สัญญาซื้อขาย(ให้ความยินยอม)
1. ผู้ขายขอให้สัญญาว่าจะไม่บอกเล่า เผยแพร่ ข้อความ รูปภาพหรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผู้ซื้อไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
2. ผู้ขายขอให้สัญญาว่าจะไม่ปฏิเสธคำสั่งใดๆ ต่อผู้ขายทั้งสิ้น
2.1 ทุกคำสั่งเพียงเพื่อสนองความพึงพอใจเท่านั้น
2.2 ทุกคำสั่งจะไม่มีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
2.3 ทุกคำสั่งจะถือเป็นความลับระหว่างผู้ซื้อต่อผู้ขายเท่านั้น
3. หากผู้ซื้อไม่มีคำอนุญาต ผู้ขายไม่มีสิทธิ์กระทำการสิ่งใดตามอำเภอใจทั้งสิ้น
4. เอกสารระบุความยินยอมชุดนี้มีผลตลอดชีวิตของผู้ขายและไม่มีวันหมดอายุ
(...................................)
นางสาว เบญฤดี สุขวัฒนา
“นี้มัน...”
“ก็แค่สัญญาทั่วๆ ไปแหละครับ อย่าไปสนใจมันเลย รีบเซ็นทุกอย่างจะได้จบสักที” ล็อบบี้ยีสต์ทำหน้าระอาเกินทน บัสเบื่อกับงานพวกนี้เหลือเกินแต่ถ้าไม่ทำ ต้องมีคนเสียประโยชน์เขาจึงต้องยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่รังเกียจเสียเต็มประดา
“แล้วเอกสารใบแรกที่โบว์เซ็นไปแล้วล่ะคะคุณบัส”
“ก็ไม่มีผลอะไรครับ”
“แต่ถ้าโบว์...”
“หมายความว่า...นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซ็นสัญญา ใช่มั้ย”
บัสเห็นหญิงสาวฝั่งตรงข้ามนั่งเนื้อตัวสั่นเทา
เธอดูไม่ตกใจกับเนื้อหาของสัญญาแต่ตกใจที่มันเป็นชุดเดิมกับในอดีตที่เคยเซ็น
“เมื่อไร อย่าบอกว่ากับผมเหรอ”
“สามปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้น โบว์ไม่แน่ใจว่าใช่คุณบัสหรือเปล่า” หยดน้ำใสหล่นเผาะจากดวงตากลม เรื่องแบบนี้ติดอยู่ในใจราวกับรอยเปื้อนที่ไม่มีวิธีลบล้างมันออกจากชีวิต
หญิงสาวอายุปีสี่ ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งต้องการเงินมาใช้จ่าย และทางออกเดียวในตอนนั้นของเธอก็คือ ขายเรือนร่างและความบริสุทธิ์ให้กับเศรษฐีที่ต้องการมันสักคน
“ถ้าอย่างนั้นโบว์คงรู้ดีว่าต้องทำยังไง เอกสารนี้ไม่จำเป็นแล้วแหละผมว่า” คนพูดสอดเอกสารใบเดิมกลับเข้าแฟ้มประจำตัวของเบญฤดี ในเมื่อเธอเคยมีประวัติและทำตามมาตลอดสามปี เอกสารนี่ก็ไม่จำเป็นต้องเซ็นซ้ำ
แต่ทว่า...
“แต่ถ้าโบว์ต้องการงาน...” หญิงสาวกระดากอายที่จะพูดเรื่องนั้น แต่ถ้าความจำเป็นมันไม่บังคับ เรื่องน่าอายแบบนี้เธอคงไม่มีวันเอ่ยพูดถึง
“โบว์! คุณไม่สด ไม่ซิงแล้วนะครับ”
“ขอโทษค่ะ” เธอทั้งโกรธทั้งอับอายกับการกระทำของตัวเอง สติสตางค์กระเจิดกระเจิงจนไม่สามารถหยุดน้ำตาได้ พนักงานเกรดซีห้าจึงหลบไปร้องไห้เป็นเผาเต่าในห้องน้ำร่วมสิบนาที
เหมี้ยว...
เจ้าแมวหน้าย่นเนื้อตัวไร้ขนมุดเข้ามาจากทางใดที่หญิงสาวไม่ทันมอง ดวงตาสีเหลืองและฟ้าอย่างละข้าง นัยย์สีดำรียาวดูน่ากลัวจ้องมาที่เธอ
เหมี้ยววว...
เมื่อเธอยื่นมือไปหาเพื่อพยายามลูบหนังย่นๆ ของมัน เจ้าแมวไร้ขนตัวสีขาวเผือกก็ขู่ฟ่อ
เขี้ยวแหลมสองข้างรับกับสีหน้าไร้ความปรานี เจ้าแมวทำท่าจะกัดถ้ามือนั้นหมายจะสัมผัสเนื้อตัวของมัน
“หลงทางมาเหรอ เจ้าเหมียว” เหมือนว่าเจ้าแมวไร้ขนไม่มีปลอกคอ ไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของตัวนั้นจะเข้ามาเตือนสติเบญฤดี เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มลวกๆ และพยายามที่จะทำความรู้จักเจ้าสี่ขาไร้ขนอีกครั้ง
ฟุด...ฟิด...
คราวนี้มันค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาดมมือที่เลอะน้ำตาของโบว์โดยไร้การขู่แยกเขี้ยวแบบทีแรก ปฏิกิริยาของแมวเมื่อไว้ใจแล้วมันก็ยอมให้เธอลูบไล้เนื้อตัวได้
โบว์มีนิสัยอ่อนโยนและชอบแมวเพราะตอนเด็ก คุณป้าของบ้านรับแมวจรมาเลี้ยงร่วมร้อยตัวเธอจึงคุ้นชินกับพวกมัน เพียงแต่แมวสฟิงซ์ชั้นสูงราคาแพงแบบเจ้าตัวนี้หายากมากในชีวิตของเธอ สัตว์เลี้ยงหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวในความคิดของบางคนแบบนี้แต่มันก็ยังมูลค่าสูงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะหาซื้อมาเลี้ยงดู
“ว๊าย..!! ไปเจอที่ไหนคะคุณ”
“ในห้องน้ำค่ะ” โบว์อุ้มเจ้าตัวไร้ขนพาดบ่า
สองขาหน้าของมันห้อยไปด้านหลังคล้ายเด็กเล็กๆ อีกมือก็ลูบไล้ตามลำตัวเพราะแมวทุกตัวชอบให้เกาหลัง
“ฝากอุ้มไว้ก่อนเดี๋ยวพี่ไปเอากรงมาใส่นะ ห้ามปล่อยให้เขาหนีไปได้อีกนะ ไม่งั้นพี่ถูกไล่ออกแน่ๆ”
“แมวพี่เหรอคะ” โบว์เห็นท่าทีลนลานของพนักงานทำความสะอาดเธอจึงเข้าใจได้ว่าเจ้าของอาจจะกลัวที่นพสัตว์เลี้ยงมาที่ทำงานด้วย
ก็แน่นอนว่าที่นี่ไม่อนุญาตให้เอาอะไรแบบนี้เข้ามาด้วย
เหมี้ยวว
ทันทีที่กรงอันใหญ่ถูกยกเข้ามาใกล้ เจ้าแมวไร้ขนก็ขู่ฟ่อ มันไม่อยากเข้าไปอยู่ในกรงและไม่ยอมปล่อยคนอุ้มจึงกางเล็บจิกเสื้อของโบส์ไว้แน่น
ชู่ว....
“ไม่ต้องกลัวนะเจ้าเหมียว”
เหมี้ยววว
ยื้อกันอยู่นานจนเจ้าแมวตัวร้ายนั้นงับนิ้วพนักงานทำความสะอาดไปให้หนึ่งที เต้าตัวร้องลั่น กรี๊ดดด!!
“เกิดอะไรขึ้นห้ะ” ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มเดินตามเสียงโวยวาย
คุณเรวัตร เลขาท่านประทานที่น้อยครั้งจะเดินมาในส่วนของพนักงานทั่วไป
“โดนกัดเหรอ”
“ค คุณเรย์”
“ไปทำแผลซะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“ดิฉันขอโทษนะคะ ได้โปรดอย่าไล่ดิฉันออกเลย” เลือดสีสดอาบนิ้วมือแต่พนักงานคนนั้นกลับกังวลแต่เรื่องงาน เธอพนมมือไหว้แทบจะก้มกราบเอาแต่พูดประโยคเดิมๆ
“เรื่องนั้นไม่ใช่ผมที่สามารถตัดสินใจว่าได้หรือไม่ได้ รีบไปล้างแผลซะ”
“แต่ว่าคุณเรย์...”
“ค่ะ!”
พอพนักงานคนนั้นเดินจากไปอีกทาง สายตาดุดันมองเบญฤดีผ่านกรอบแว่นเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย
“คุณอุ้มเขาได้ยังไง”
“เขา..!? เขาเข้าไปหาโบว์ในห้องน้ำคะ”
“เข้าไปหางั้นเหรอ”
ใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความสงสัยและต้องการคำอธิบายจากคู่สนทนา
เรวัตรมองพนักงานที่เขาไม่รู้จัก เธอกำลังเกาหลังเจ้าแมวของเจ้านาย ทั้งๆ ที่เจ้าของยังแตะตัวมันไม่ได้ด้วยซ้ำ
ดวงตาสีเหลืองและฟ้าอย่างละข้างปรือปรอยเคลิ้มจะหลับบนบ่า แต่เมื่อเรวัตรพยายามจะเข้าใกล้ เจ้าแมวไร้ขนกลับขู่ฟ่อ
“โบว์เคยเจอแบบนี้ตัวหนึ่งค่ะ ชื่อว่าคุณสะอาด ทีแรกเหมือนจะดุนะคะแต่จริงๆ แล้วค่อนข้างขี้อ้อนมากๆ เลย”