“ฮึก ฮืออ”
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะข้าวฟ่าง”
“จะ จันทร์เจ้าไม่ให้ตุ๊กตาข้าวฟ่างเล่น ฮืออ แง่...” ข้าวฟ่างเด็กสาววัยห้าขวบร้องไห้จ๋า จันทร์เจ้าพี่วัยแปดขวบส่งตุ๊กตาบาร์บี้ที่แม่ซื้อให้ให้เธอ
ทว่าข้าวฟ่างก็ไม่หยุดร้อง แม้ว่าเด็กชายที่อายุเท่ากับพี่สาวของเธอ ซึ่งอยู่บ้านข้างๆ จะโอบกอดประโลมเธออย่างเอ็นดูราวของรักของหวง
เสียงร้องของเธอดังเข้าไปในห้องครัว แม่ที่ยังสาวยังสวย เดินหน้าดุออกมามองลูกเชิงถาม
“น่ะ หนู...” จันทร์เจ้าชะงัก เพราะเอ่ยเพียงเท่านี้ แม่ใจดีก็กลายเป็นนางยักษ์ตวาดลั่น
“แบ่งให้น้องเล่นหน่อยไม่ได้เหรอห้ะ?”
“นี่น้องแท้ๆ ของเธอเลยนะ ทีกับเพื่อน...” แม่บ่นอ**บลาๆ ทำจันทร์เจ้าหน้าหงอย
“...” เธอไม่โต้ พลางคิดว่านานๆ ทีจะมีของเล่นสักชิ้น ให้เธอกอดมันนานกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง ซึ่งใจจริงของเธอไม่ได้หวงสักนิด
แต่ของน้องมีเยอะกว่าเธอตั้งแยะ อีกอย่างเวลาที่เธออยากได้อยากกินอะไร แม่ก็จะบอกว่าให้เสียสละให้น้อง เธอก็ยอมมาโดยตลอด
แต่วันนี้ไม่ยอม มันผิดมากเลยรึ?
“จันทร์เจ้าขี้หวง ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่กายจะซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ที่สวยกว่านี้มาให้เยอะๆ เลย”
กายลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของกำนันไม่ได้พูดเล่น วันต่อมาเขาก็ซื้อของมาให้น้องเธอจริงๆ
..
.
“มึงกายมันติดฟุตบอลทีมชาติด้วยอะ”
“แล้วไง” จันทร์เจ้าวาดโครงร่างผู้ชายกำยำ ปากเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย ไม่สนใจที่เพื่อนสนิทพูด
“แต่เสียดาย มันปฏิเสธโค้ช โดยให้เหตุผลว่าจะไปสมัครเป็นหน่วยซีล” เพื่อนยังคงพูดต่อ
“อืม” จันทร์พยักหน้าหงึกๆ ไม่ใส่ใจ
“คนที่มีฐานครอบครัวดี นี่ดีเนอะ มีอิสระ คิดอยากทำไรก็ทำ...แต่กูว่ามันเหมาะไปเป็นดารา”
“อือ” จันทร์เจ้าขานรับส่งๆ
“เพราะแม่งโคตรของโคตรหล่อ”
“...”
“บางครั้งก็เหมือนพวกมาเฟีย บางทีก็เหมือนคุณหมอที่สุขุมลุ่มลึก และทะเล้นแบบคนเจ้าชู้”
“อันหลังจริง!”
จันทร์เจ้ายิ้มน้อยๆ เธอกับกาย สมัยประถม มัธยมเรียนห้องเดียวกัน จึงรู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ
กายเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น แต่ผู้ชายที่เย็นชา เยือกเย็นคนนั้นไม่ได้ไร้หัวใจอย่างที่ใครคิด
“แล้วมึงชอบมันไปได้ไงวะ?”
“...” จันทร์เจ้าชะงัก ตอนนี้ภาพที่เธอวาดเริ่มเห็นหน้าอันหล่อเหลาของใครคนหนึ่งชัดเจนขึ้น
“ก็แค่ชอบ”
“พะ พี่ชอบพี่กายเหรอ” ข้าวฟ่างที่ตั้งใจเข้ามาป่วนพี่สาวยืนอึ้งอยู่หน้าประตูห้องนอนพี่
จันทร์เจ้ารีบโบกมือเป็นพันวัน โต้ตอบเสียงตะกุกตะกัก ฟังไม่รู้เรื่อง “ปะ เปล่า ไม่ได้ชอบ”
“ไม่จริง ถ้าไม่ชอบพี่จะวาดรูปพี่กายทำไม”
ข้าวฟ่างยื่นหน้าเข้าไปใกล้ภาพวาด ทว่าไม่นานจันทร์เจ้าก็ดึงภาพนั้นมากอดไว้แน่น
“หะ ห้ามบอกเขานะ” การชอบใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องผิด และถ้าได้พูดออกไปคงมีความสุข
แต่จันทร์เจ้าพูดไม่ได้หรอก เพราะรู้เต็มอกว่ากายชอบใคร และเขาเกลียดเธอแค่ไหน
ไม่ต้องสารภาพ ก็รู้คำตอบแล้ว แต่ก็โชคดีที่ในใจข้าวฟ่างไม่มีเขาคนนั้นอยู่ ไม่งั้นคงรู้สึกผิด
ผิดที่แย่งแฟนของน้องมาเป็นของตนเอง
“ช็อกโกแลตจากเบลเยียมกินเยอะๆ เลยนะครับ” หนุ่มรูปงามส่งกล่องช็อกโกแลตที่ดูแล้วคงหลายตังค์มาให้จันทร์เจ้า ก่อนถือวิสาสะลูบท้อง
“เฮ้ย ลูกมึงถีบมือกูด้วยว่ะ”
“...” จันทร์เจ้ายิ้มหวาน เพราะการที่ทารกในท้องขยับคล้ายปลาตอด เธอรับรู้ดียิ่งกว่าใคร
“กี่เดือนแล้วนะ” เพื่อนสามีถาม
“หกเดือนแล้วค่ะ”
“อีกไม่กี่เดือนก็จะได้เจอกันแล้วนี่ ดีใจไหมมึง” เพื่อนสามีที่เพิ่งกลับจากนอก หันไปถามกายที่นั่งหน้านิ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ภายในสวนหลังบ้าน
“...” กายไม่ตอบ แต่ถอนหายใจ เพื่อนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศขุ่นมัว จึงเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น
“ไปน้ำตกอาทิตย์หน้า เมียมึงไปด้วยปะ”
“...” จันทร์เจ้าหันมองเพื่อนสามี เพราะไม่รู้เลยว่าสามีจะออกทริปกับกลุ่มเพื่อน
“เมียกูที่ไหนล่ะ” กายตอบอย่างไม่แยแส
“คนที่เป็นเมียกูจริงๆ น่ะ หนีไปแล้ว”
“อา...จันทร์เดี๋ยวกูสอนวิธีกินช็อกโกแลตนะ นี่ มันต้องอมไว้ ถึงจะสัมผัสได้ถึงรสชาติของมัน”
เพื่อนสามีรีบเปลี่ยนเรื่องคุย จันทร์เจ้าก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ วันนี้เป็นวันเกิดของกาย เพื่อนสนิทของฝ่ายนั้นอยู่ที่นี่เยอะ เธอเองก็อายเหมือนกัน
ไม่นานจึงขอตัวเข้าไปพักผ่อนในบ้าน ทว่าสามีในนาม ไม่สิ เขาเป็นสามีของน้องสาวเธอ ซึ่งกายกับข้าวฟ่างแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว
ในวันนั้นจันทร์เจ้าที่พยายามไม่คิดอะไร ดื่มไปอย่างหนัก แล้วมาโผล่ในห้องหอน้องได้ยังไง
เธอไม่รู้เลย รู้แค่ว่าส่วนล่างปวดหนึบ ความบริสุทธิ์ของเธอถูกเขาพรากไป แต่ถ้าเกิดว่าข้าวฟ่างไม่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยซะก่อน
คนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาตอนนี้ คงไม่ใช่เธอ เพราะเธอที่โดนเพียงครั้งเดียวก็ตั้งครรภ์ คงแอบไปคลอดลูกของสามีน้องเงียบๆ ที่ไหนสักแห่ง
“อยากมากเลยรึไง”
“หะ หือ?” จันทร์เจ้าสะดุ้งโหยง เธอที่อยู่ในชุดคลุมท้องลายดอกไม้หันหาคนตัวสูงด้านหลัง
“กูถามทำไมไม่ตอบวะ”
“ระ เราไม่เข้าใจอะ”
“ฮึ” กายยิ้มมุมปาก
“รู้ไหมว่ากูทิ้งอะไรตั้งมากมาย เพื่อมาแต่งกับน้องสาวของเธอ ที่กูโคตรรัก แต่ดูสิ ทำไมคนที่มาอยู่ตรงนี้ถึงได้เป็นเธอวะ...เฮอะ แม่งเอ๊ย”
“...” จันทร์เจ้าประกบปากเข้าหากัน
“ช่างเถอะ ถึงเธอคันฉันก็เอาเธอไม่ลงหรอกนะ...วันนั้นน่ะกูเมาจนมองคนที่อยู่ใต้ร่างไม่ชัด”
“...”
“ถ้าย้อนกลับไปได้ คงไม่แตะต้องเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เลย” กายพูดอย่างเยือกเย็น
“เข้าใจแล้ว”
จันทร์เจ้าเข้าใจแล้วว่าทำไมกายถึงไม่แตะต้องเหล้าอีก เธอคว้าผ้าขนหนู เดินท้องโย้เข้าไปในห้องน้ำ ที่อยู่ภายในห้องนอนของเธอ
เธอกลับกายไม่ได้นอนด้วยกัน และหลังจากที่เขาพลาดในวันนั้น ทั้งสองไม่เคยร่วมรักกันเลย
แต่เธอก็โกรธเกลียดคนที่เธอแอบรักไม่หลง ได้แต่คิดว่ามันคือเวรกรรม ที่ดันไปหลงรักเขา
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าเธอ
“นี่!”
“อะไร?” กายโต้กลับเสียงดุ
“...” จันทร์เจ้าลังเลว่าจะขอให้เขาช่วยดีไหม แต่แล้วการช่วยเหลือตัวเองน่าจะดีที่สุด
“พูดมาสิวะ”
“มะ ไม่มีไรแล้ว นายไปเถอะ”
“ฮึ” กายหมุนตัว แผ่นหลังของเขางดงาม ไม่ต่างจากใบหน้าคมสัน หล่อจนใครๆ เลี้ยวมอง
จันทร์เจ้ามองอย่างหลงใหล แต่แล้วก็ตาลุกวาว เมื่อกายหันกลับมา ตรงดิ่งไล่ต้อนเข้าห้องน้ำ
“เพราะเห็นว่าเธอท้องนะ กูเลยจะช่วยเกาให้หายคัน...ครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องอ่อยเพื่อนกูอีก”
“มะ ไม่ ไม่ได้จะให้ช่วยแบบนั้น”
จันทร์เจ้าถอยหลังจนเกือบลื่นล้ม ทว่ากายรวบเอวไว้ทัน เมื่อความตกใจหายไป จันทร์เจ้าก็ตัวแข็งทื่อ เพราะปากหนาขบเม้มซอกคอขาวราวน้ำนมข้าว ไปพร้อมกับหอบกระชั้น คล้ายสัตว์ป่าที่อยากจะตะปบเหยื่อผู้น่าสงสารแทบทนไม่ไหว
“เย็ดด้วยลิ้นนะ”
.
.
“กาย ยะ อย่ากัดตรงนั้น”