ขนมในวัยสิบเก้าปีบริบูรณ์ไม่ได้ปรารถนาเค้กวันเกิดหรือของขวัญที่บางอย่างถึงมีเงินก็ซื้อไม่ได้ อย่างเช่นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ผลิตเพียงแค่สิบใบในโลก นาฬิกาหลักร้อยล้าน ซึ่งแม่สั่งให้คนรับใช้หอบเข้ามาให้ถึงในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยศิลปะในยุควิกตอเรีย
แต่สิ่งที่เธอปรารถนาคือการที่แม่ได้หลุดพ้นจากพ่อเลี้ยงไร้ใจคนนั้น
ม่านไหม คือชื่อแม่ของขนม ม่านไหมเกิดในครอบครัวยากจน พออายุครบสิบแปดปีก็ถูกจับให้แต่งงานกับคนมีฐานะ แม่เล่าว่าทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวย กระทั่งมีขนม พ่อก็เปลี่ยนไป บ้านช่องไม่ค่อยกลับ แล้วในที่สุดก็หย่าร้าง
แม่ไม่ได้ทุกข์ที่ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะเดิมที่ก็ไม่ได้รักพ่ออยู่แล้ว
ม่านไหมเรียกได้ว่าเป็นหญิงแกร่ง แม้อายุยังน้อยแต่ก็เลี้ยงขนมได้เป็นอย่างดี ไม่เคยปล่อยให้ลูกต้องอดอยากปากแห้ง
ม่านไหมชื่นชอบศิลปะในยุควิกตอเรียตอนปลาย 1970-1980
ด้วยความหัวไว หลังจากเข้าไปทำงานในร้านตัดเสื้อผ้า เธอก็ได้เป็นดีไซเนอร์ชื่อดัง นั่นจึงทำให้แม่ของเธอได้พบกับเขา ผู้ชายที่ไร้หัวใจ เห็นแม่เป็นแค่เครื่องมือผลิตลูก
แต่แม่กลับมองไม่เห็นถึงจุดนี้ รักเขาหัวปักหัวปำ ยอมอยู่เงียบๆ ในบ้านหลังเล็กที่แยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่
นี่ไม่ต่างจากเป็นตุ๊กตาในตู้กระจกที่รอคอยให้เจ้าของขี้เบื่อมาเชยชม การอยากให้แม่ตาสว่างสักทีจึงเป็นความปรารถนาของขนม
“ป้าหนูเอาของพวกนี้ไปทิ้งทีค่ะ”
“ตายจริง! คุณหนูคะ คุณผู้หญิงเขาตั้งใจเลือกให้คุณหนูเลยนะคะ จะ...จะให้ป้าหนูเอาไปทิ้งเลยรึ” แม่บ้านสูงวัยจู่ๆ ก็รู้สึกไม่สบายเนื้อตัวขึ้นมา หน้าผากมีเหงื่อซึมออกมาไม่หยุด
แต่ถ้าคุณหนูบอกให้ทิ้งก็ต้องทิ้งอย่างไม่มีทางเลือก แม้ของพวกนี้จะน่าเสียดายมากๆ
“แต่นี่ไม่ใช่เงินของแม่สักหน่อย เพราะงั้นทำลายมันแล้วเอาไปทิ้งทีค่ะ” ขนมมองกระเป๋าและนาฬิกา พลางนึกถึงตายายที่คอยพร่ำสอนให้ใช้เงินอย่างระมัดระวัง
แต่นี่มันไม่ใช่เงินของเธอกับแม่ และเพียงแค่นี้ไม่ทำให้ผู้ชายคนนั้นขนหน้าแข้งร่วงหรอก
เมื่อสั่งแม่บ้านเอาของไปทิ้งเรียบร้อยขนมก็ไปอาบน้ำ ใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงทรงเอสั้นจนเห็นขาอ่อน หลังเติมแป้งเสร็จเธอหมุนตัวอยู่หน้ากระจก ถ่ายรูปขาเรียวยาวขาวผ่องไปด้วย จากนั้นก็อัปลงแอคลับที่มียอดติดตามสูงลิ่ว
ทุกวันนี้เธอไม่จำเป็นต้องเพิ่งเงินพ่อเลี้ยง แม้เขาจะเต็มใจเลี้ยงเธอในฐานะลูกคนหนึ่งแต่ต่อให้เธออดตายก็ไม่ขอยุ่งเงินผู้ชายคนนั้น
ส่วนแม่หลังแต่งงานใหม่ก็ไม่ได้ทำงาน กินอยู่ด้วยเงินของพ่อเลี้ยง ซึ่งแม้หมอนั่นจะไม่ดูดำดูดีแม่ แต่ก็ให้เงินให้ทองใช้ตามสบาย
นายไข่ย้อย : ไลฟ์ชุดแม่ชีเมื่อวานยังติดตาผมอยู่เลยครับ
สมชายเลิฟควีน : อยากเห็นหน้าจัง ต้องสวยมากแน่ๆ เลย
ควีนนางฟ้าของผม : ขาเรียว ขาขาว มากคร้าบบ หน้าต้องสวยด้วยแน่ๆ
ควีน สาวนักคอสขี้ยั่วที่ไม่เปิดเผยใบหน้า ไลฟ์สดโชว์เสียว คือตัวตนลับที่เธอสร้างขึ้นมาเอาใจสายหื่น
“คุณหนูอาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ”
“ค่ะ” ขนมตามหลังแม่บ้านที่มาตามไปทานอาหารมื้อเช้า ทันทีที่ก้าวออกจากห้องกลิ่นกายของแม่ที่ผ่านมาพอดีก็หอมรัญจวน
จนทำให้ขาเรียวชะงักงัน มองคนที่กำลังจะผ่านไปด้วยแววตาสั่นระริก อึ้งในความสวยวันสวยคืนของแม่ โดยไม่มีการผ่านมือหมอ
รอยแยกตรงฝีปากแดงเรื่อราวกับสีของเชอร์รี่ ดวงตาจิก แพขนตาโค้งงอนสวย แก้มชมพูระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ บวกกับชุดนอนในยุควิกตอเรีย เหมือนหลุดออกมาจากนิยาย หรือไม่ก็ซีรีส์ก่อนคริสตกาลของต่างประเทศ
ไร้ที่ติจนลูกสาวแท้ๆ ขอยอมแพ้
เวลาที่ขนมกับม่านไหมออกไปข้างนอก คนที่ไม่รู้จักพวกเธอต่างคิดว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกัน เนื่องจากขนมได้พ่อมากกว่าแม่
บางครั้งพ่อเลี้ยงก็ทำหน้าเหมือนจะไม่เชื่อว่าขนมคือลูกของม่านไหมจริงๆ
“อ๊ะ!” ม่านไหมตัวเซเมื่อลูกสาวกระโดดใส่
“แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ทำแบบนี้”
“ก็หนูรักแม่นี่ค่ะ”
“...แม่ก็รักลูก” ม่านไหมใจอ่อนทุกทีที่ลูกขี้อ้อนบอกรัก เธอดึงลูกที่ตัวโตกว่ามากอด
“ฮึ แม่ไม่รักหนู!” เสียงใสผสมอารมณ์เกรี้ยวกราดของเด็กสาววัยสามขวบเจ็ดเดือนเอ่ยอย่างไม่พอใจ ที่ม่านไหมบอกรักแต่พี่
แขนป้อมๆ กอดอก ดวงหน้าเรียวเล็กบูดบึ้ง แต่แทนที่ทั้งสองจะเห็นใจกลับพากันขำ
เสียงดังสุดก็คือขนม ส่วนแม่ยิ้มน้อยๆ ราวกับชนชั้นสูง ซึ่งมันไม่ดูปลอมสักที แต่ถ้าขนมทำตามสิ ใครๆ ก็มองว่าแปลกประหลาด
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
“ขอบคุณค่ะ...ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้หนูได้เกิดมาเป็นลูกของผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก”
“เว่อร์” ม่านไหมว่าอย่างไม่จริงจัง
แต่ก็หารู้ไม่ว่าขนมแอบตำหนิที่แม่ของเธอใช้ความสวยไม่เป็น ขนมไม่ได้อิจฉาที่แม่สวยกว่า แต่ขัดใจที่แม่มาอยู่กับเขา ทุกวันนี้ขนมคิดแล้วคิดอีกว่าลักพาตัวแม่ไปอยู่ที่อื่นดีไหม เพราะถ้าชวนดีๆ อีกคนไม่ไปแน่นอน
เธอเคยชวนหลายครั้งจึงรู้ดี ขนมตามหลังแม่ ไปพร้อมกับคิดว่าจะทำยังไงให้แม่หลุดพ้นจากเขานะ
ทั้งที่รู้ดีว่าแม่ไม่ได้อยากจะหนีหายไปจากเขาคนนั้น ทุกวันนี้ต่อให้เขาทำร้ายจิตใจแม่แค่ไหน แต่แม่ก็ดูจะไม่ทุกข์ร้อนเลยสักนิดเดียว
มีก็แต่ขนมเนี่ยแหละ ที่เป็นเดือดเป็นร้อน เป็นห่วงจิตใจของแม่ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ก็นะ แม่คือโลกทั้งใบของเธอ
“อ๊ะ แม่คะ ระวัง!!”
ขนมคว้าแม่ที่เซลงบันได แต่ไม่ทันการณ์ เธอและม่านไหมตกลงไปพร้อมกัน...
.
.
“แม่คะ!!!”
ขนมเบิกตาโพลงทันทีที่สติกลับคืนมา หันมองซ้ายขวา เธอพบว่าตนอยู่ในห้องนอน แต่ในห้องคุ้นเคย กลับดูไม่คุ้นเคย
“คุณผู้หญิงตื่นแล้วเหรอคะ” หญิงสูงวัยก้าวเข้ามาในห้อง ฝ่ายนั้นคือป้าหนู เห็นเช่นนี้ขนมก็ถอนหายใจ โล่งอกที่ตัวเองยังไม่ตาย
“ป้าหนู แม่ของหนูเป็นยังไงบ้างคะ?”
“แม่?”
“ค่ะ ท่านเป็นยังไงบ้าง พาหนูไปหาหน่อยสิ” ขนมจะลุก แต่น้องสาววิ่งเข้ามากอดซะก่อน จึงนั่งลงที่เดิม แล้วพลันคิดทำไมถึงไม่เจ็บนะ
เธอไม่รู้ตนเองหลับไปนานแค่ไหน แต่จำได้แม่นว่าตกบันได แล้วทำไมถึงไม่เจ็บนะ?
“คุณแม่ของคุณผู้หญิงท่านสบายดีค่ะ แต่ตอนนี้ดึกแล้ว และคุณผู้ชายกำลังจะมาที่นี่ค่ะ”
หนูทำหน้าลำบากใจ
“แล้วไงคะ...เขาก็มาหาแม่ตามปกตินี่ แล้วทำไมหนูจะไปหาแม่ไม่ได้ละคะ”
“แม่จะไปหาคุณยายเหรอคะ จินขอไปด้วยนะ” จินนี่ยิ้มหวาน แต่เดี๋ยวนะ ทำไมถึงเรียกว่ายายล่ะ ขนมครุ่นคิดต้องเป็นเพราะดูเน็ตมากไปแน่เลย น้องถึงได้มาเรียกเธอว่าแม่
“ไปสิ ไปด้วยกัน”
“มะไม่ได้นะคะคุณผู้หญิง เพราะว่าคุณผู้หญิงต้องไปอาบน้ำแต่งตัวหอมๆ” ขณะพูดเธอยิ้มกรุ้มกริ่ม พวงแก้มแดงระเรื่อ
“ส่วนคุณจินนี่ได้เวลาเข้านอนแล้วค่ะ”
“...” ขนมถอนหายใจ แม่ของเธอแท้ๆ แค่จะไปเจอก็โดนผู้ชายคนนั้นกันท่าไว้แล้ว
ขนมลุกเข้าห้องน้ำ ในเมื่อไปหาแม่ไม่ได้ก็ไม่ไป แต่ขอล้างหน้าล้างตาหน่อย
แต่เมื่อเห็นตัวเองในกระจกเธอก็ตะลึงตาค้าง เพราะใบหน้าและร่างกายนี่มันแม่เธอชัดๆ เป็นไปไม่ได้ เธอตบตัวเองเพราะคิดว่าฝัน
แต่ตบจนแก้มแดงกลับพบว่ายังคงยืนอยู่ที่เดิม โดยไม่ทันมองว่าใครคนหนึ่งเดินเข้ามา
“ฉันมาหาเธอถึงที่แล้วม่านไหม เพราะงั้นไม่ต้องตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ”
“หือ?? คุณพ่อมาได้ไงคะ?”
ใบหน้าคร้ามคม ตาสีเข้มดูดุดัน คิ้วเรียวดกดำขมวดมุ่น บ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดี แค่มาหาภรรยามันจะตายหรือไง ขนมนึกโกรธแทนแม่
“คุณพ่อมาห้องหนูทำไมคะ?”
“อย่ามาตลก เรียกร้องความสนใจให้มาหา พอมาแล้วก็จะไล่ฉันกลับไปเหรอวะห้ะ?”
“ฮึ๋ย ดุอย่างกับหมาร็อตไวเลอร์ ออกไปจากห้องของหนูเดี๋ยวนี้เลยค่ะ และก็ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ เพราะเดี๋ยวหนูจะไปดูให้เอง”
“นี่เธอพูดบ้าอะไรของเธอวะ”
“ก็บอกว่าให้กลับไปไงคะ!!” ขนมคิดว่าการที่พ่อเลี้ยงมาห้องเธอก็ดีเหมือนกันได้ไล่ง่ายๆ
เพราะถ้าฝ่ายนั้นไปห้องแม่ แม่คงจะนั่งนิ่งไม่โต้อะไร ปล่อยให้สรัลใช้ร่างกายตามใจชอบ
“เชิญกลับบ้านใหญ่ไปเลยค่ะ”
“จะบ้านเล็กบ้านใหญ่มันก็บ้านกู อย่าทำตัวจองหองแบบนี้นะม่านไหม” สรัลกดเสียงดุ
“ม่านไหม?”
ขนมหันมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง ทว่าแค่นั้นไม่พอ จึงยื่นหน้าแนบกับบานกระจก
“แม่...เราคือแม่เหรอวะ” ขนมพึมพำ นิ้วชี้เรียวๆ แหกตาตัวเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
สรัลทนดูการกระทำที่ไม่เห็นหัวเขาไม่ได้จับไหล่บางให้หันหน้ามาสบตากัน แต่โดยปกติม่านไหมไม่กล้าสบตาเขาแต่วันนี้กลับยโสโอหัง
“ทำไม มันมีอะไรเข้าตารึยังไง อยากให้ฉันเรียกหมอมาที่บ้านให้ไหมล่ะ หืมม?”
“...” ขนมเงียบเพราะยังคงไม่เชื่อว่าตัวเองจะมาอยู่ในร่างแม่ แล้วแม่เธอล่ะ หรือว่าแม่อยู่ในร่างของเธอ แล้วตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ
“ม่านไหมอย่ามาเมินฉันนะ”
“ไม่ต้องเรียกหมอหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นห่วงฉันจริงๆ เรียกหนุ่มโฮสต์มาดีกว่า” ขนมยิ้มร้าย นี่ขนมไม่ใช่แม่ อย่าคิดว่าจะยอมนะคะคุณพ่อ!
“ขอตัวท็อปๆ เลยนะคะ”
“หึ กินยาลืมเขย่าขวดรึไงวะ” สรัลทนเมียที่จู่ๆ ก็กล้าต่อปากต่อคำไม่ไหว กดลงเตียงแล้วจัดไม่ยั้ง ขนมที่ยังงงงวยโอดโอยไม่หยุด
เอาแต่พล่ามว่า**จะบวมแล้ว ครั้งแรกของเธอ แต่ในร่างแม่จุกจนต้องร้องขอชีวิต
“มีแรงแค่นี้เหรอคะคุณ!!” แต่ก็นะนี่มันขนมไม่ใช่ม่านไหม แม้ตาเหลือกก็ไม่อ่อนข้อให้
สรัลแลบลิ้นเลียภูเขาลูกหย่อมๆ ของเมีย ก่อนจะขบดูดปุ่มนูนที่ดีดเด้งสู้ลิ้น
“อื้มม เธอท้าฉันเองนะม่านไหม” สรัลไม่รู้หรอกว่าวันนี้ทำไมอีกคนถึงมีท่าทีและคำพูดไม่เหมือนเคย แต่ก็จัดหนักตามที่อีกฝ่ายขอร้อง
เสียงกรีดร้องจึงดังลั่นไปทั่วบ้าน...
.
.
“ม่านไหม มีลูกให้กูอีกคนนะม่านไหม ซี้ดด อ่า เอาลูกอีกคน อื้มม แน่นมากเลยม่านไหม”