ตอนที่6-2

1640 Words
พุฒิภาคย์และพร้อมพัชร์แฝดผู้พี่ตามมาสมทบภายหลังพร้อมกับขนมหวานคนรักของเขา มองตามสายตาของน้องชายที่มีสีหน้าเครียดขรึม ภาพที่เห็นคือหลานสาวของเขากับเพื่อนสนิทสองคนกำลังยืนกอดคอกันเต้นสนุกสนานกันอยู่ ในขณะเดียวกันกลับมีชายแปลกหน้ายืนร่วมโต๊ะอยู่ด้วยถึงสามคน “ผู้ชายสามคนนั้นใคร ธีร์นายรู้จักไหม” ธีร์ธามหันไปมองตามผู้เป็นอา ก่อนจะส่ายหน้า “ไม่รู้จักครับ” “คงแขกในร้านทั่วๆ ไปนี่ล่ะ อย่าไปสนใจเลยอา ปล่อยๆ ยัยเซียลไปเถอะ ยังไงก็อยู่ในสายตา” เคลย์ตันเอ่ยขึ้นอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นัก พร้อมกับขยับตัวเข้าไปหาหญิงสาวที่เขาพามานั่งด้วยคลอเคลียใบหน้าเข้าหาลำคอสวยของหญิงสาวหน้าตาดี ปล่อยให้อาทั้งสองคนของเขามองกลุ่มของน้องสาวตนเองด้วยความหวงและเป็นห่วง อย่างไม่ได้อะไรมากนัก นาฬิริณทร์เริ่มทรงตัวไม่ค่อยได้ ยืนเซไปเซมา มองภาพตรงหน้าเป็นภาพซ้อนจนต้องสะบัดหัวไปมา ขยิบตาปริบๆ หวังช่วยขับไล่อาการที่ตนเองเป็นอยู่ รสหวานของค็อกเทลกอปรกับไม่ค่อยได้ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยทำให้เธอมีอาการมึนเมาเร็วกว่าเคเซียและพริบพราวที่ยังคงดูปกติ กอดคอเต้นด้วยกันอย่างสนุกสนาน เหมือนไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ไปเลยสักนิด “ไหวมั่ย ให้พี่พาไปนั่งพักมั่ยครับ” โฬมเอ่ยพลางขยับตัวเข้าหาหมายจะดึงตัวเธอมากอดประคองไว้ไม่ให้ยืนเซไปเซมาอีก แต่ก็ต้องชะงักเพราะถูกร่างสูงใหญ่จากใครคนหนึ่งคว้าตัวเข้าไปประคองเสียก่อน “เห้ยอะไรของคุณเนี่ย” ชายหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจ หมายจะเอาเรื่องชายแปลกหน้าที่มาขวางทางแต่ก็ต้องชะงักเมื่อหันไปสบตาคมดุของอีกฝ่าย “เมามากแล้ว พากันกลับขึ้นไปนั่งข้างบนได้แล้วเคเซีย พริบพราว นาฬิริณทร์” เสียงเข้มดุ ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ท่าทางเคร่งขรึมแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจ เอ่ยกับหลานสาวที่เมื่อครู่ยังคงสนุกสนานอยู่จนไม่ได้ทันสังเกตว่าอาหนุ่มของมาปรากฏกายอยู่ตั้งแต่ตอนไหน “อุ้ยพ่อมา!!!” “กลับขึ้นไปข้างบนเคเซีย” เขาย้ำกับหลานสาวอีกครั้ง พลางสบตากับชายหนุ่มคนตรงหน้าที่เมื่อครู่ดูเหมือนจะสนใจผู้หญิงคนที่เขากำลังประคองกอดอยู่ไม่น้อย “งื้อ ไม่กลับๆ หนูยังสนุกอยู่เลย” คนเมาเริ่มดิ้นไปมาพยายามจะผละตัวออกห่าง แต่ถูกแขนแกร่งดึงกลับมากอดไว้แน่น “ขึ้นไปเต้นข้างบน” เขาสั่งเสียงเรียบ แต่ดูเหมือนคนเมาก็คือเมา ยังคงต่อต้านด้วยการผลักเขาออกห่างจากตัว จนเขาอดรนทนไม่ไหวคว้าตัวขึ้นมาพาดบ่าเดินกลับไปขึ้นไปยังชั้นสองโซนวีไอพีทันทีไม่สนใจเสียงหวีดร้องโวยวายของเจ้าหล่อนที่เอาแต่ตะโกนโหวกเหวกตลอดทางโดยมีหลานสาวกับเพื่อนเดินหน้างอตามมาติดๆ พุฒิภาคย์วางหญิงสาวขี้เมาลงบนโซฟาค่อนข้างแรงแทบจะกลายเป็นโยนลงด้วยซ้ำจนหล่อนถึงกับนิ่วหน้า เขาโยนเสื้อสูทที่สวมอยู่ก่อนหน้าคลุมทับช่วงขา เดรสกระโปรงสั้นที่เจ้าหล่อนใส่ล่อหน้าล่อตาใครต่อใคร รวมทั้งตัวเขาด้วย ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ปล่อยให้ร่างเล็กที่ทำตัวอ่อนเลื่อยตัวเข้ามาอิงซบกับอกของเขา “เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย” ธีร์ธามกระซิบกับเคลย์ตัน คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงอดขำขันกับเห็นท่าทางของผู้เป็นอาไม่ได้ “หึ สงสัยคนนี้อาภาคย์จะจองว่ะ หวงใช้ได้” เคลย์ตันกระซิบตอบกลับ “หน้ามุ่ยทำไมเซียล” เคลย์ตันมาถามคนเป็นน้องที่มานั่งกอดอกอยู่ข้างๆ ใบหน้าบูดบึ้งไม่พอใจชัดเจน “อาภาคย์ทำเกินไป คนกำลังสนุกอยู่ๆ ก็ไปลากพวกหนูขึ้นมา” “ก็เพื่อนเราเมาขนาดนั้น แถมมีผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาเกาะแกะ อาภาคย์ทำถูกแล้ว” เคเซียฟังแล้วย่นจมูกใส่ ก่อนจะถามหาคิรินญาติผู้พี่อีกคนของเธอ ตั้งแต่มายังไม่เห็นตัวคนเป็นเจ้าของร้าน “สงสัยคิรินจะติดงาน เมื่อกี้โทรไปไม่ยอมรับสาย” “เห็นว่ามีส่งของล็อตใหญ่ มันเลยต้องไปดูด้วยตัวเอง” ธีร์ธามบอกเสียงเรียบตามที่รู้มา ก่อนที่พี่ชายทั้งสองคนจะหันไปหาอาทั้งสอง พูดคุยด้วยเรื่องทั่วๆ ไปก่อนที่จะวกกลับมาคุยเรื่องงานซึ่งเป็นธุรกิจกับการลักลอบค้าอาวุธที่ทั้งสามและพร้อมพัชร์รวมทั้งคิรินร่วมหุ้นด้วยกัน เป็นความลับที่ไม่ให้ผู้ใหญ่ในครอบครัวรับรู้ “เบาๆ หน่อยเซียล เดี๋ยวเมาแล้วพี่ไม่ไปส่งนะ ปล่อยให้นอนเรื้อนอยู่นี่แล้วอย่ามาโกรธพี่ล่ะ” เคลย์ตันหันมาเห็นน้องสาวที่ยกกระดกแก้วค็อกเทลที่พนักงานเพิ่งนำมาเสิร์ฟเพิ่มจนหมดแก้วจึงร้องเตือน พลางส่ายหน้าไปมาทั้งระอาแกมเอ็นดูในคราวเดียวกัน “ชิใครง้อตัวล่ะ เรียกคนขับรถมารับก็ได้” “อ้าว แล้วจะทิ้งเพื่อนให้กลับเองหรือไง” “เพื่อนคนไหนล่ะ ถ้ายายพราวเขามีคนขับรถมารับอยู่แล้ว ส่วนยายเฟย์ เซียลจะให้เพื่อนกลับกับอาภาคย์ต่างหาก” เคเซียพูดจบก็แอบขยิบตาส่งให้พี่ชายด้วยหน้าตาแสนเจ้าเล่ห์ หล่อนมีแผนการไว้ในใจหมดแล้วและดูเหมือนคนเป็นพี่ก็พอเดาความคิดน้องสาวออก จึงหันมาเย้าคนเป็นอาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “อ้าว อาภาคย์รับจบหรอครับ” เคลย์ตันได้ยินแบบนั้นจึงหันมาสัพยอกผู้เป็นอาทันที โดยผู้เป็นอาเพียงแค่ยิ้มแล้วหยิบยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มโดยไม่ได้พูดหรือตอบรับอะไรออกมา ชายหนุ่มทั้งสี่คนยังคงนั่งดื่มกิน พูดคุยกันในเรื่องสัพเพเหระทั่วๆ ไป โต๊ะที่นั่งซึ่งเป็นโซฟายาวทำให้แบ่งโซนชายหญิงได้ชัดเจนมากขึ้น เคเซียหันมองนาฬิริณทร์ที่กำลังอยู่ในอาการสะลึมสะลือ ซบไหล่เกาะแขนอาพุฒิภาคย์ของเธอไม่ยอมปล่อย รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้าอย่างเจ้าเล่ห์ “อาภาคย์คะ” “หื้อ มีอะไร” ผู้เป็นอาหันมาหาหลานสาว เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม “เพื่อนหนูสวยมั่ย” “อืม” เขาตอบรับเสียงเบา ใบหน้ากลับมาเรียบเฉยไม่แสดงสีหน้าบ่งบอกให้รู้ถึงความคิดให้อีกฝ่ายรู้ “โสดแล้วด้วยน๊า” “แต่ขี้เมา” เคเซียจิ๊ปากใส่ผู้เป็นอาอย่างขัดใจ ก่อนจะหันไปชวนพริบและพราวขนมหวานซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธออีกคนเช่นกัน ที่ตอนนี้มีสถานะกลายเป็นคนรักของอาพร้อมพัชร์เป็นที่เรียบร้อย พุฒิภาคย์มองหลานสาวที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกกับเพื่อนและคนรักของพี่ชาย ก่อนจะเลื่อนสายตามามองสาวข้างกายที่นั่งกอดแขนเขาแน่น ซบใบหน้าคลอเคลียอยู่กับต้นแขนของเขา ผิวขาวๆ ของร่างเล็กแดงซ่านไปทั้งตัวด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ “กินน้ำเยอะๆ จะได้สร่าง” เขายื่นแก้วน้ำเปล่าส่งให้เธอซึ่งรับไปอย่างว่าง่ายแต่กลับถือไว้เฉยๆ ไม่ยอมยกขึ้นดื่ม จนเขาต้องเป็นคนจับแก้วยกขึ้นถึงปากป้อนให้เธอดื่มด้วยตนเอง “งื้อ....” หล่อนส่งเสียงในลำคอ ต่อต้านเขาเล็กน้อยแต่ก็ยอมดื่มน้ำที่เขาป้อนถึงปาก จนเกือบหมดแก้ว “จะไปไหน” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม เมื่อเห็นหญิงสาวผุดลุกขึ้น ทั้งๆ ที่ยังยืนเฉยๆ ก็ยังยืนแทบไม่อยู่ ยังคิดที่จะเดินไปไหนต่อไหนอีก “ปาย....ห้องน้ามม” “เดินไหวหรือไง” เขาถามเสียงห้วนจัด รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เคเซียซึ่งหันมาเห็นเพื่อนและได้ยินว่าอีกฝ่ายบอกว่าจะไปห้องน้ำ ก็อาสาจะเข้ามาช่วยพยุงเพื่อน หวังจะเป็นคนพาไปเพื่อนไปด้วยตนเอง “เดี๋ยวอาพาไปดีกว่า เราอยู่นี่แหละ” ร่างสูงขยับลุกยืน ประคองร่างบางที่ตัวอ่อนปวกเปียกจนทิ้งน้ำหนักศีรษะพิงแผ่นอกกว้างของเขาแทบจะทันที มือทั้งสองกอดรัดเอวสอบของเขาแน่น “งั้นเซียลฝากด้วยนะคะ” “อาว่า เดี๋ยวพากลับเลยดีกว่า เมามากล่ะ” เขาประเมินจากสายตาเห็นว่าหญิงสาวเริ่มจะนั่งต่อดื่มต่อไม่ไหวแล้วเพราะแทบจะไม่รู้สึกตัว ไม่มีสติด้วยซ้ำ “จะเอาอย่างนั้นหรอคะ งั้นเซียลฝากเพื่อนด้วยนะคะอาภาคย์” เคเซียยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ที่ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางอย่างที่เธอต้องการพอดิบพอดีราวกับถูกจับวาง ในเมื่อเพื่อนเธอก็โสดแล้ว อาของเธอก็โสดเช่นกัน มิหนำซ้ำทั้งคู่ก็ยังลึกซึ้งกระโดดข้ามขั้นตอนไปแล้วเรียบร้อย ยุส่งให้คบหากันไปเลยก็มีแต่ดีกับดี ทั้งหน้าตาและฐานะทางสังคมก็ไม่ได้ห่างกันถึงแม้อายุจะต่างกันมากสักหน่อย แต่คู่ของอาพร้อมพัชร์กับขนมหวานเพื่อนสนิทของเธอก็พอจะตอบได้แล้วว่าอายุไม่ใช่อุปสรรค หากใจคนเราจะรักกันก็ไม่มีอะไรสิ่งใดมาขวางกั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD