โปรดแค่ไหน...คุณก็ไม่รัก ตอนที่ 8
ทันทีที่ได้รับคำบัญชาจากผู้เป็นย่า เคเซียก็รีบกุลีกุจอกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททันทีพร้อมกับนัดแนะเวลาเรียบร้อย แม้จะอึดอัดใจกับสิ่งที่ผู้เป็นแม่กับหลานสาวเจ้ากี้เจ้าการแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้เอ่ยขัดใจอะไรนอกจากลอบถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะลุกแยกตัวออกไปรับหญิงสาวตามที่คุณแม่และหลานสาวของเขาต้องการ
รถยนต์คันหรูขับมาในจอดในบริเวณรั้วบ้านที่เขาได้เคยมีโอกาสมาเยือนเมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่แล้ว ชายหนุ่มถือผลไม้และขนมไทยหลากหลายชนิดที่คุณหญิงอำภาให้คนจัดใส่กล่องอย่างดีเดินตามเด็กรับใช้ชื่ออ่อนเข้ามานั่งรอในห้องรับแขก รอไม่นานเจ้าของบ้านก็ออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าท่าทีที่เต็มไปด้วยอาการยินดีอย่างชัดเจนจนเขาสัมผัสได้
“สวัสดีค่ะคุณพุฒิภาคย์” คุณนิตย์รดีที่กำลังง่วนอยู่ในครัว เมื่อรู้ว่าแขกที่มาเยือนเป็นใครก็แทบจะวางทุกสิ่งอย่างที่กำลังทำแล้วออกมาต้อนรับทันที
“สวัสดีครับ ของฝากเล็กๆ น้อยๆ ครับ” ทันทีที่ได้ทักทายกันชายหนุ่มก็ยื่นของที่ถือเต็มสองมือส่งให้ทันที
“ขอบคุณมากนะคะ ว่าแต่จะอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันเลยไหมคะ ดิฉันกำลังเตรียมอาหารอยู่พอดี คุณฐากูรคงดีใจไม่น้อยที่จะได้ทานข้าวเย็นด้วยกัน”
“ไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ พอดีวันนี้ผมมารับคุณนาฬิริณทร์ไปทานข้าวเย็นกับที่บ้านของผม คุณอาคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับถ้าผมจะขออนุญาต...”
“อุ้ย...ไม่ว่าเลยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะให้เด็กไปตามให้นะคะ” ได้ยินดังนั้นคุณนิตย์รดีก็รีบกุลีกุจอให้เด็กรับใช้ขึ้นไปตาม รอไม่นานหญิงสาวในชุดกางเกงขายาวสีครีมกับเสื้อแขนกุดคอเต่าสีน้ำตาล อวดวงแขนเรียว ใบหน้าหวานตกแต่งเครื่องสำอางแบบบางๆ ไม่ฉูดฉาดมากนัก ขนตางอนยาวถูกดัดงอนยิ่งขึ้นขับให้ดวงตากลมโตสวยหวานเด่นชัดกว่าทุกครั้ง
ทันทีที่นาฬิริณทร์เข้ามานั่งในรถโดยไม่ได้เอ่ยหรือพูดคุยอะไรกับชายหนุ่มนอกจากก้มหน้าก้มตาที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งๆ ที่มันก็เป็นของง่ายๆ แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงรู้สึกติดขัดไปหมด ดึงเท่าไหร่ก็ไม่หลุดออกจากกันสักทีจนท้ายที่สุด ชายหนุ่มที่นั่งมองอยู่นานแล้วจึงโน้มตัวลงเข้าไปใกล้พร้อมกับดึงสายเข็มขัดเสียบเข้ากับตัวล็อกให้เธอเรียบร้อย ในขณะที่หญิงสาวเมื่อรู้สึกตัวว่าใบหน้าของชายหนุ่มนั้นโน้มมาใกล้กว่าปกติจนเกือบชิด หัวใจก็เต้นสั่นระรัวเมื่อสายตามองไปยังสันจมูกโด่ง กับริมฝีปากหยักหนาได้รูปของเขา ทำให้ภาพ
ใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มใกล้จนชิด ทำให้จู่ๆ หล่อนก็นึกเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในค่ำคืนวันนั้นมันค่อนข้างแจ่มชัด ชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความวาบหวาน รัญจวนให้คิดถึงอยู่บ่อยครั้ง รสชาติที่หวานละมุนลิ้นจนชวนให้ฝันถึงแทบไม่อยากไม่ตื่นมันยังไม่ลืมเลือนไปจากความคิดของเธอ ใบหน้าขาวที่มีสีสันของเครื่องสำอางแต่งแต้มอยู่แดงระเรื่อเด่นชัดขึ้นจนถึงใบหู ริมฝีปากบางขบเม้มกันอย่างไม่รู้ตัวยามเมื่อสบประสานสายตาคู่คมของเขาเข้าพอดี
“เอ่อ....ระ...เราจะไปกันหรือยังคะ” เสียงที่เอ่ยก็สั่นประหม่าจนตัวเองยังนึกตกใจ หัวใจเต้นโครมคราม น่ากลัวว่าจะหลุดออกมาจากอก
“หึหึ ครับ” ริมฝีปากหนายกยิ้มเล็กน้อย นึกเดากิริยาท่าทางของอีกฝ่าย กับท่าทีประหม่าเขินอายเมื่อเขาได้โน้นตัวไปจนใกล้ก็พอทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าหญิงสาวคงกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นอยู่แน่ๆ ถึงได้มีอาการเช่นนี้
“คิดทะลึ่งอยู่ใช่ไหมนาฬิริณทร์”
“คะ!!” หญิงสาวทำตาโต ตั้งท่าจะร้องโวยวายแต่กลับเป็นเสียงหัวเราะของเขาที่ดังขึ้นมาแทน ขบขันกับท่าทีคล้ายกับโดนผีหลอก
นาฬิรินทร์ขอให้พุฒิภาคย์พาเธอแวะซื้อขนมเค้กร้านดังที่กำลังเป็นที่นิยม เพื่อเป็นของฝากติดไม้ติดมือ เมื่อรถขับเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าคฤหาสน์หรูซึ่งเป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับหลังอื่นๆ ที่ปลูกอยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความสนใจทั้งสวนสวย ที่มีบึงบัวขนาดใหญ่ แถมยังมีคลับเฮาส์สำหรับใช้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์ให้ทุกคนในครอบครัวได้มาใช้ร่วมกัน ทั้งเครื่องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ และข้าวของเครื่องใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ทุกอย่างถูกจัดตกแต่งไว้อย่างเหมาะสมสวยงามจนเธอเผลอมองอยู่นาน
“ทำไมที่นี่มีบ้านปลูกติดกันหลายหลังเลยละคะ อย่างกับเป็นโครงการหมู่บ้าน”
“คุณแม่ท่านไม่อยากให้ลูกๆ หลานๆ ท่านไปอยู่ที่อื่น ไหนๆ แต่ละคนก็จะต้องมีบ้านมีครอบครัวเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ซื้อที่แล้วปลูกอยู่ร่วมกันเลยดีกว่า สะดวกเวลาทานข้าวครอบครัวกันด้วย ส่วนนั่นหลังโน้นของผม หลังถัดไปเป็นของยัยเซียล คุณคงไม่เคยมา” เขาชี้ไปยังบ้านหลังขนาดย่อมกว่าคฤหาสน์หลังนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ต่างกันตรงที่การดีไซน์ของตัวบ้านที่ค่อนข้างจะสวยและทันสมัยกว่า แต่ทั้งสองหลังที่เขาพูดถึงก็ขนาดไม่ต่างกัน
“ส่วนหลังอื่นๆ เป็นของพี่ชาย พี่สาวแล้วก็หลานคนอื่นๆ คุณอยากจะไปเดินเล่นมั่ย เดี๋ยวผมจะพาไป”
“ขอบคุณนะคะอาภาคย์” หญิงสาวเพียงยิ้มรับให้
ร่างสูงผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยที่เขาเดินถือกล่องขนมตามไปไม่ห่าง