาให้นั่งอยู่ตรงนั้นโดยที่อารยะไม่ได้พูดอะไรกับเธอสักคำ “คุณๆ ออกไปทำงานกันหมดแล้ว คุณส้มทานอีกนิดนะคะ จะได้ทานยาลดไข้” หวานบอกเธอ โสภิดาเลยตักทานข้าวต้มต่อ โดยมีหวานเล่าเรื่องงานของทั้งสามคนให้ฟัง ไอรดาทำหน้าที่ดูแลธุรกิจเงินกู้ต่อจากมารดา ส่วนอารยะก็รับผิดชอบในส่วนของธุรกิจโรงแรมและสนามแข่งรถที่มีการจัดให้แข่งขันกันอย่างถูกกฎหมาย แต่ถึงจะทำธุรกิจถูกกฎหมาย ก็ใช่ว่าจะไม่เคยใช้อิทธิพลในทางที่ผิด ถ้าเขาไม่พอใจใครเขาก็สามารถเล่นงานได้ แต่ไม่ให้ถึงตายและยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ ขอแค่ให้ได้สั่งสอนคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้า ส่วนนุสราก็ช่วยบริหารงานที่โรงแรมกับอารยะ ทั้งคู่เจอกันที่มหาวิทยาลัยตอนที่นุสราเป็นนักศึกษาปีหนึ่งและอารยะเป็นรุ่นพี่ปีสี่ ทั้งคู่เจอกันเพราะเพื่อนของอารยะตามจีบเพื่อนของนุสรา เลยทำให้อารยะและนุสราต้องเจอกันบ่อยๆ และเกิดเป็นความรักขึ้นมา *************************** โสภิดาทานยาแล้วนอนพัก สายๆ เธอก็ลงมาข้างล่างอีกครั้ง ปกติมื้อเที่ยงจะไม่มีการเตรียมอาหาร เพราะทั้งสามคนไม่ได้กลับมาทาน จะมีแค่อาหารเช้าและอาหารเย็นเท่านั้น โสภิดาจึงบอกทุกคนว่าไม่ต้องทำอะไรให้เธอ ถ้าเธอหิวเธอจะทำกินเอง ส่วนเสาร์และอาทิตย์จะต้องทำอาหารทั้งสามเวลาและมีอาหารว่างตอนสายและตอนบ่ายที่จะต้องเสิร์ฟด้วย โสภิดารู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้อยู่ช่วย เธอชอบทำอาหารเวลามีคนทานแล้วบอกว่าชอบเธอก็จะดีใจ เหมือนตอนที่อารยะบอกว่าวันนี้ไข่ดาวน่าทาน ถึงเธอจะรู้ว่าเขาพูดเพื่อปลอบใจภรรยาและก็อดดีใจไม่ได้ที่เขาชอบไข่ดาวที่เธอทำ ส่วนไส้กรอกและไข่ดาวที่เหลือหวานก็เอาไปแจกจ่ายกินกันในหมู่คนรับใช้ พวกเธอไม่ถือว่าเป็นของเหลือ เพราะของยังสามารถทานได้และเป็นของดีๆ ทั้งนั้นซึ่งโสภิดาก็เห็นด้วย เธอเดินไปหยิบนิตยสารมาอ่านแล้วผล็อยหลับไปตรงโซฟา จนกระทั่งหวานมาปลุก ถามว่าหิวหรือยัง เพราะตอนนี้ก็บ่ายแล้ว “คุณส้มหิวไหมคะ เดี๋ยวหวานทำข้าวผัดให้ทาน” “ฉันทำเองดีกว่า ไม่มีอะไรทำ เบื่อ กลัวเป็นง่อย” โสภิดาลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมา หวานมองแล้วอดยิ้มไม่ได้ ที่เมียอีกคนของเจ้านายดูน่ารักและเป็นกันเองมากขนาดนี้ เธอผัดข้าวผัดแล้วนั่งกินในครัว เธอจะล้างจานต่อแต่หวานไม่ยอม บอกให้ทำแค่นี้ก็พอ เธอเลยนั่งซึมก่อนจะยิ้มออกมา “พรุ่งนี้วันเสาร์ ฉันมีเรียนหนังสือและจะแวะไปหาพ่อกับแม่ด้วย งั้นฉันจะหมักหมูไว้ให้ แล้วพรุ่งนี้พี่เอาหมูพวกนี้ทาขนมปัง ใส่เตาอบสักยี่สิบนาทีนะ ใช้ไฟบนอย่างเดียวเดี๋ยวขนมปังจะไหม้ เอาเป็นของว่างเสิร์ฟให้พวกคุณๆ” โสภิดาบอก “ดีเลยคะ คุณอ้อมเธอชอบทานขนมปังหน้าหมู” พิมพ์ที่เดินเข้ามาพอดีพูดขึ้น “เหรอคะ ดีเลย สูตรนี้ฉันเคยทำนะแต่ตอนนั้นทอดเอาเพราะบ้านไม่มีเตาอบ แต่รับรองว่าอร่อยมากๆ คุณอ้อมต้องชอบแน่ๆ” โสภิดาบอก แล้วลงมือหมักหมู พร้อมทั้งผสมน้ำจิ้มแช่ตู้เย็นไว้ให้ เธอยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนี้เสมอ พิมพ์กับหวานมองภาพนั้นแล้วยิ้มตาม โสภิดาได้ใจพวกเธอไปแล้วในตอนนี้ *************************** ทุกคนกลับมาอีกครั้งในตอนเย็น โสภิดาเตรียมอาหารช่วยพิมพ์ในครัวจึงไม่ได้ออกมาต้อนรับอารยะ เขาหงุดหงิดเล็กน้อย ปกติแล้วคุณนายรองที่ผ่านมา พอเขาเลิกงานก็จะเดินออกมารับเสมอ พอถึงเวลาอาหารทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้า โสภิดาจึงตัดสินใจถามในตอนนั้นเพราะกลัวว่าถ้าทานอาหารเสร็จแยกย้ายกันแล้วเธอจะไม่มีโอกาสได้ถามใครอีก “คุณเล็กคะ พรุ่งนี้วันเสาร์ ส้มต้องไปเรียน” โสภิดาเอ่ยขึ้น “จริงสิ งั้นฉันจะให้คนรถที่บ้านนี้พาไปก็แล้วกัน” “เอาหวานไปด้วย” อารยะพูดขึ้น หันไปมองหน้าไอรดา “เสาร์นี้มีฟังบรรยายแค่วิชาเดียว พอเสร็จส้มว่าจะแวะไปเยี่ยมพ่อกับแม่ด้วยคะ ถ้าพี่หวานไป ส้มเกรงว่าจะเสียเวลาเปล่าๆ” โสภิดาพูดขึ้น อารยะหันมามองหน้าเธอ ไม่เคยมีใครขัดใจเขาหรือปฏิเสธคำสั่งของเขาแบบนี้ นุสราจับแขนสามีไว้ ไอรดาเห็นท่าไม่ดีเลยชิงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน “เอาหวานไปด้วยนะดีแล้ว แล้วทีหลังอย่าขัดใจพี่ใหญ่อีก คำพูดของพี่ใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในบ้านหลังนี้ ครั้งต่อไปส้มต้องระวังคำพูดให้ดีด้วย” ไอรดาบอกเธอ โสภิดาก้มหน้าลงเพราะทนต่อสายตาที่น่ากลัวของอารยะไม่ไหว อารยะทานต่อเงียบๆ โดยมีนุสราคอยเอาใจอยู่ไม่ห่าง ปกติแล้วผู้หญิงของเขาไม่เคยขัดใจ และเอาใจเขาแทบทั้งนั้น แต่กับโสภิดาเธอดูไม่มีจริตดูซื่อจนเขาหงุดหงิด อย่างน้อยเธอควรรู้ว่าที่นี่เขาเป็นใหญ่ และควรเอาใจเขาและเชื่อฟังเขาให้มากกว่านี้ นุสราตักอาหารเอาใจสามี เธอเห็นเขาไม่พอใจแบบนี้ก็เบาใจนิดหน่อย ว่าโสภิดาคงไม่ทำให้อารยะมีใจให้ได้แน่นอน เธอคงเป็นแค่คนที่จะมาทำหน้าที่ผลิตทายาทให้แก่เขาก็เท่านั้น เธอกลัวที่สุดคือกลัวว่าอารยะจะรักคนอื่นมากกว่าเธอ เธอยอมให้เขามีเมียได้อีกแต่เธอก็ไม่อยากให้เขารักใคร นุสราหวงความรักของเขา หวงอ่อนโยนของเขาที่มีต่อเธอ ***************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD