บทที่8.พิศวาสร้อนกลางความมืดมิด

1573 Words
สายตาผิดหวังของราเชษฐ มองมาที่เธอ เมื่อเขาเห็นกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่จรสจันทร์ยื่นให้ เธอทำได้แค่สะท้านอาย ไม่ต้องคาดเดาเขาก็รู้ที่มาที่ไปของกระดาษชิ้นนั้น จำนวนเงินและลายเซ็น คือคำยืนยัน แทนคำบอกเล่า เธอไม่มีทางได้กระดาษชิ้นนั้นมา หากไม่พาตัวเองเข้าไปหาตัวเจ้าของลายเซ็น ราเชษฐจากไปเงียบๆ เขาไม่ได้ตำหนิ หรือปริปากพูด แต่จรสจันทร์ก็อายเกินกว่าจะสู้หน้า แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เธอยังยืนอยู่ได้ คือสิ่งที่เธอทำ ช่วยให้พ่อ แม่หมดทุกข์ “อย่าถามรสเลยพี่ราเชษฐ รสบอกไม่ได้หรอก รสอายเกินกว่าจะพูดถึง พี่ราเชษฐช่วยรสหน่อยนะคะ ทั้งหมดนี่โอนให้พ่อตามหมายเลขบัญชีที่รสฝากไปทั้งหมด” นั่นคือสิ่งที่เธอบอกได้ ปล่อยให้มันคลุมเครืออยู่แบบนั้น ความลับนั่น จะไม่มีวันเปิดเผยจากปากของเธอ มือเรียวบางขยำขยี้เสื้อผ้าแม้จะเก่าจะเปื่อย แต่มันก็คือชุดที่เธอใส่ประจำ เพราะมันคือสิ่งของที่คนในเหมืองบริจาคมาให้ ตอนที่จรสจันทร์มาถึงใหม่ๆ เธอมีแค่เสื้อผ้าชุดเดียวติดตัวมา ชุดทั้งหมดหลวมโพลกเนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าลำตัวของเธอ แต่ก็ต้อนทนฝืนใส่เพราะตอนนั้นไม่มีสตางค์ซักแดงเดียว หลังจากทำงานในเหมืองจรสจันทร์แล้ว เธอก็ต้องเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ให้บุพกาลี ไม่อยากใช้เงินที่หามาได้ เพราะอยากปลดทุกข์ให้บิดา มารดานั่นเอง หลังจากซักทำความสะอาดชุดใช้แล้วจนเสร็จ จรสจันทร์มองสายน้ำเย็นฉ่ำด้วยสายตาเสียดาย ความเงียบรอบๆ ตัวอันตรายเกินกว่าจงลงเล่นน้ำตามลำพัง เธอจึงรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ลงไปแหวกว่ายในสายน้ำฉ่ำชื่นให้ชุ่มปอด “รู้อย่างนี้ชวนพีลามาด้วยดีกว่า จะได้ลงว่ายน้ำให้ชื่นใจ” จรสจันทร์บ่นเบาๆ คว้าตะกร้าขึ้นถือ จัดการไปตากผ้าเปียกๆ ให้เรียบร้อยจะได้ไปพักร่างกายเสียที เมื่อรู้สึกรุมๆ ปวดเนื้อปวดตัว เกอร์เตสมองตามจรสจันทร์ไปอย่างเสียดาย เขาหลงมโนไปว่าจะได้ยลโฉมนางเงือกสาว ที่ลงไปแหวกว่ายในสายน้ำ แต่ก็แห้ว เพราะหล่อนเปลี่ยนใจเสียแล้ว ชายหนุ่มเดินตามเด็กสาวไปห่างๆ ทิ้งระยะทางนิดหน่อย พอให้ไม่ผิดสังเกตจนจรสจันทร์รู้ตัว เธอสะบัดเสื้อตากไว้บนราวจนเรียบร้อยก็เก็บตะกร้าวางไว้มุมห้อง หอบหิ้วอุปกรณ์อาบน้ำเดินตรงไปยังห้องน้ำกว้างเพื่ออาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล จะได้นอนหลับสบายๆ ผิวกายเย็นฉ่ำหลังอาบน้ำจนสดชื่น เสื้อผ้าสะอาดหอมชื่นใจ จรสจันทร์แอบย่นจมูกนิดๆ เมื่อขนาดเสื้อตัวใหญ่โตจนสามารถคลุมมิดทั้งตัวโดยไม่ต้องสวมใส่กางเกง “ชิ้ว!!” เสียงจามดังสนั่นจนชายหนุ่มที่ซุ่มมองรีบโยนก้นบุหรี่ทิ้ง เขาหมุนตัวมามองด้วยความเป็นห่วง วงหน้าแดงก่ำ แววตาอิดโรยเมื่อหญิงสาวอดนอน เพราะถูกตัวเองกวนเกือบทั้งคืน เช้าขึ้นมาหล่อนก็ต้องไปทำงานหนักๆ อีก “ยัยบ้า…เสียตัวครั้งแรกแทนที่จะพักผ่อนนอนให้ฉันกอดต่อ ดันกระเสือกกระสนไปทำงาน ดื้อไม่เหมือนใครเลย” เกอร์เตสพึม เขาลืมไปว่า เจตนาของเขาหวังได้ชื่นชมจรสจันทร์อีกครั้งแท้ๆ “หายากินแล้วนอนดีกว่า สงสัยจะเป็นไข้” จรสจันทร์บ่นเบาๆ เปิดประตูห้องนอนหายาลดไข้กินจะได้พักผ่อนเสียที เมื่อร่างกายอ่อนล้าเต็มทน จรสจันทร์หลับแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอน เมื่อร่างกายกรำงานหนักมาทั้งวัน อกอวบอิ่มไหวกระเพื่อม ขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ทำให้แมวขโมยที่ย่องเข้ามาในห้องหายใจติดขัด สาวตาคมวาวจ้องมองอกอวบอิ่มที่สะท้อนขึ้นสะท้อนลงไม่วางตา “ยัยบ้านี่…ไม่ใส่เสื้อในอีกแล้ว คิดจะยั่วกันหรือไงหะ” เกอร์เตสต่อว่าจรสจันทร์เสียงขุ่น เมื่อสาวน้อยไม่ใส่ชั้นในขณะนอน เขาลืมไปว่าจรสจันทร์นอนอยู่ในห้องส่วนตัว เขาเองต่างหากที่บุกรุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ชายหนุ่มทรุดกายลงนั่งข้างเตียง วางพวงกุญแจพวงใหญ่ไว้บนพื้น เขาแอบฉกมาจากพีลา และใช้มันไขเข้าห้องจรสจันทร์ ชายหนุ่มกวาดตามองมอง วงหน้าชื้นเหงื่อด้วยฤทธิ์ยาลดไข้ ฤทธิ์ของยาขับเหงื่อไหลออกมาตามรูขุมขน จนเปียกชื้นไปทั้งวงหน้า ชายหนุ่มหมุนซ้ายหมุนขวามองหาผ้ามาซับเหงื่อให้จรสจันทร์ด้วยความสงสาร ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่จรสจันทร์วางไว้ใกล้ๆ ถูกเกอร์เตสนำมาเช็ดไปตามใบหน้าและซอกคอที่เปียกชื้น เขาบ่นพึมพำไปตามเรื่องตามราว เพราะเมื่อแตะต้องเนื้อตัวของจรสจันทร์ อุณหภูมิในร่างกายของหล่อนสูงเกินกว่าคนปกติทั่วไป “ฉันเลยต้องมาดูแลคนป่วยเสียงั้น” ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อ เมื่อเขามองเห็นเหงื่อที่ผุดขึ้นมาในซอกหลืบที่ลึกกว่าลำคอ มือหนาสั่นระริก ยามมองเห็นยอดอกสีระเรื่อ หลังปลดกระดุมเสื้อตลอดแนวออกไปจนหมด เปิดเผยผิวเนื้อนวลเนียน ชายหนุ่มลากผืนผ้าช้าๆ กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เมื่อลำคอแห้งเป็นผง เขากระหายน้ำ เหมือนอดน้ำมาแรมปี ริมฝีปากแตกเป็นขุย จนต้องแลบลิ้นออกมาเลีย “อื้อ” เสียงครางดังเบาๆ เมื่อคนหลับถูกกวน เธอยกมือขึ้นปัดไล่บางสิ่งบางอย่างที่มายุ่มย่ามบนร่างกายตนเอง “อยู่เฉยๆ น่า ดิ้นอยู่ได้เดี๋ยวก็ปล้ำเสียเลยนี่” เกอร์เตสบ่น เขารวบมือที่ป้ายปัดไว้ในอุ้งมือ กระซิบดุแนบเรียวปากอิ่ม ก่อนจะกดจูบอย่างมันเขี้ยวจนจรสจันทร์สะดุ้งตื่น กะพริบเปลือกตาถี่ๆ ด้วยความมึนงง ก่อนจะกระถดตัวหนีอย่างตกใจ เมื่อมองเห็นคนแปลกหน้าในห้องนอนของตัวเอง “ชูว์!! ห้ามร้องนะ เดี๋ยวแตกตื่นกันทั้งเหมือง” เกอร์เตส รวบตระครุบลำตัวบางของจรสจันทร์เอาไว้ มือใหญ่กดปิดริมฝีปากอิ่มไว้แน่น เมื่อหญิงสาวตั้งท่าจะกรีดร้อง สาบเสื้อเปิดอ้าโดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ เธอมัวแต่อกสั่นขวัญแขวนที่มีคนอื่นอยู่ในห้องตัวเอง เนินหน้าอกอวบอิ่มไหวยั่วยวน ลอยชูช่อปลุกกระแสเดือดพล่านในกายเกอร์เตสให้ตื่นเตลิด เขาอยากจะหลอมรวมกายแกร่งกับเนินเนื้ออวบอูมที่แน่นหนึบเสียเหลือเกิน “คะ คุณเข้ามาได้ยังไงคะ รสล็อกประตูห้องแล้วนี่นา” จรสจันทร์ถามเสียงตะกุกตะกัก แววตาตื่นตระหนก ปนเปไปกับความหวั่นไหว เมื่อเผลอตัวมองสบกับนัยน์ตาอ่อนเชื่อม ที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนา เกอร์เตสเหลือบมองกองพวงกุญแจข้างเตียงโดยไม่ตอบ เขาหยัดกายเสือกตัวขึ้นนั่งบนเตียงเล็กๆ ของจรสจันทร์ จ้องมองเนินอกอิ่มน้ำลายสอ จนเธอเองเริ่มรู้สึกตัว รีบรวบสาบเสื้อเข้าหากัน “คุณ…” จรสจันทร์อยากจะต่อว่า แต่สถานการณ์ล่อแหลมเกินกว่าจะเอ่ยคำพูดได้ เมื่อพีลานอนอยู่ห้องใกล้ๆ นางอาจจะได้ยินเสียง “เธอไม่สบายตัวร้อน ฉันเลยเช็ดตัวให้” เกอร์เตสยกผ้าในมือชูขึ้นสูง ให้จรสจันทร์เห็น แววตาไหวระริกลุกโชน ประหนึ่งเปลวเพลิงกำลังโหมไหม้จนจรสจันทร์อดไม่ได้ที่จะสะท้านไหว “เสร็จแล้วคุณก็กลับไปซิคะ ใครมาเห็นเข้า คุณจะเสียชื่อไปเปล่าๆ ที่มาเกลือกกลั้วกับคนงานก้นครัวแบบรส” จรสจันทร์ว่ากระทบเธอน้อยใจ เมื่อนึกถึงคำดูแคลนของเรย่า ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่น เมื่อนึกขึ้นได้ เธอเผลอแสดงความไม่พอใจ ปนความหึงหวงให้เกอร์เตสรับรู้ “ยังเลย…เธอตื่นขึ้นมาเสียก่อน” เกอร์เตสกล่าวแก้เสียงแหบพร่าเมื่ออารมณ์หนุ่มคุโชนจนร่างกายแข็งเกร็ง “รสทำเองได้ค่ะ คุณกลับไปเถอะเดี๋ยวพีลาจะได้ยิน” จรสจันทร์กระซิบตอบแผ่วๆ “เธอก็อย่างเสียงดังซิ” เกอร์เตสกระซิบตอบเสียงเคร่ง เขาขยับตัวขึ้นไปเบียดกับจรสจันทร์บนเตียงหน้าด้านๆ “คุณ…” จรสจันทร์ถลึงตาใส่ เธอถูกชายหนุ่มรุกหนัก เขาเบียดกายร้อนผ่าวกับตัวเอง แถมยังฉกปลายจมูกซุกไซ้ซอกคอหน้าด้านๆ รวบกอดเธอดื้อๆ เสียงงึมงำชิดซอกคอหอมกรุ่น ก่อนจะลากปลายลิ้นไล้เลีย “อืม…หอมจัง ใช้แป้งอะไรนะถึงได้หอมชื่นใจแบบนี้” “ปล่อยรสนะคะ” จรสจันทร์ดิ้นรนกระอึกกระอัก ขยับตัวแสนลำบาก เมื่อถูกเบียดอัดจากคนตัวหนัก เสียงกุกกักบนเตียงเล็กๆ ดังขึ้น ชายหนุ่มขมวดคิ้ว สะบัดผ้าห่มผืนโตไปบนพื้นคอนกรีต ก่อนจะช้อนอุ้มจรสจันทร์ขึ้นทั้งตัว เขาก้าวลงจากเตียง เดินไปที่ผืนผ้าที่ตกหล่นบนพื้น โดยที่จรสจันทร์ยังพยายามหนีออกจากอ้อมกอดของเขา เธอต่อว่าเสียงแผ่วๆ และดิ้นรนในอ้อมแขนที่กอดไว้แน่น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD