“ไอ้กำนันเหี้ยนั่นมันโยนความผิดมาให้พวกเรา” ชายฉกรรจ์ บนแก้มซ้ายมีรอยแผลเป็น ขับให้หน้าคมดูโหดเหี้ยม เอ่ยด้วยความคับแค้น
แต่แม้เขาจะเป็นรองหัวหน้ากองโจร แต่เป็นคนจิตใจดี ปล้นคนรวยที่คดโกงช่วยคนจน
เขามองเจ้านาย ซึ่งนั่งบนท่อนไม้ในป่าลึก อยู่ห่างจากหมู่บ้านทุรกันดารท่ามกลางหุบเขาไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไร เขาไม่อาจรู้เลยว่าหน้าคมคายที่อยู่ใต้ผ้าชีมัคลายตารางสีเขียวที่ปกคลุมหัว ตาเฉี่ยวคมหลังเลนส์แว่นกันแดดแสดงอารมณ์ไหน
“จะเอายังไงกันต่อดีครับนายหัว”
“...ได้ข่าวว่ามันแต่งงานกับหม่อมหญิงมาลาวดีกุเหรอ?” เอสเปอร์หนุ่มลูกครึ่งไทยจีน
ได้เรือนร่างกำยำมาจากพ่อ ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างจีนและออสเตรเลีย ส่วนแม่เป็นสาวใต้ ผู้เลอโฉมที่สุดในหัวใจอันด้านชาของเอสเปอร์
“เห็นไอ้ขาวบอกแบบนั้นครับนายหัว”
แมนพูดถึงขาว ลูกน้องที่ทำหน้าที่สปาย สืบเรื่องต่างๆ ในเมืองที่อยู่นอกชายป่า
“มันยังบอกอีกด้วยครับว่า เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ ผิวขาวเป็นยองใย รูปร่างเล็กกะทัดรัดแต่หน้าอกโออ่า และที่สำคัญมันไม่เคยเจอสาวใดที่สวยเท่าเธอผู้นี้อีกแล้วครับนายหัว”
ขณะพูดเขาจินตนาการตามที่ขาวบรรยายให้ฟัง ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นนางฟ้าลงมาเกิดแน่ๆ
“น่าเสียดาย ไม่น่าตกเป็นเมียไอ้ชาติหมานั่นเลย ผมว่านายหัวยังมีดีกว่าไอ้กำนันโตเยอะ”
“เป็นถึงหม่อม กูไม่บังอาจหรอก”
เอสเปอร์ยิ้มมุมปาก แต่น่าเสียดายที่ผ้าโพกหน้าปกปิดรอยยิ้มชั่วร้าย แล้วแววตาเย้ยหยันซึ่งแฝงไปด้วยความหล่ออำมหิตผสานความทะเล้น
“เตรียมคนให้พร้อม เดี๋ยวคืนนี้กูจะมอบของขวัญแต่งงานสุดพิเศษให้ไอ้กำนันเหี้ยนั่น”
..
.
ตั่บ ตั่บ ตั่บ
เสียงเนื้อปะทะเนื้อดังสนั่นหวั่นไหว สาวร่างอรชรดิ้นเร่าๆ ปลายเท้าจิกเกร็ง แต่อ้าขาให้ชายวัยกลางคนตอกเยี่ยงทาสจนน้ำฉ่ำร่องไม่หยุด
“อื้ออ อ่าา เจ้านายขา แรงๆ เลยค่ะ อึ่ก อื้ออ ดีมากๆ เลยค่ะ อ่าา แรงอีกค่ะ แรงอีก อื้ออ”
ระหว่างคร่ำครวญหวานหู ตามองไปที่ประตูซึ่งเปิดแง้มอยู่ ก่อนยิ้มเยาะให้คนที่อึ้งอยู่ตรงนั้น
มาลาวดีกุ หรือแต้มลูกคนสุดท้องของหม่อมหลวงชะงักงัน ไม่นานมือไม้พลันสั่นเทิ้มไม่หยุด
เกือบจะเป็นลม เพิ่งแต่งงานได้ไม่ถึงเดือน ทำไมชีวิตที่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่มีปากเสียงกับพ่อที่ไม่รู้จักพอบ่อยๆ
แถมพอโตเป็นสาวยังโดนบังคับให้แต่งงานกับกำนันโต ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอไม่ต่างจากพ่อ
“...” แต้มปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเอง แต่ไม่ได้เสียใจเพราะรักเขา แค่เจ็บใจที่สามีในนามไม่ให้เกียรติกัน แต้มตรงเข้าไปกระชากเมียน้อย
อีกฝ่ายเป็นสาวใช้ในบ้านนี้ ที่ดีกับเธอมากๆ คิดไม่ถึงว่าจะทำกันเช่นนี้ แต่ไม่ทันลงไม้ลงมือ
สามีในนามก็ผลักเธอจนตัวถลาไปชนขอบโต๊ะไม้สัก จุกจวนพูดไม่ออก อ้าปากพะงาบ
“ออกไปจากห้องของกู”
“คะ คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง”
“มึงเป็นภรรยากูแล้ว กูชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ อย่ามาหือกับกู กูไม่ไปกินนอกบ้านก็ถือว่าให้เกียรติมึงมากพอแล้ว เพราะงั้นหลับหูหลับตาซะ”
“...” แต้มพูดไม่ออก มองสาวใช้ที่ล่อนจ้อนเข้าไปออเซาะสามี โตกอดปลอบประโลม จูบซับกันไปมา ไม่นานก็เชื่อมต่อกันอีกครั้ง
นี่มันแย่กว่าพ่อของเธออีก ทำตัวราวกับสัตว์เดรัจฉาน แต้มทนมองภาพอุบาทว์ไม่ไหว จากมา
“อ่าส์ แรงๆ เลยค่ะ หนูจะเสร็จแล้ว”
“...” แต้มแทบกรี๊ด แต่ด้วยความที่เป็นถึงลูกหม่อม เธอจึงสำรวม กัดปากสงบสติอารมณ์
“ตายแล้วคุณหนู ทำไมปากแดงเถือกแบบนั้นละคะ” แม่นมที่ดูแลแต้มมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ทว่าไร้ทางช่วย ได้แต่ปวดใจ
สงสารคุณหนูที่ยังคงเห็นเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ เธอรีบไปหาผ้ามาเช็ดเลือดตรงริมฝีปาก
“ดีนะ ที่หนูไม่เผลอตัวให้เขา” แต้มเอ่ยอย่างเจ็บใจ แต่โชคดีแล้วที่พอสามีเข้ามาในห้อง เธอก็จะบ่ายเบี่ยงตลอด โตบอกว่าไม่ชอบบังคับใคร
ไม่พร้อมเขาก็รอได้ ทว่าคิดไม่ถึงว่าไอ้คนที่ดูเป็นสุภาพบุรุษคนนี้จะชาติ...เช่นนี้
“หนูอยากกลับบ้าน”
“...” แม่นมรู้สึกจนปัญญา เพราะเพิ่งจะแต่งให้พาเธอกลับไปตอนนี้มีแต่จะโดนหม่อมหลวงดุด่า เผลอๆ คุณหนูอาจจะโดนเฆี่ยนตีด้วย
“อดทนอีกนิดนะคะคุณหนู”
“ถ้าหนูกลับไปตอนนี้หม่อมพ่อคงไล่กลับมาใช่ไหมคะ เพราะท่านต้องเข้าข้างกำนันอยู่แล้ว”
“...” แม่นมพูดไม่ออก นิสัยหม่อมหลวงไม่ได้ดีไปกว่ากำนันโต เธอเป็นคนใช้บ้านนั้น มาตั้งแต่เยาว์วัย ความเจ้าชู้ของหม่อมหลวง ทำไมจะไม่รู้
แถมยังรู้มากกว่านี้ด้วย แค่พูดออกมาไม่ได้ ว่าคุณหนูที่เธอดูแลมาตั้งแต่เกิด เป็นลูกสาวใช้
หลังสาวใช้คนนั้นคลอดลูก ภรรยาหลวงก็ไล่ออกจากบ้าน รับแต้มเป็นบุตร แล้วให้เธอเลี้ยงดู แต่ถึงแม้ภรรยาหลวงจะเอ็นดูแต้ม
แต่ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำ เพื่อความอยู่รอดของตระกูล จึงส่งให้แต้มมาแต่งงานกับกำนันโต
“ก็กำนันโตจ่ายค่าสินสอดตั้งหนึ่งพันล้าน”
กำนันโตมีธุรกิจหลากหลาย มีเงินหมุนเวียนมหาศาล ด้วยเหตุนี้ต่อให้เชี่ย แต่ก็ถือเป็นลูกเขยคนโปรด เวรกรรมมันถึงได้ตกลงแค่ที่เธอ
“พักผ่อนค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่นมทำกระเพาะปลาของโปรดให้คุณหนูทาน” เธอเอ่ยอย่างเป็นกันเอง เพราะแต้มชอบให้แม่นมพูดเช่นนี้
บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ รอบล้อมด้วยภูเขาและพงไพรที่อุดมสมบูรณ์
ก่อนจะเห็นภาพบาดตาบาดใจเมื่อครู่นี้ เธอรู้สึกหลงรักที่นี่มาก เพราะเป็นคนรักความสงบไม่ยึดติดความสะดวกสบาย ชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย
ทว่ายามนี้ที่ลมเย็นในป่าพัดมาทางหน้าต่าง ปะใบหน้างดงาม ผมสีน้ำตาลประกายทองถูกลมสะบัดไปด้านหลัง ไม่ได้ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง
แต้มละสายตาจากหุบเขา เพราะเริ่มง่วงแล้ว ทว่าสายตาผสานนัยน์ตาคมกริบราวกับสัตว์ป่า
“อ๊ะ!” แต้มสะดุ้งโหยง ตากวาดทั่วร่างกำยำ
อีกคนยืนใต้ต้นไม้ รัตติกาลอันมืดมิดไม่อาจบดบังความสง่างาม แต่เขาสวมผ้าโพก ราวทหารในหนังที่ไปทำภารกิจในดินแดนทะเลทราย
จึงมองไม่เห็นใบหน้า มือก็สอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีน แต้มพึมพำไม่เป็นศัพท์ก่อนตะโกน
“ดะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันทำบุญไปให้นะ” แต้มคิดว่าต้องเป็นคนสวนที่ป่วยตายที่คนรับใช้สูงวัยเล่าขานกันแน่ๆ หลังปิดหน้าต่างจึงสวดมนต์ไม่หยุด
แต่จู่ๆ หน้าต่างก็ถูกผลักอย่างแรง ผู้ชายคนนั้นกระโจนเข้ามาในห้อง ปิดปากเธอรวดเร็ว
“อืออ...”
“ชู่วว!”
“ยะ อย่าหลอกหลอนฉันเลยนะ”
เอสเปอร์เลิกคิ้ว ทว่าเสียงกุกกักเมื่อกี้ทำให้ฝีเท้าหนักๆ ของใครคนหนึ่งตรงเข้ามาหน้าห้อง