บทที่ 1 ‘หักอกก็แค่ผิดหวัง แต่หักหลังมันรับไม่ได้’ EP.5

1649 Words
อาชวินเดินไปที่ตู้เล็กๆ ซึ่งบรรจุกระดาษทำนายเซียมซี แล้วหยิบมาอ่านให้อิงลดาฟังดังๆ จนถึงข้อสำคัญก็หยุดชะงักไปแล้วมองหน้าคนฟังยิ้มๆ ก่อนจะอ่านต่อไป “ใบที่เจ็ดเสร็จทุกข์เป็นสุขี ทั้งบ้านเรือนเพื่อนกินก็ยินดี แต่ตัวนี้เคืองขุ่นอยู่วุ่นวาย จงทำบุญให้ทานประมาณจิตต์ คงสมคิดแสนสมอารมณ์หมาย อย่าอ้อมโอบโลภมากจะยากกาย ฟังภิปรายพาทีคงดีจริง เหมือนปลูกต้นผลไม้ไว้ไกล้บ้าน คงเป็นการอยู่สุขสิ้นทุกสิ่ง ถามหาลาภใบนี้ว่าดีจริง หรือถามสิ่งของหายว่าได้คืน ถามหาคู่สู่สมภิรมย์พักตร์ ว่าดีนักแสนดีเป็นที่ชื่น ถามคนเจ็บว่าหายสบายคืน ถึงเรื่องอื่นก็ดีเท่านี้เอย” “ใบนี้ดีตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะน้ำอิง แสดงว่าต่อไปนี้ตัวแกก็จะพบแต่ความสุข” อาชวินพูดกับเพื่อนขณะพากันเดินตรงไปยังรถ โดยที่อิงลดาไม่ได้โต้ตอบอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ที่ลองเสี่ยงไปก็เพราะไม่อยากขัดใจเพื่อน “ดีนะที่เราดูแผนที่กันมาก่อนว่าควรจะเริ่มต้นที่วัดไหน ถ้ามาโดยไม่ได้วางแผน รับรองว่าป่านนี้คงยังไม่ถึงไหนเป็นแน่” อิงลดาเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีอ่อนล้า หลังจากเข้ามานั่งในรถ ดวงหน้าเนียนใสนั้นแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นอยู่เต็มใบหน้าเนื่องจากอากาศข้างนอกร้อนอบอ้าว อาชวินต้องเร่งแอร์คอนดิชันในรถให้เย็นขึ้น “เดี๋ยวฉันจะพาแกไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อย เพื่อนฉันเคยพามากินหลายครั้งแล้ว” “ดีเหมือนกัน มาอยุธยาทั้งทีถ้าไม่ได้กินก๋วยเตี๋ยวเรือก็เหมือนมาไม่ถึง ที่สำคัญตอนนี้ฉันหิวแล้วด้วย” อิงลดาพูดพลางตบพุงเบาๆ เพราะตั้งแต่แวะกินอาหารเมื่อเช้า ก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องอีกเลย “รับรองร้านนี้แกกินแล้วจะต้องติดใจอย่างแน่นอน” ร้านที่อาชวินพาอิงลดามานั้นแม้จะเป็นแค่เพิงที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนักก็ตาม แต่มีลูกค้านั่งกันอยู่จนเต็มร้าน “เชิญนั่งจ้า” ป้าเจ้าของร้านถึงกับรีบกุลีกุจอเดินออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง เมื่อเห็นหนุ่มสาวหน้าตาดีเดินเข้ามาในร้าน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อพราวนั้นยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร “เส้นเล็กเนื้อเปื่อยสี่ชามครับ” หลังจากทรุดกายลงนั่งอาชวินก็สั่งทันที ก่อนจะหันไปถามเพื่อนที่กำลังใช้พัดในมือโบกไปมา “แกจะกินอะไรก็สั่งเลยนะน้ำอิง สั่งเผื่อไว้หลายชามด้วยเลย” “เส้นเล็กหมูตุ๋นสองชามค่ะป้า” อิงลดาสั่งพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พบเข้ากับสายตาของหลายๆ คน ที่กำลังลอบชำเลืองมองมายังเธอกับเพื่อนอย่างสนใจ บางคนถึงกับส่งยิ้มให้ ซึ่งเธอก็ส่งยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน “ผมขอน้ำกระเจี๊ยบสองแก้วด้วยนะครับป้า” เมื่อสั่งเสร็จอาชวินก็หันมาบอกเพื่อน “น้ำกระเจี๊ยบของที่นี่นะสุดยอดของความอร่อย แกกินแล้วจะต้องติดใจ” “แกพูดเหมือนมาที่นี่บ่อยนะนิก” “ฉันเคยพาเพื่อนมาไหว้พระเก้าวัดอย่างที่พาแกมานี่แหละ และเคยแวะร้านนี้หลายครั้งแล้ว” อาชวินตอบเพื่อนพลางแย่งพัดในมือเพื่อนมาโบกไล่ความร้อนบ้าง “แล้วทำไมแกไม่ชวนฉันมาบ้างล่ะ” “ยายน้ำอิง! แกก็รู้ว่าฉันกับไอ้แจ๊คไม่ชอบหน้ากัน และเมื่อก่อนแกตัวติดกับมันซะขนาดนั้น ถ้าฉันชวนแกมันก็ต้องมาด้วยอยู่แล้ว” อาชวินเผลอเอ่ยถึงจักรพงษ์ขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ และมารู้สึกตัวว่าสะกิดใจเพื่อนเข้าอย่างจังก็เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบงันผิดปกติ จึงรีบเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด “ฉันขอโทษนะน้ำอิง ไม่ได้ตั้งใจจะเอ่ยชื่อมันให้แกสะเทือนใจหรอกนะ แค่อยากอธิบายให้แกฟังถึงสาเหตุเท่านั้น” “ไม่เป็นไรหรอกนิก ฉันเข้าใจ” อิงลดาเอ่ยพลางรับน้ำกระเจี๊ยบแก้วโตจากเด็กที่นำมาวางให้ ดื่มด้วยความกระหาย และก็ต้องเบิกตากลมกว้างก่อนจะอุทานออกมา “อร่อยอย่างที่แกว่าจริงๆ ไม่เห็นเหมือนน้ำกระเจี๊ยบที่ขายกันเป็นขวดเลย” น้ำเสียงของอิงลดาขณะพูด ไร้ซึ่งวี่แววความเศร้าสร้อยอย่างที่อาชวินนึกกังวล จึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ฉันดีใจที่แกไม่คิดมากเรื่องไอ้แจ๊คอีกแล้ว” “มันก็คงยังมีหลงเหลืออยู่บ้างแหละนิก จะให้ลืมหมดทีเดียวภายในสองสามวันคงจะไม่ได้” อิงลดาสารภาพ จากนั้นทั้งคู่ต่างก็พากันจัดการกับชามก๋วยเตี๋ยวที่เด็กเสิร์ฟนำมาวางให้บนโต๊ะอย่างหิวโหย จนลืมคุยกันไปจนกระทั่งหมดชามภายในเวลาไม่กี่นาที อิงลดาถึงกับเอ่ยชมไม่ขาดปาก “อร่อยอย่างที่แกบอกจริงๆ ด้วยนิก ทำไมไม่เห็นมีเชลล์มาชวนชิมบ้างเลยนะ” พูดพลางเธอก็ยกน้ำกระเจี๊ยบขึ้นดื่มจนหมดแก้ว เรียวปากอิ่มแดงจัดเพราะความเผ็ด “นั่นสินะ หลายร้านที่เชลล์ชวนให้ชิม แต่ฉันลองชิมแล้วไม่เห็นจะได้เรื่อง” อิงลดาฟังแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ แล้วพลันต้องหุบยิ้มลงทันควัน เมื่อหันไปพบเข้ากับสายตาคมกล้าของชายชราจากโต๊ะด้านข้าง ที่กำลังจ้องเขม็งมองมายังเธอ พร้อมกับยกมือขึ้นคล้ายจะกวักเรียกให้เขาไปหา จนต้องชะโงกหน้าไปกระซิบกับเพื่อน “นิก แกลองดูคุณตาคนนั้นสิ แกกวักมือเรียกฉันด้วยแหละ” “อืม ฉันว่ามันดูแปลกๆ นะน้ำอิง” อาชวินยังกล่าวไม่ทันจบคำ ป้าเจ้าของร้านก็เดินมาหาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยสำเนียงเหน่อๆ “ตาแสงแกเรียกให้หนูไปหาที่โต๊ะน่ะจ้ะ” “เรียกหนูเหรอคะ” อิงลดาถามย้ำพร้อมกับชี้ที่ตัวเองเพื่อความแน่ใจ “หนูนั่นแหละจ้ะ แกคงถูกชะตากับหนู ตาแสงแกเป็นคนดูโหงวเฮ้งเก่งแล้วก็แม่นมาก ปกติแกไม่ค่อยจะเรียกใครเข้าไปหาแบบนี้หรอก ขนาดมีคนไปหาแกถึงที่บ้านแกก็ยังไม่ดูให้เลย” ป้าเจ้าของร้านชี้แจงให้ฟังเพิ่มเติม อิงลดาจึงหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างปรึกษา เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าให้จึงเดินไปยังโต๊ะที่ชายชรานั่งอยู่ หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้แล้วเอ่ยถาม “คุณตาเรียกหนูหรือคะ” “ใช่ เอามือมาให้ตาดูหน่อยสิ” เสียงแหบๆ ของแกดังขึ้น เมื่ออิงลดายื่นมือเรียวไปให้ ก็ถูกแกจับหงายขึ้นและจับนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูด “โหงวเฮ้งก็ดี วาสนาก็ดี” พูดพลางชายชราก็จ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาที่ทำให้อิงลดาถึงกับนิ่งงัน “ดวงหนูจะพบเนื้อคู่ในอีกไม่ช้านี้ และเป็นคู่แท้” จากนั้นแกก็จบบทสนทนาเอาดื้อๆ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากร้านไปทันที ปล่อยให้อิงลดานั่งงงพร้อมกับคิดในใจไปอย่างมึนๆ ว่าเรียกเธอมาพูดด้วยเพียงแค่นี้เองหรือ! ป้าเจ้าของร้านซึ่งนั่งอยู่แถวๆ นั้น ถึงกับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเอ่ยเสียงดังออกมา “ตาแสงแกเป็นแบบนี้แหละจ้ะหนู นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป ใครต่อใครมักจะเรียกแกว่า ‘ตาแสงปากพระร่วง’ กันทั้งนั้น เพราะแกเคยเอ่ยปากทักคนแถวนี้ว่าดวงไม่ค่อยดี ให้ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ แต่คนถูกทักไม่ยอมทำตามที่แกบอก ไม่กี่วันต่อมาก็ถูกรถชนตาย จากนั้นมาแกก็เลยไม่ค่อยจะทักใคร แต่จู่ๆ แกมาทักหนูแบบนี้ ป้าว่าเชื่อคำพูดของแกเถอะ” ผู้คนในร้านที่เห็นเหตุการณ์ ต่างก็พากันมากล่าวย้ำกับอิงลดาถึงเรื่องความแม่นยำของตาแสง ทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกสับสนกึ่งลังเลว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่ หลังจากจ่ายเงินค่าก๋วยเตี๋ยวและเดินตามเพื่อนไปขึ้นรถแล้ว ก็ยังอดคลางแคลงใจกับคำพูดเมื่อครู่ไม่ได้ จึงหันไปถามเพื่อน “แกคิดว่าไงหรือนิก แต่ฉันไม่เชื่อหรอกเรื่องคู่แท้อะไรนั่น คนเพิ่งเลิกกับแฟนมาแค่ไม่กี่วันเนี่ยนะจะเจอเนื้อคู่ในไม่ช้านี้ มันเหลือเชื่อเกินไป” อิงลดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเชื่อถือ “แต่ฉันเชื่อว่ะ ในใบเซียมซีก็บอกไว้นี่นา แล้วตาคนนี้ยังมาทักแกอีก เรื่องแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะน้ำอิง” อาชวินที่ใจเอนเอียงไปทางเชื่อเกินครึ่งเอ่ยบอกเพื่อน “ฉันก็ไม่ได้ลบหลู่ เพียงแต่ไม่ได้เชื่อเท่านั้น มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกน่า” “เอาละ ฉันว่าเราอย่ามาเถียงกันตอนนี้เลย รอให้ทุกอย่างมันพิสูจน์ด้วยตัวของมันเองดีกว่า” อาชวินเอ่ยตัดบท ก่อนจะเคลื่อนรถไปข้างหน้าเพื่อกลับกรุงเทพฯ และไม่ลืมแวะซื้อโรตีสายไหมจากหน้าโรงพยาบาลตามที่ป้าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวแนะนำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD