#Queen
สถานีตำรวจ...
"จะว่าไง?!" ป้าแก่ๆ คนหนึ่งยืนโวยวายอยู่ภายในโรงพัก
"คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ พอดีผมได้สอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์แล้วได้ความว่าฝั่งลูกสาวคุณแม่เป็นคนเริ่มหาเรื่องก่อนน่ะครับ" ตำรวจหนุ่มพยายามอธิบายให้ฟัง
"เป็นไปไม่ได้ ลูกสาวฉันหน้าเยินขนาดนี้จะต้องเป็นผู้ถูกกระทำเท่านั้น!" ป้าแกยังไม่เชื่อและคิดว่าลูกตัวเองเป็นคนดีที่ถูกกระทำ
ส่วนที่หน้าเยินนั้นเป็นเพราะนังนั่นมันสู้ฉันไม่ได้เอง อยากจะหาเรื่องแต่ดันสู้ไม่เก่ง บ้าบอชะมัด
แปะ แปะ
ฉันที่ตอนแรกนั่งอยู่ถึงกลับลุกขึ้นยืนแล้วปรบมือดังๆ สองทีให้กับความที่เป็นคุณแม่รังแกฉัน ไม่สนอะไร สนอยู่อย่างเดียวว่าลูกตัวเองถูกและเป็นเด็กดีมาตลอด
เฮอะ!
"ทำไมป้าไม่ลืมหูลืมตาบ้าง สักแต่ว่าจะเชื่อลูกทุกคำที่พูดไม่ได้นะป้า" ฉันบอกกับเธอ
"หล่อนปรบมือทำไมยะ ทำลูกฉันหน้าแหกยังไม่สลดอีก!" ยัยป้านั่นขยับมายืนใกล้ฉันมากกว่าเดิม เธอใช้นิ้วชี้ดันที่หน้าผากฉันสุดแรงจนศีรษะเอนไปทางด้านหลัง "เป็นเด็กอย่าริมาเจ๋อกับผู้ใหญ่!"
"ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ใจเย็นๆ" คุณตำรวจปรามถึงการกระทำของยัยป้านั่นแล้วมายืนคั่นกลาง
"เมื่อกี้มีเหตุการณ์อะไรเหรอครับ?" คนมาใหม่พูดแทรกขึ้นแล้วเดินย่างกรายเข้ามายืนข้างฉัน สีหน้าเขาดูเคร่งขรึม "เมื่อกี้คุณป้าทำอะไรเธอครับ"
ผู้ชายที่ถามยัยป้าอยู่นี่เขาชื่อสิปปกรหรือเรียกว่าคุณสิบ กลางวันเป็นท่านประธานแห่งบริษัทยักษ์ใหญ่ ส่วนกลางคืนเป็นพ่อหนุ่มมาเฟียที่เร่เก็บคู่อริหรือคู่แข่งตามพื้นที่สีเทาต่างๆ
ทำไมถึงรู้ขนาดนั้นก็เป็นเพราะว่าฉันอยู่ในความดูแลของเขายังไงล่ะ
"ทำไม ไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร?" ยัยป้าเผยอหน้าถาม ส่วนลูกสาวดีแต่ยืนหลบหลังแม่
ชิ!
ก่อนหน้ายังท้าฉันตบแล้วยกพวกมารุมอยู่เลย ฉันคนเดียวส่วนฝั่งนั้นมีถึงสี่ พอเห็นตำรวจมาหน่อยอีสามคนนั้นก็ทิ้งเพื่อนมันแล้ววิ่งแจ้นหนีหายไปทันที
"ผมถามว่าคุณทำอะไรเธอครับ!" คุณสิบถามเสียงดังอีกครั้ง
คุณตำรวจที่พอเห็นว่าเป็นคุณสิบก็ถอยห่างแล้วยืนดูเงียบๆ
"ฉะ...ฉันไม่ได้ทำสักหน่อย ก็แค่ดุเธอนิดเดียว"
"แต่เผอิญว่าผมเห็นคุณทำแบบนี้กับเธอ" คุณสิบจับมือฉันขึ้นมาก่อนจะนำมันไปทาบอยู่บนหน้าผากของยัยป้าแล้วบังคับมือฉันให้ผลักแรงๆ ก่อนจะปล่อยออก
กรี๊ด!!
เสียงร้องกรี๊ดดังขึ้นจนแสบแก้วหู ยัยป้าหน้าแดงและเนื้อตัวสั่นเทาเพราะโกรธ
"แม่..." นังนั่นดึงแขนแม่ตัวเอง
"เป็นพ่อก็ควรจะสั่งสอนลูกดีๆ ไม่ใช่มาสอนให้ลูกทำกิริยาต่ำตมแบบนี้!" เธอตะคอกใส่คุณสิบเสียงดัง
"ว่ายังไงให้เข้าตัวครับ คุณเป็นคนมาผลักหน้าผากเธอก่อนไม่ใช่รึไง และผมว่ากิริยาดีๆ มันควรจะใช้กับผู้ใหญ่ที่ดีๆ ไม่ใช่ผู้ใหญ่แบบนี้" คุณสิบพูดเฉือนนิ่มๆ แล้วเดินเข้าไปกระซิบกระซาบอะไรกับคุณตำรวจก่อนจะเดินมายืนที่เดิมแล้วใช้แขนแข็งแรงพาดคอฉัน "แล้วอีกอย่างผมไม่ใช่พ่อครับ ผมเป็นสามีเธอ" พูดจบเขาก็กอดคอฉันเดินออกมาทันทีจนถึงที่จอดรถแล้วยกแขนออก
"หนักเป็นบ้า" ฉันพูดพลางจับคอตัวเอง
"..." คนตัวโตกว่ายืนเท้าเอวแล้วจ้องหน้าฉัน สายตาบ่งบอกได้ถึงความเอือมระอา
"อะไร คุณอย่ามามองฉันแบบนั้นนะ"
"เดือนนึงจะมีเรื่องกี่ครั้ง?"
"ฉันไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องก่อนนี่"
"คุณหนูค้า ตายแล้วๆ เจ็บตรงไหนมั้ยคะเนี่ย" อยู่ๆ พี่กิ่งก็วิ่งเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วงแล้วจับตัวฉันหมุนซ้ายหมุนขวาดูว่ามีบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า เมื่อพบว่าไม่มีเธอก็ทำท่าโล่งอกโล่งใจ
พี่กิ่งเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัวที่คอยดูแลฉันมาตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ นับคร่าวๆ ก็ยี่สิบกว่าปีเห็นจะได้ จริงๆ แล้วเธออายุสี่สิบกว่า จะเรียกป้าก็ได้นะแต่ฉันอยากเรียกเธอว่าพี่มากกว่า
"ควีนไม่เป็นอะไรค่ะ ไม่ต้องทำหน้ารู้สึกผิดแบบนั้น"
"พี่กิ่งขอโทษนะคะที่ปล่อยให้คุณหนูออกไปคนเดียว"
"ไม่เห็นต้องขอโทษเลยครับ คนที่ต้องขอโทษคือเด็กดื้อมากกว่า"
"นี่คุณอย่ามาว่าฉันนะ ฉันเบื่อก็เลยออกไปเที่ยวเล่นตามประสามันผิดตรงไหน"
"เธอผิด"
"ไม่ผิด"
"ผิดที่ไม่เชื่อฟัง"
"ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อเชื่อฟังคุณอย่างเดียวนะ"
"ควีน!!"
"คือ..." พี่กิ่งถึงกับไปไม่เป็น เธอรีบมาเขย่าแขนฉันแล้วส่งสายตาประมาณว่าให้ยอมและหยุดเถียงคุณเขา เพราะเธอรู้ดีถ้าขืนเถียงไปมากกว่านี้ฉันคงได้โดนบทลงโทษเป็นการกักบริเวณแน่นอน
"..." ที่เงียบไม่ใช่ว่ากลัวนะ ฉันแค่ไม่อยากให้พี่กิ่งเดือดร้อนไปด้วย
"รบกวนพี่กิ่งขับรถพาควีนกลับไปที่บ้านทีนะครับ เดี๋ยวผมขอไปเคลียร์งานค้างให้เสร็จก่อนแล้วจะกลับไปเคลียร์กับคนดื้อๆ ที่บ้านตามหลัง" คุณสิบส่งกุญแจรถให้พี่กิ่งก่อนจะขึงตาดุใส่ฉันแล้วปลีกตัวเดินออกไปอีกทางที่มีคนขับรถเข้ามาจอดรับพอดี
"หน็อย ถ้าวันไหนควีนคนนี้ได้เป็นใหญ่เมื่อไหร่นะ แม่จะเฉดหัวให้ไปเป็นคนขับรถเลยคอยดู!" ฉันพูดตามหลังเพราะเขาขึ้นรถไปแล้ว
"อันนี้พูดได้เพราะคุณสิบไปแล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคุณเขาอย่าพูดแบบนี้เด็ดขาดนะคะคุณหนู เดี๋ยวจะโดนลงโทษ"
"พี่กิ่ง..."
"คะ..."
"ควีนทำเรื่องขอหย่ากับคุณสิบได้มะ" ฉันล่ะสุดจะทนกับคนบ้าอำนาจ
"ไม่ได้เด็ดขาดเลยค่ะ ถ้าไปเท่ากับว่าคุณหนูจะไม่เหลืออะไรเลยนะคะ แม้แต่ที่นอนปลายเท้าเราก็ไม่มีให้ซุก" พี่กิ่งจับมือฉันแล้วลูบเบาๆ "ผ่านมาหนึ่งปีแล้วยังไม่คิดจะรักคุณสิบอีกเหรอคะ ดูแล้วคุณเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลยนะคะ"
"โหย ใครจะรักไหวคะ ดุขนาดนั้นเหมาะที่จะเป็นพ่อมากกว่าสามีอีก"
ถ้าพ่อแม่และพี่ชายตัวดีไม่หนีไปฉันก็คงจะไม่ต้องมาอยู่กับคุณสิบแบบนี้ สามคนนั้นหนีหายไปโดยที่ไม่เอาฉันไปด้วย พวกเขาใจร้ายมาก อย่างน้อยก็ควรจะเอาฉันไปด้วยสิ