บทที่ 6 พรหมลิขิตหรือโลกแคบ EP.3

998 Words
ในมือของทั้งสองว่างเปล่าปราศจากสิ่งของ ผิดจากบรรดาหญิงสาวที่เดินผ่านไปมาซึ่งต่างหิ้วกันพะรุงพะรัง ซ้ำยังพากันชายตามองมาทางอาชวินอย่างสนอกสนใจในรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม “สาวๆ มองแกจนตาค้างเลยนะนิก ไม่หันไปโปรยยิ้มให้หน่อยล่ะ” อิงลดากระเซ้าเพื่อนพลางใช้พัดในมือโบกไปมาคลายร้อน เวลานี้เข้าสู่ช่วงกลางวันแล้ว เพิ่งรู้ซึ้งว่าเวลากลางวันของหน้าหนาวนี่อากาศร้อนจับจิตจับใจจริงๆ “ไม่” คนถูกสาวมองบอกเพื่อนและก้มลงกระซิบกระซาบข้างหู “แก้มของแกนี่แดงน่าจูบชะมัดเลยนะน้ำอิง” “แล้วแกกล้าจูบฉันจริงๆ ไหมล่ะนิก” อิงลดาย้อนถามหน้าตาเฉยไร้ซึ่งความเขินอาย “ไม่” คำปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้งของเพื่อนเรียกเสียงหัวเราะคิกคัก สร้างความสงสัยให้กับอินทิราไม่น้อย จนต้องเอ่ยถาม “คุยอะไรกันหรือจ๊ะ” “เปล่าครับ อาแหนมไม่ได้ซื้ออะไรมาเลยหรือครับ” หนุ่มหล่อรีบเปลี่ยนเรื่องพูดพร้อมหลิ่วตาให้ผู้เป็นเพื่อน “ซื้อไม่ลงหรอกจ้ะนิก ของบ้าอะไรไม่รู้แพงแสนแพง” อินทิราเอ่ยตอบน้ำเสียงขัดใจ ไม่อยากบอกเลยว่าเธอเกือบจะตัดใจซื้อเสื้อกันหนาวมาแล้ว แต่ที่เปลี่ยนใจไม่ซื้อเพราะราคานั่นเอง หลานสาวชำเลืองมองคนพูดแล้วยิ้มขำ อาสาวของเธอมีเงินออกเยอะแยะแต่ไม่ค่อยยอมใช้ จะว่าขี้เหนียวก็ไม่น่าจะใช่ “ฉันเห็นด้วยกับอาแหนมนะนิก ของมันแพงเกินเหตุจริงๆ แม้จะดูเกรดดีก็ตาม แต่ราคาไม่น่าจะแพงถึงเพียงนี้” “แกไม่เห็นสถานที่หรือน้ำอิง เขาทำเป็นสไตล์อิตาลีโบราณ จะได้ดูเหมือนว่าเรากำลังเดินชอปปิงอยู่ในอิตาลีไงล่ะ ฉันรู้มาว่าค่าเช่าของที่นี่แพงสุดโต่ง ดังนั้นราคาของสินค้าก็ย่อมแพงตามไปด้วย” อาชวินผู้คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดีอธิบายให้ฟังเพิ่มเติมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วเดินนำสองสาวไปยังที่จอดรถ “เฮ้อ ได้แอร์เย็นๆ แล้วค่อยยังชั่วหน่อย ร้อนตับแตกจริงๆ นี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้ว ฉันว่าเรากลับไปที่เต็นท์กันดีกว่า” อิงลดาบ่นพลางดูนาฬิกาข้อมือ แล้วเสนอความเห็นทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถจนได้สัมผัสกับแอร์เย็นฉ่ำ “ดีเหมือนกัน” อาชวินรับคำ ชายหนุ่มกางเต็นท์ไว้ตั้งแต่เดินทางมาถึงแล้ว เพราะคิดว่าถ้ากางหลังจากไปเที่ยวกลับมาคงไม่มีที่สำหรับให้กางอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นวันหยุดติดกันสามวัน ผู้คนส่วนใหญ่จึงมักพากันมาพักผ่อนที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก “แล้วคืนนี้แกจะนอนยังไง มีเต็นท์แค่หลังเดียว” อิงลดาถามอย่างกังขาทว่าไม่ได้จริงจังนัก ถ้าจะต้องนอนร่วมเต็นท์เดียวกันกับเพื่อน “แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก แกไม่เห็นเต็นท์หรือว่ามันมีระเบียงด้านหน้า ฉันเตรียมถุงนอนกับเก้าอี้ผ้าใบมาแล้ว หรือแกจะให้ฉันเข้าไปนอนด้วยล่ะ” อาชวินพูดแกมหัวเราะโดยไม่คิดอะไร แต่คนคิดอย่างอินทิราพูดโพล่งขึ้นมาในทันใด “อาว่ามันจะดูไม่ดีนา ถึงอากับน้ำอิงจะรู้ว่านิกเป็นเอ้อ...แต่คนภายนอกไม่รู้นี่ว่านิกเป็น” หญิงสาวหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงตัวตนที่แท้จริงของชายหนุ่ม นายแบบหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมาจนลั่นรถ พลางชำเลืองมองสาวสวยทั้งคู่แล้วส่ายหน้า โถ! ต่อให้ทั้งคู่นอนแก้ผ้าให้เขาดู ก็ไม่ทำให้ตัวเขาเกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมาได้หรอก “ผมพูดเล่นครับอาแหนม” อาชวินพูดจบก็พารถทะยานไปเบื้องหน้า ตรงไปยังจุดกางเต็นท์ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทันที องครักษ์หนุ่มคู่แฝดคนสนิทของลอราช ปรากฏร่างสุดเท่ที่หน้าเต็นท์ในตอนเย็นหลังภูวดลถามหาไม่นาน ทำให้เต็นท์หลังดังกล่าวตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาสาวๆ ทั้งสาวเทียมสาวแท้ ที่ต่างพากันทอดสายตาชำเลืองมองให้วุ่นวาย “แกสองคนกลับไปที่เต็นท์ของแกเหอะว่ะ” ลอราชเอ่ยปากไล่คนสนิททั้งคู่ “ไม่ได้ครับคุณเรน ตอนนี้เราอยู่ในที่แจ้ง ไม่รู้ว่ามีใครคอยจับจ้องเราอยู่บ้าง” ดอนพูดเสียงขรึม “จะไม่รู้ได้ไงว่ามีใครจ้อง แกลองเหลียวมองไปรอบๆ ตัวแกตอนนี้สิวะ ว่ามีใครจ้องบ้าง” คนเป็นนายพูดฉุนๆ พลางปรายตามองคนสนิททั้งคู่ ที่อยู่ในชุดยีนกับเสื้อแจ็กเกตสีดำพร้อมหมวก ราวกับจะไปเดินแบบมากกว่าอารักขาตัวเขา แม้จะรู้ว่านั่นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกก็ตามแต่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ หนุ่มคู่แฝดหันไปมองรอบตัวแล้วพากันอมยิ้ม อยากจะพูดออกไปนักว่าสาวๆ ที่มองกันอยู่น่าจะมองตัวเจ้านายเขามากกว่า “ให้ผมสองคนอยู่ตรงนี้น่ะดีแล้ว คุณเรนกับคุณเคนไปนั่งดื่มเบียร์กันตามสบายเถอะครับ ส่วนเรื่องอาหารเดี๋ยวผมจัดการให้” แดนพูดเหมือนบังคับกลายๆ ลอราชขยับปากจะพูดอะไรออกมาแต่ก็เปลี่ยนใจ เพราะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อันใด โดยเฉพาะกับแดนที่เป็นคนพูดน้อย แต่พูดครั้งใดเขาต้องจำนนด้วยเหตุผลทุกครั้งไป ไม่รู้เป็นไรสิน่า ผู้คนรอบๆ ตัวเขาทำไมถึงได้ดื้อกันนักก็ไม่รู้ ชายหนุ่มคิดอย่างขัดใจ จนลืมไปว่าหนึ่งในคนดื้อนั้นก็มีตัวเองรวมอยู่ด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD