@เชียงใหม่ประเทศไทย
“พักพิง ขวยแล้วหนา ตื่นได้แล้วหล่า”
น้ำเสียงหวานของหญิงสาววัยกลางคนเอ่ยเรียกลูกสาวของเธอในยามเช้าตรู่ น้ำผิง ภรรยาสาวของพ่อเลี้ยงอัสนีย์
ผู้มีอิทธิพลในย่านนี้ เหล่าบรรดาคนในไร่ยกให้เขาเป็นคนที่มีบุญคุณเป็นอย่างมาก
พักพิงในวัย21ปี เธอเดินย่างกายลงมาจากบนบ้านด้วยความสง่า ใบหน้าจิ้มลิ้ม จมูกสันคมปลายเชิด ผมดำขลับตัดกับสีผิวอันขาวผ่องเป็นยองใย ทำให้เธอเป็นที่หมายปองในหมู่ชายเป็นอย่างมาก รวมถึง ทัศไนย ลูกชายคนเดียวของอัสนี หรือ พ่อเลี้ยงของเธอ
น้ำผิง แม่ของพักพิง เธอแต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยงอัสนีเนื่องจากอัสนีนั้นไปเจอเธอที่ตลาดและดันถูกใจแม่หม้ายสาวคนนี้ จึงจับตัวเธอมาและให้น้ำผิงมาเป็นนางบำเรอ ก่อนจะบังคับให้เธอนั้นแต่งงานและย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน โดยพ่อเลี้ยงนั้นให้ข้อเสนอว่าจะส่งเสียพักพิงทุกอย่าง น้ำผิงไม่มีทางเลือกจึงตัดสินใจแต่งงานใหม่อีกครั้ง
“วันนี้บ่มีเฮียนหรือจะได “
น้ำผิงเอ่ยถามคนเป็นลูกเมื่อเห็นว่าพักพิงเดินย่างกายลงมาจากบ้าน
“พิงไปละเน้อ “
พักพิงเอ่ยตอบคนเป็นแม่ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าทันมัน เมื่อรู้สึกถึงการถูกจ้องมองอยู่ ทัศไนย มองหญิงสาวด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม ราวกับจะกลืนกินเธอเสียให้ได้ พักพิงเดินออกจากบ้านทันที ก่อนทัศไนยจะวิ่งตามเธอออกมา
“ไปด้วยกัน พี่จะไปมหาลัยพอดี “
ทัศไนยวิ่งมาจับมือหญิงสาว ก่อนที่พักพิงจะสะบัดมือออกทันที ตลอดระยะเวลาสองปีที่แม่เธอแต่งงานใหม่ พักพิงใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงในทุกๆ วัน
น้ำผิงยืนมองลูกสาวและลูกเลี้ยงด้วยความเป็นห่วง ไม่ใช่ว่าเธอดูไม่ออกว่าทัศไนยต้องการอะไรจากลูกสาวของเธอ นิสัยของเขานั้นไม่ต่างจากพ่อเลี้ยงอัสนีย์แม้แต่น้อย
“ทำอะไร “
เสียงของชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยขึ้น ก่อนที่น้ำผิงจะสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ พ่อเลี้ยงอัสนีเดินย่างกายลงมาด้วยท่าทีอิดโรย เนื่องจากเมื่อคืนเขานั้นได้พาเด็กในไร่มาร่วมรักกันถึงสองคน
“บ่มีหยังจ้าว ผิงแค่มาส่งพักพิงไปเฮียน “
น้ำผิงตอบพ่อเลี้ยงขึ้น ก่อนจะก้มหน้า เธอไม่อยากเห็นร่องรอยการร่วมรักของสามีกับหญิงอื่น แค่รับรู้ว่าเขานั้นพาหญิงอื่นเข้ามาในบ้าน ก็ช้ำใจมากพออยู่แล้ว แต่ไม่กล้าเรียกร้องอะไรออกไป
"ป้อเลี้ยงจะฮับอะหยังดีจ้าว”
พ่อเลี้ยงอัสนีมองภรรยาสาวด้วยแววตาโกรธเคือง ทั้งที่เขาตั้งใจให้เธอเห็นรอยพวกนี้ แต่เธอกลับไม่แสดงท่าทีว่าหึงหวงเขาแม้แต่น้อย อัสนีคิดว่าทั้งใจของน้ำพิง คงมีแต่อดีตคนรักของเธอ แต่หารู้ไม่ทักการกระทำนั้น น้ำผิงต้องทนอยู่กับความเสียใจแค่ไหน กว่าจะก้าวผ่านไปได้ในแต่ละวัน คำถามของน้ำผิงไรซึ่งคำตอบของชายหนุ่ม อัสนีพุ่งเข้ามากระชากแขนของเธอทันที
“ทั้งที่ฉันทำขนาดนี้ เธอยังนิ่งเฉยอยู่ได้ ในใจของเธอ ไม่เคยมีฉันเลยสินะ”
อัสนีเอ่ยขึ้น ก่อนจะทุ่มหญิงสาวลงบนโซฟากลางบ้าน
“กรี๊ดดด....!!
เสียงน้ำผิงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อชายหนุ่มฉกริมฝีปากขบเม้มเข้าที่ซอกคอของภรรยา
“ฮือ ปล่อยผิงเตอะจ้าว ผิงเจ็บ “
น้ำผิงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่พักพิง และทัศไนยจะวิ่งเข้ามาในบ้านทันที
“พ่อเลี้ยง!! ปล่อยแม่พิงเดี๋ยวนี้นะ “
พักพิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นว่าแม่ของเธอร่ำไห้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยขบเม้ม อัสนีค่อยๆ ยัดกายลุกขึ้น
“หรือเธอจะมานอนใต้ร่างฉันแทนละ “
อัสนีเอ่ยขี้นก่อนจะเดินย่างกายเข้าไปหาเด็กสาว แต่ก็ถูกน้ำผิงกระชากแขนไว้เสียก่อน
“พ่อ “
เสียงทัศไนยเอ่ยขึ้น เขารู้ว่าพ่อเขาเป็นคนยังไง แต่คนนี้ เขาเองก็หมายปองไว้เหมือนกัน
พ่อเลี้ยงอัสนีเพียงใช้พักพิงข่มขู่เพื่อให้น้ำผิงนั้นอยู่ที่นี่กับเขาก็เท่านั้น เขาไม่ได้พิศวาสอะไรลูกเลี้ยงคนนี้เลยแม้แต่น้อย
“พิงไปเฮียนเตอะเน้อ แม่บ่ยะหยังดอก บ่ต้องห่วง “
น้ำผิงเอ่ยขึ้น ก่อนจะมองหน้าลูกสาว เพื่อให้เธอนั้นยอมออกไป
˚◡̈??⛄️‧₊˚*
พักพิงมันเลือดนักสู้ค่ะท่านผู้ชม ฝากติดตามน้องพักพิงด้วยนะคะ น้องได้เวลาเดบิ้วแล้ว
♡̆̈ ???✧˖*°
กดหัวใจ + คอมเม้นท์ หนัก ๆ เพื่อจะได้อ่านฟรีกันยาว ๆ เริ่มเลอ