“ในแก๊งนางฟ้าเรา เหลือแค่แกแล้วชะเอม ที่ยังไม่ยอมแต่งงาน” นิดเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้ม
อีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าเรือนหอ ชะเอมในชุดราตรีสีครีมรัดรูป ขับให้ผิวของเธอขาวเป็นยองใย ผมลอนสยายสวย
หน้าอกหน้าใจใหญ่โต เอวเอส บั้นท้ายงอน ตรงส่วนหน้าก็โออ่าไม่เบา สวยเซ็กซี่จนหาตัวจับได้ยาก ทว่ายี่สิบแปดปีแล้วยังไม่มีใครเข้ามาจีบ
ทั้งที่เธอก็ไม่ใช่คนหยิ่งทะนง
“อีกนานอะแก”
“ถ้าแกแต่งนะ ฉันจะใส่ซองให้แสนหนึ่ง”
“งั้นเดี๋ยวฉันแต่งพรุ่งนี้เลย”
เธอโต้ทันควัน เพราะจำนวนเงินมันล่อตาล่อใจคนที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายอย่างชะเอม
“หาผัวได้แล้วเหรอยะ?”
“...ยัง” ชะเอมเอ่ยเสียงอ่อย แต่ไม่ได้เสียใจ เพราะชินกับการใช้ชีวิตตัวคนเดียว
เธอกำขวดแชมเปญแน่น กวาดตามองทั่วงาน งานแต่งเพื่อนคล้ายงานแต่งทั่วไปเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ทว่าที่น่าตราตรึงคือซุ้มกระบี่และเพื่อนเจ้าบ่าวที่แต่งตัวเต็มยศ
“ชะเอมๆ ได้เวลาส่งบ่าวสาวเข้าหอแล้ว”
“อือ เดี๋ยวดื่มนี่ก่อนนะ เสียดาย”
ชะเอมกระดกแชมเปญของดีที่เหลืออยู่ครึ่งหมดในคราวเดียว เดินเซเล็กน้อย พอบ่าวสาวลาแขกในงานเสร็จ ก็ได้เวลาส่งบ่าวสาวขึ้นรถ
ทว่าจู่ๆ ไฟทุกดวงพลันดับ เสียงกรี๊ดตกใจดังสนั่น ชะเอมที่รู้สึกว่าแชมเปญกำลังออกฤทธิ์ ยกแขนปัดป่าย หวังจับเพื่อนที่อยู่ใกล้สุด
แต่ไม่ทันโดนท่อนแขนเพื่อน เสียงโหยหวนของใครหลายคนดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน
ตามด้วยโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาดในความมืด เมื่อแสงจากไฟโทรศัพท์ส่องสว่างก็มีคนตะโกน
“ตัวเชี่ยไรวะนั่น อ๊ากก---”
“กรี๊ดด---”
“ช่วยด้วย มันกัด...กัดคอฉัน อ๊ายย!!”
ตุ้บ!
ชะเอมถูกใครไม่รู้ชนเข้าที่ไหล่อย่างแรง เธอล้มลง แต่ไม่ทันได้หันมองคนที่วิ่งมาชน ร่างอรชรพลันถอยหลังกรูด ดวงตาหดเล็ก
เพราะแสงจากโทรศัพท์ที่ตกเกลื่อนพื้น พาให้เห็นฉากน่าสยดสยอง ที่คุ้นตาอย่างไม่น่าเชื่อ
“ซอมบี้! พวกมันคือซอมบี้!”
“...” ชะเอมหันมองคนที่ตะโกน ผู้ชายในชุดเครื่องแบบทหารคนนั้นถูกกัดทึ้งเลือดกระเซ็นมาโดนหน้าสวยๆ ของเธอ ชะเอมเม้มปากแน่น
ฉีกชายกระโปรงแล้ววิ่งสวนกับกลุ่มคนที่พากันหนีออกไปทางประตูหน้างานไปคว้ากริชโรมันที่โชว์ในงานมาป้องกันตัวแล้วมุดเข้าประตูหนีไฟ
“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก”
ชะเอมวิ่งลงบันไดไม่กี่ขั้น ก็ล้มพับนั่งอยู่บนพื้น ภาวนาให้ผู้วายชนที่ฟื้นคืนชีพไม่ตามมา
“เรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย?” เธอพึมพำ
...ยังไม่มีผัวเลยนะ จะตายแล้วเหรอ
เธอไม่รู้ว่าติดอยู่ในประตูหนีไฟของโรงแรมแห่งนี้นานแค่ไหน เพราะมือถือหล่นหาย
เสียงด้านนอกเงียบกริบ แต่พอเปิดประตู ก็ต้องถอยหลังกรูด แข้งขาอ่อนแรงล้มพับอีกครั้ง
“โฮกก--” เสียงคร่ำครวญดังกังวานน่ากลัว ร่างของมันบึกบึน ผิวที่โผล่พ้นเครื่องแบบทหารหน่วยพิเศษกองกำลัง 118 เขียวคล้ำเส้นเอ็นปูดนูน ยุทโธปกรณ์คือชื่อของมัน เขาเป็นทหาร?
...แต่ตอนนี้ติดเชื้อ เพราะแผลที่คล้ายโดนข่วนตรงข้อมือ? ชะเอมยิ่งคิดยิ่งปวดหัว
แต่ที่แน่ๆ เธอต้องรีบหนี ชะเอมกำกริชแน่น ยกขึ้น ด้านคมชี้ไปทางเขา ด้วยมือสั่นเทิ้ม
“อย่ามาเข้านะ...ไปซะ...บอกให้ไปไง”
ถึงจะไล่เขาอย่างกับหมูกับหมา แต่ตัวกลับสั่นเป็นลูกหมาที่เพิ่งถูกอุ้มขึ้นจากน้ำเย็นเฉียบ
“ไปสิเว้ย!”
“โฮกก---”
“อือ” ชะเอมหลับตาปี๋ตัวแข็งทื่อ อีกฝ่ายใกล้เข้ามาเรื่อย ปัดกรีชออกจากมืออย่างง่ายดาย
“ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ หนูยังมีแม่พ่อสูงวัยและน้องชายสองคนที่ต้องดูแล” ชะเอมเสียงสั่น
“โฮก---” ใบหน้าดุร้าย ทว่าผู้ชายคนนี้จัดว่าหล่อเอางานเอาการ เลื่อนเข้ามาใกล้
“ร้อน” จู่ๆ เขาพูดออกมา ชะเอมจากที่กำลังหลับตา เปิดตาขึ้นช้าๆ สบตาสีดำขับแสนลึกล้ำ
“ยะ ยังไม่ติดเชื้อเหรอ”
“หิว”
“อืออ ยะ อย่ามายุ่งกับหนูนะ!”
ชะเอมรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดพลิกตัว คลานหนีขึ้นไปด้านบน อีกฝ่ายตามติด มือหนาล็อกบั้นเอวเธอไว้ ทำให้หนีต่อไม่ได้
เธอที่อยู่ท่าคล้ายสุนัขหันมองไปด้านหลัง ซอมบี้ตัวใหญ่ในชุดลายพรางทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนสีดำ ยื่นหน้าคมสันเข้ามาใกล้เธอ
“อ๊ายย ยะ อย่ากินตรงนั้นเลยค่ะ น่ะ หนูยังไม่ได้ล้าง” ชะเอมส่ายบั้นท้ายหนีซอมบี้ แต่แล้วก็โดนอีกฝ่ายเลียแคมอวบอูม ทำกางเกงในแฉะน้ำ
เธอตาลุกวาวในตอนที่โดนเลีย ก่อนจะรู้สึกวิงเวียนดวงตาคล้ายมีดวงดาวล่องลอยตอนที่ลิ้นสากของซอมบี้แหย่ โดยมีชั้นในกั้น เข้ามาในร่อง
แจ๊ะ...แจ๊ะ...แจ๊ะ
จ๊วบ...จ๊วบ
เสียงน่าอายดังสนั่นในทางหนีไฟ
ชะเอมอ้าปากพะงาบ ต่อมาก็ถูกจับให้นอนหงายบนขั้นบันได ซอมบี้เกี่ยวชั้นในไว้ข้างแคม
แล้วเลียรอยแยกที่ใหญ่เท่าฝ่ามือตรงๆ ดูดเอาความหวาน สอดลิ้นเข้าไปดื่มด่ำด้านในอย่างหิวโหย พร้อมสูดดมกลิ่นที่หอมรัญจวน
“ลิ้นยาวจัง อื้อ เหมือนโดนมดลูกเลย”
ชะเอมมองร่องสวาทที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อน ตอนนี้ปลายลิ้นของซอมบี้มุดอยู่ในรู
จมูกโด่งคลอเคลียติ่ง ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด เธอกลางนิ้ว ลูบแคมไร้ขนที่คล้ายยิ้มอยู่ก็ไม่ปานไปมากระทั่งบั้นเอวสั่นกระตุกสามสี่ที
“อ๊าส์ สะ เสร็จแล้ว” สิ้นเสียงหวาน ชะเอมเอนหลังนอนบนขั้นบันได ปล่อยให้นักล่าทานเหยื่อผู้น่าสงสารอย่างเธอต่อไปจวนหนำใจ
“อื้มม ฉันรู้สึกเหนื่อยมากๆ” โจวหรงที่ยังมีสติอยู่นิดหน่อย สะบัดไล่ความเมื่อยล้าออกจากต้นคอ พลางหลุบตามองของหวานใต้ร่าง
จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก แม้ชะเอมจะถามจนปากเปียกปากแฉะ “สรุปคุณติดเชื้อรึยังคะ?”