ห้องประชุม
“วันนี้เป็นวันแรกแห่งการทำงานภายใต้ศิขรินคอมพานีนะคะ เราจะมีการตัดเกรดทุกปลายสัปดาห์ในแต่ละเดือน และในเดือนสุดท้ายจะประเมินกันทุกวันเพื่อกระตุ้นศักยภาพของทุกคนให้เร่งเฉิดฉายเจิดจรัสที่สุดให้เหมาะกับการบรรจุเป็นพนักงานประจำตำแหน่ง Area manager ที่ว่างจะมีเพียงห้าที่เท่านั้นนั่นคือประจำภาคส่วนทั่วประเทศนั่นเอง แต่สำหรับเกรดซีห้าก็ไม่กังวลว่าคุณจะเบียดเอหนึ่งหล่นอันดับไม่ได้นะคะ เราไม่ได้วัดกันที่ยอดขายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่จะวัดกันที่ Performance ส่วนตัวด้วย อย่าคิดว่าสวยๆ เริดๆ ทำยอดนำหน้าเพื่อนคนอื่นแล้วไม่ต้องแคร์ใคร ที่นี่เราพาคุณเข้ามาได้ เราก็ไม่ยี่หระถ้าจะเอาคุณออกได้เหมือนกัน”
นี้เป็นครั้งแรกที่พนักงานเกรดซีห้าจะได้เห็นหนึ่งในความแข่งขันที่เข้มข้นและน่ากลัว พี่ผู้จัดการสาวใหญ่วัยน่าจะเลขสี่ปลายๆ แต่เธอยังคงมีรูปร่างที่ดูดี บุคลิกที่เต็มไปด้วยความเป็นผู้นำกำลังยืนต่อหน้าคนรุ่นๆ และกุมคนสิบกว่าคนได้อย่างไม่ยากเย็น
ทุกคนจดจ่ออยู่ที่สาวใหญ่หน้าโพเดี้ยมจนมิอาจละสายตาได้
“เกรดเอห้า,บีห้าและซีห้ามาทางนี้ด้วยค่ะ” เบญฤดีรีบตามไปยังอีกคนที่ตะโกนเรียก พวกเธอทั้งสามคนถูกรวมโต๊ะนั่งให้รวมกับตัวเต็งเกรดอื่นอีกสองคน
พวกเกรดห้าทั้งหมดจะได้แฟ้มปึกหนาไปศึกษาข้อมูลทั้งหมดของบริษัทภายในเวลาสามวันเป็นการบ้านที่หนักหนาเอาการ และแน่นอนว่าคนที่ไม่มีข้อมูลใดๆ เลยแทบจะจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ทีมแกเป็นไงโบว์” ปิ่นรั้งแขนถามทันทีที่เวลาพักมาถึง
“ทุกคนดูเครียดกันหมดเลย”
“ทีมฉันชิวมาก แม่ทีมเอหนึ่งจ้ะ นางเริด เชิด หยิ่งแบบที่มาไม่ก้มหน้าลงมาสนทนากับใครเลย อีดอก! โคตรน่าตบ” จัสดูไม่ยี่หร่าแม้ปากจะบ่น
ทีมจัสมีแต่ระดับหนึ่งของแต่ละทีมทั้งนั้นจึงรับความกดดันได้อย่างดี
“แล้วแฟ้มที่ได้มาแกมีอะไรบ้าง”
“ครึ่งหนึ่งเป็นประวัติ ส่วนอีกครึ่งเป็นจิวเวอร์รี่ชนิดต่างๆ และคุณสมบัติของมัน”
“ไม่มีที่ว่าช่างเจียมาจากไหน ดีไซเนอร์เป็นใคร ส่งออกนำเข้าจากไหนบ้างหรือหน้าตาผู้บริหารเป็นไงบ้างเหรอ”
“อืม...ไม่เห็นนะ” คนถูกถามทำหน้านึก
โบว์ยังศึกษาข้อมูลได้ไม่ถึงไหนเลยเพราะไม่อยากข้ามจุดใดไปกลัวว่าส่วนนั้นจะสำคัญ
“ที่นี่ก็แปลกนะว่าไหม! ซื้อตัวพวกเรามาจากทุกที่แต่ไม่ยอมให้เราปริปากบอกข้อมูลส่วนตัวกับคนในบริษัท แล้วฉันมีเรื่องจะเม้าท์ ก่อนมาพักเที่ยงเนี้ย คุณบัสมาตามยัยซีหนึ่งจากทีมหายไปเลย”
“เหรอ! เขาว่าคุณบัสเป็นล็อบบี้ยีสต์ใต้ดินไม่มีสังกัด ไม่ว่าใครอยากได้อะไรคุณบัสเขาดีลได้หมดตามที่ต้องการ”
“ล็อบบี้ยีสต์บ้านเราก็ไม่ได้เข้าระบบนี้หน่า มันยังเป็นอาชีพที่บ้านเราไม่เข้าใจหรือยอมรับด้วยซ้ำไป”
“ก็จริง! ว่าแต่แกเถอะโบว์ คนที่ดีลแกคือใคร”
คนถูกถามกำลังนั่งอ่านเอกสารในแฟ้มประวัติอย่างตั้งใจแต่ก็ถูกขัดด้วยเพื่อนช่างจ้อทั้งสองคน
“เราก็ไม่รู้จักอะปิ่น”
“โธ่เอ๊ยนางคนนี้!”
พนักงานเกรดซีห้าถูกเพื่อนบ่นอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่จริงจังอะไร
เบญฤดีต้องพยายามให้มากที่สุดเพื่อผลักดันตัวเองติดหนึ่งในห้าคนเพื่อรับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ เธอต้องทุ่มเทให้หมดหน้าตักเพราะไม่มีอะไรให้เสียอีกต่อไป
“นี้มันอะไรเนี้ย”
...
“ไม่อยากจะเชื่อนี่มัน...!!” หญิงสาวใช้เวลาช่วงบ่ายไปกับอุปกรณ์อันทันสมัยเพื่อศึกษาแฟ้มข้อมูลทั้งหมดที่ตนมี
เบื้องหน้าศิขรินคอมพานีเป็นผู้จำหน่ายจิวเวอร์รี่ทุกชนิด แต่เบื้องหลังกลับมีอะไรที่แปลกประหลาดจนน่าตกใจ
ช่างเจียระไน ดีไซเนอร์ โรงคัดแยกรวมไปถึงที่ดินที่ขุดพบเพชร,พลอย,นิล ถูกศิขรินกว้านซื้อมาครอบครองไว้หมด บริษัทนำเข้าก็ถูกรวบมารวมไว้รวมไปถึงนักเล่นจิวเวอร์รี่ทั้งหลายก็ถูกดึงตัวมาอยู่ภายใต้บริษัทแห่งนี้หมดเลย ไม่ต้องนับให้เมื่อยมือว่ามูลค่าทรัพย์สินจะมีมากมายขนาดไหน
ไม่แปลกที่พวกเซลล์มือดีจากบริษัทต่างๆ ทั้งเล็กหรือใหญ่ก็ถูกซื้อมาไว้ที่นี่เช่นกัน
“ถึงว่า! พลอยหายากหลายชนิดที่ไม่สามารถหาได้อีกแล้วแต่ที่นี่ยังลงคอลเลคชั่นขายเป็นชุดลิมิเดตทุกปี”
“อ่านมาถึงตรงหน้านั้นแล้วเหรอเบญฤดี” สาวใหญ่วัยสี่สิบปลายได้ยินเข้าพอดี
“ค่ะ! อ่านเพลินมากๆ เลยค่ะคุณผู้จัดการ”
“มันอาจมีประโยชน์ในอนาคตนะ อย่ามองข้ามจุดใดไปเลยเชียว”
“รับทราบคะ!”
พนักงานอ่อนวัยหว่าค้อมหัวมองตามสาวใหญ่คนนั้นอย่างชื่นชม เธออยากเก่งแบบหัวหน้าและดูสมาร์ตไม่เหมือนกับผู้จัดการเก่าของเธอ
17.00 น.
“จะรีบไปไหนนางนี้” ปิ่นรั้งแขนโบว์ไว้ได้ทัน
เพราะเย็นนี้มี Meetings ดื่มกินกันเบาๆ พอให้ผู้มิตรกับคนอื่นเป็นพิธี
“เราต้องไปรับลูกสาวที่สถานอนุบาลน่ะทุกคน ไว้พรุ่งนี้เจอกัน”
“ลูก!?”
กฎหนึ่งของที่นี่คือห้ามบอกเรื่องส่วนตัวแก่กันเพื่อป้องกันปัญหาด้านต่างๆ ที่จะตามมา
เป็นคนบ้านไหน เรียนจบจากที่ใด บริษัทเก่าทำอะไร เซลล์ขายด้านใดหรือแม้กระทั่งสถานะภาพของตนเอง และสำหรับสาววัยยี่สิบห้าก็ถือเป็นเรื่องแปลกถ้าจะมีลูกในวัยอนุบาล