“ควีนอยากเลิกกับมันเพราะอะไรวะ ไอ้โจชัวมันไม่ดีตรงไหน...กูว่ามันก็ดีทุกอย่างเลยนะ”
พริกแกงถามเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกัน ด้วยความไม่เข้าใจ ว่าสามีควีนที่นอกจากจะมีใบหน้าอันหล่อเหลา สูงหนึ่งร้อยแปดสิบ หุ่นฟิตแน่น
กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่ไม่ได้ใหญ่โตถึงขนาดเหมือนพวกนักเพาะกล้าม เรียกได้ว่าสูงยาวเข่าดี
ยังทำงานมีหน้ามีตาเป็นสส.ผู้มีอิทธิพล และมีธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง กินใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด
หลังควีนเพื่อนของเธอแต่งงานกับโจชัว วันๆ หนึ่งควีนไม่ต้องทำอะไร แต่งตัวสวยๆ รอสามีเลิกงาน กลับมาพาไปกินข้าว อยากไปไหนก็ได้ไป
อยากได้รถกี่คัน สามีก็จัดให้ สามีที่สมบูรณ์แบบจนหาตัวจับได้ยากเช่นนี้ มันไม่ดีตรงไหนวะ
พริกไม่เข้าใจเพื่อนเลยจริงๆ
“พริก กูก็เบื่อเป็นไหม”
“เออ ลืมไปว่ามึงมันสวยเลือกได้”
พริกว่าเพื่อนยิ้มๆ ไม่ได้จริงจัง ควีนไม่ใช่แค่หน้าตาดี เก่งฉลาด แต่ฐานะทางบ้านยังร่ำรวย
เช่นนี้คงไม่แปลกถ้าควีนจะไม่เสียดายเขา
“อย่าเลิกกันเลยนะ สงสารมันว่ะ พวกมึงคบกันมาตั้งเจ็ดปีแล้วนี่ ใช่ปะ น่าจะมีตัวเล็กได้...”
แล้วนะ ชีวิตคู่จะได้มีสีสันขึ้น...พริกอ้าปากพะงาบๆ เพราะเพื่อนแทรกด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่ได้รู้สึกเสียใจกับการเลิกรากับความรักครั้งนี้
“กูตัดสินใจแล้ว”
“เร็วจังวะ” พริกรู้สึกเศร้าแทน เพราะเห็นใจทั้งเพื่อนและโจชัว “ลองคิดดูดีๆ อีกครั้งเถอะนะ”
“มึง” ควีนเอ่ย
“หืม?”
“สนใจรับช่วงต่อจากกูปะล่ะ?”
“ควีน!! จะบ้าเหรอ!”
..
.
“พริกให้พี่ไปส่งไหมจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ขอบคุณนะจ๊ะพี่โย แต่พอดีวันนี้ พริกนัดกินหมูกระทะที่บ้านเพื่อนนะจ๊ะ”
พริกเป็นผู้หญิงหน้าตาดีที่มีนิสัยห้าวหาญ หนักแน่นเหมือนพวกผู้ชายเพราะโตในครอบครัวที่มีแต่ผู้ชาย พี่ทั้งสี่เป็นชาย ลูกพี่ลูกน้องก็ด้วย
ทว่าเวลาอยู่ในที่ทำงาน เธอเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน เรียบร้อย พูดน้อยและพูดเพราะมาก
ถ้าไม่สนิทกันจริงๆ คงไม่รู้ว่างานอดิเรกของพริกคือการตกปลา เตะบอล และเคยแข่งตะกร้อ
พวกรถแข่งเธอก็ชอบนะ ครั้งหนึ่งยังเคยคิดว่าจะออกรถบิ๊กไบค์ แต่มันเป็นรถเห็นแก่ตัว
บรรทุกของและพาพ่อแม่ไปไหนไม่ได้ เธอเลยต้องหักห้ามใจตนเอง อดทนเก็บเงินอีกหน่อย เพื่อเอาไปออกรถใหญ่ ที่บรรทุกคนได้ทั้งบ้าน
“บ้านเพื่อนของพริกอยู่ไหนรึ?”
“อยู่ชานเมืองนนท์จ้ะ”
“งั้นก็ไม่ไกลนี่ พี่ไปส่งได้ ให้พี่ไป...”
“ไม่ต้อง!” เสียงทุ้มน่าเกรงขาม ทำพริกซึ่งมีท่าทีลำบากใจ และเพื่อนร่วมงานที่จะไปส่งให้ได้ชะงัก ทอดมองไปทางเดียวกันตรงริมฟุตบาท
รถบิ๊กไบค์ 1000cC จอดอยู่ตรงหน้า คนขับสวมแจ็กเกตสีน้ำตาลที่มองด้วยตาก็รู้ว่าแพง
“พริกมานี่” คนขับกระดิกสองนิ้วที่เรียวยาวสวย เรียกให้ไปใกล้อย่างเป็นกันเอง พริกฉงนแต่ด้วยความที่อยากรีบสลัดเพื่อนร่วมงานคนนี้
เธอเลยเดินไปขึ้นซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์ของโจชัว สามีของควีน ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
“สัตว์เอ๊ย มอไซค์กูแม่งดูโลโซไปเลยว่ะ”
เพื่อนร่วมงานบ่นพึมพำ ทว่าหน้าแสร้งยิ้มส่งให้สาวที่ตนหมายปอง พริกไม่ได้ยินที่อีกคนพูด
เพราะมัวแต่เถียงกับสามีเพื่อนเรื่องหมวกกันน็อก โจชัวจะให้เธอใส่ แต่ให้ตายเธอก็ไม่เอา
“เดี๋ยวผมยุ่ง”
“ฮึ ไม่ใส่สิ จะยุ่งหนักกว่าเดิม”
พริกขมวดคิ้วมุ่น “นายใส่น่ะดีแล้ว”
“ลงไป!” โจชัวเอ่ยเสียงดุ
พริกรีบทำตาม เดิมทีก็ไม่อยากรบกวนโจชัวอยู่แล้ว “เจอกันที่บ้านนะ ขับรถดีๆ ล่ะ” แขนเรียวเล็กของพริกถูกรั้งเข้าไปหาร่างหนา ไม่ทันถาม
โจชัวก็สวมหมวกกันน็อกให้ แล้วสั่งให้พริกกลับมานั่งดังเดิม...คนอะไรเดาใจยากชะมัด!
“กอดแน่นๆ”
“ว่าไรนะ ไม่ได้ยิน”
พริกจะเปิดกระจกหมวกกันน็อก แต่โจชัวใช้มือหนารั้งมันลง แล้วรวบแขนเธอมาโอบเอว
“เดี๋ยวไปกับกูที่หนึ่งก่อน”
“ไม่ได้ยิน”
“เชี่ย!”
โจชัวก็แบบนี้ หยาบคายกับเธอฉิบหาย
เขาขับรถแล่นไปในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยรถรา และในเวลาเลิกงานเช่นนี้ รถโคตรติด
พริกกอดเอวหนาแน่นอย่างไม่มีทางเลือก เธอหงุดหงิดมากที่แค่ยกมือเกาคอ โจชัวก็จะดึงแขนให้กลับไปกอดไว้เหมือนเดิม
เธอเลยรัดเขาแน่นๆ เพื่อแก้แค้น ทว่าโจชัวกลับไม่บ่นสักคำ กระทั่งรถมาจอดที่ห้างแห่งหนึ่ง
เขาสวมหมวกเบสบอลก่อนดึงหมวกกันน็อกไปถือ สืบเท้าเข้าประตูที่เชื่อมกับซูเปอร์มาร์เก็ต
พริกคิดว่าเขามาซื้อของไปทำหมูกระทะ แต่ดูไปดูมา อีกฝ่ายเหมือนกำลังหาใครคนหนึ่ง
พริกกวาดตามองทั่วด้วยความไม่เข้าใจ ในขณะกำลังคิด จู่ๆ คนที่เดินนำพลันหยุด จมูกโด่งเล็กๆ จึงปะทะกับแผ่นหลังกำยำเต็มแรงรัก
“โอ๊ย!”
“พริก ดูโน่นดิ”
“...” พริกชะโงกหน้าออกจากหลังกำยำ แล้วนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก็ขยายโต สั่นระริกเชื่องช้า
“กูฆ่าไอ้เหี้ยนั่นดีปะ”
“ยะอย่านะ” พริกเห็นว่าคนที่กำลังเดินจูงมือ คุยอะไรกันไม่รู้ ดูกะหนุงกะหนิง มีความสุข กำลังหันมาทางนี้ จึงดึงโจชัวเข้าไปในโซนเครื่องดื่ม
“มึงรู้ใช่ไหม?”
“หื้อ??”
“...”
คนหล่อที่สูงตั้งหนึ่งร้อยแปดสิบหลุบตามองโครงหน้าเรียวรูปไข่ ด้วยความเกรี้ยวกราด
น่ากลัวจนพริกขนตั้งชัน แต่ก็ส่ายหน้ารัวเร็ว พริกไม่รู้จริงๆ ว่าเพื่อนแอบซ่อนใครไว้
แต่คนนั้นมันก็ดันเป็นเพื่อนในกลุ่มแก๊งเธอที่ชอบไปกลางเต็นท์ ตกปลา เล่นน้ำด้วยกันตลอด
“มะ ไม่รู้เลยนะ ควีนไม่เคยบอกเรื่องนี้”
“แล้วไป...รออยู่นี่นะ กูจะไปจัดการมัน”
“หื้อ อย่าคิดไรตื้นๆ ดิวะ บางทีพวกมันอาจแค่บังเอิญเจอกันที่นี่ก็ได้นะ” พริกรั้งโจชัว ซึ่งเธอแทบจะกอดเขาไว้ เพราะแรงของเขาเยอะมาก
“แค่เจอกันเหรอ?” โจชัวขำในลำคอ
“มันบอกกูว่าจะไปซื้อของสดไปทำไรกินกับมึง...แต่ต้องถ่อมาใกล้ที่ทำงานไอ้เชี่ยนั่นเลย?”
“...” พริกพูดไม่ออก แม้นนท์กับกรุงเทพฯ จะอยู่ใกล้กัน แต่ควีนก็ไม่จำเป็นต้องมาถึงที่นี่
“ปะ ปล่อยมันไปสักครั้งเถอะนะ”
“ถ้าแฟนมึงอยู่กับคนอื่น มึงก็จะปล่อยเหรอ”
“...” พริกชะงัก เห็นแบบนี้ใครจะไปยอม
“นายแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสักครั้งเถอะนะ แล้วเดี๋ยวเราจะสืบเรื่องนี้ให้เอง...นะนะโจชัว!”
“...ครั้งเดียวนะ” โจชัวขบกรามแน่น
ก่อนนำคนขาสั้นกลับไปที่รถ พอไปถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน เขาบันดาลโทสะ โดยลากพริกมายืนตรงหน้า บีบคางมน ให้เชิดหน้าสบตากัน
“แน่ใจนะว่าไม่รู้เรื่องนี้”
“อือ เราไม่รู้จริงๆ” พริกพูดเสียงอู้อี้ เธอรู้ว่าควีนอยากเลิกกับโจชัว แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าควีนกำลังแอบดูใจกับใครอยู่ โจชัวมองเธออย่างไม่เชื่อ
พริกเข้าใจแหละ เนื่องจากเวลาควีนมีปัญหาอะไรหรือทะเลาะกับโจชัว ควีนจะบอกเธอตลอด
“ระ เรา อุ๊ปส์ อือ...อื้ออ” พริกพยายามสะบัดหน้าหนี ริมฝีปากหนาที่กดลงมาขบเม้มกลีบปาก
แล้วแทรกลิ้นตวัดไล่ต้อนลิ้นของเธอเนิบช้า ก่อนดูดรุนแรงจนเจ็บมุมปากจวนหายใจติดขัด
“แฮ่ก...แฮ่ก...บ้าไปแล้วเหรอ”
“เฮอะ เซ็งเว้ย!”
โจชัวเท้าเอว เตะฝุ่นอย่างหงุดหงิด “กูรู้ว่ามึงน่ะ รู้ว่ามันอยากเลิกกับกู...โทษฐานที่ไม่บอกกู”
“คืนนี้เตรียมใจรับบทลงโทษได้เลย”
.
.
“เอาของเธอมาบดบนหน้าฉัน”