“อ๊า”
ท่ามกลางอุณหภูมิห้องที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศชั้นดีไม่อาจหยุดความเร่าร้อนบนเตียงกว้างที่มีร่างสองร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ได้ในขณะนี้ เสียงหอบหายใจดังคู่มากับเสียงครางอันสุขสม ปลุกเร้าอารมณ์เสน่หาให้ตื่นเพริด หลงใหลรสชาติความเสียวซ่านที่ต่างคนต่างมอบให้กันอย่างเปรมปรีดิ์
“คุณ… ยะ อย่า อื้อ”
หญิงสาวเบือนหน้าหนีริมฝีปากร้อนฉ่าที่พยายามบดจูบอย่างเอาเป็นเอาตาย สองกายแนบชิดเป็นหนึ่งเดียว แรงจุกเสียดปั่นป่วนท้องน้อยจนต้องกัดริมฝีปากเพื่อข่มความทรมานเอาไว้ มองสบตาคนเบื้องบนที่โหมกระหน่ำร่างกายไม่ยั้ง สายตาของเขาร้อนแรงเหลือเกิน เพียงนัยน์ตาสองคู่ประสานมองกัน หัวใจของหญิงสาวใต้อาณัติพลันวูบไหวชอบกล
เธอโอบกอดแผ่นหลังกว้างของเขาพร้อมฝังคมเล็บข่วนลากเป็นทางยาว ระบายความกระสันซ่านผ่านผิวเนื้อเข้ม ปลดปล่อยเรือนร่างไปกับแรงรักบ้าคลั่ง
“อย่าห้ามผม” น้ำเสียงเข้มแหบพร่าทรงอำนาจ ดุจดั่งมัจจุราชที่หมายเอาชีวิต ซึ่งวิธีที่เขาเลือกใช้คือการฆ่าให้ตายทั้งเป็น ทรมานคนใต้ร่างด้วยเพลิงพิศวาส
“ฉัน… อื้อ” ถึงปากอยากบอกว่าไม่ไหวแต่ดูเหมือนเขาไม่ยอมเสียแล้ว เธอจำต้องทนให้เขาสาดความรู้สึกวาบหวามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรี่ยวแรงมหาศาลถูกถ่ายทอดผ่านเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ดังควบคู่มากับเสียงของเตียงไม้ที่เสียดสีกับพื้นกระเบื้อง บ่งบอกถึงความเมามันส์ในสังเวยรัก
“พระเจ้า!” ชายหนุ่มสั่นกระตุกไปทั้งร่าง ผ่อนปรนลมหายใจออกมาช้าๆ
และเมื่อทุกอย่างสงบนิ่ง… เสียงลมหายใจของทั้งคู่ก็ดังสอดคล้องตอบรับกันและกัน อัตราการเต้นของหัวใจกลับคืนสู่สภาวะปกติ
“คุณถึงไหม” เขาเอ่ยถามขณะพลิกร่างนอนตะแคงมองเธอ
แพรพลอยพยักหน้าอ่อนแรง เธอยังปรับลมหายใจได้ไม่เก่งเท่าเขา ยังคงมีเสียงวีดเล็กๆ ดังคลอออกมา
“ผมใจร้อนไปหน่อย ไม่ได้เล้าโลมเท่าไร” แววตาของเขามีความรู้สึกผิดฉายชัด
“ไม่เป็นไรค่ะ” แพรพลอยส่ายหน้ายิ้มๆ เอื้อมมือหยิบกระเป๋าเงินเปิดออกดู สีหน้าหญิงสาวแอบเสียอาการเล็กน้อย
“เอ่อ… คุณรับโอนไหมคะ”
“รับครับ” เขาลุกพรวดพราดเดินไปที่โซฟาทั้งๆ ที่ร่างกายเปลือยเปล่า แพรพลอยรีบหันหน้าหนีภาพวาบหวิว เป่าปากไล่ความร้อนที่พุ่งปรี๊ดเฉียดแก้มใส
“นี่ครับ” เขาส่งมือถือให้เธอดูเลขที่บัญชี ไม่ถึงหนึ่งนาทีเงินสดหนึ่งหมื่นห้าพันบาทก็เข้าไปนอนแอ้งแม้งอยู่ในบัญชีของเขา
“ที่เราตกลงกันไว้แค่หมื่นเดียวไม่ใช่หรือครับ”
ชายหนุ่มค่อนข้างประหลาดใจที่ค่าตอบแทนของเขาได้มากกว่าที่ดีลกันไว้ก่อนหน้านี้
“ฉันให้ทิปค่ะ ปกติไม่เคยให้ใครเท่านี้เลยนะคะ” ทันทีที่
แพรพลอยพูดจบคู่สนทนาก็พรั่งพรูเสียงหัวเราะออกมา
“คุณขำอะไรคะ” หญิงสาวทำหน้าฉงน แอบโกรธนิดๆ ที่เขาหัวเราะคำพูดของเธอ
“คุณพูดเหมือนกับว่าผมไม่ใช่คนแรกที่คุณซื้อ…”
“กิน” แพรพลอยต่อท้ายให้ประโยคนั้นสมบูรณ์ นัยน์ตาหวานซ่อนเปรี้ยวทอประกายความขี้เล่น “ทำไมคะ ถ้าฉันเคยซื้อกินมาแล้วหลายคน คุณจะรังเกียจหรือคะ”
“อาชีพอย่างผมมีสิทธิ์รังเกียจใครด้วยหรือครับ”
แม้วาจาตัดพ้อโชคชะตาแต่ใบหน้าหล่อเหลาไม่คลายความจองหอง เขาเหมือนราชสีห์มากกว่าเสือที่นอนเฝ้าอยู่หน้าถ้ำ รูปร่างหน้าตาภูมิฐานเหมาะแก่การเป็นดารานายแบบ ไม่น่าเชื่อว่าจะเลือกเดินเส้นทางนี้
แต่ก็นั่นแหละ ทางเดินชีวิตของแต่ละคนไม่เท่ากัน ใครจะทำอาชีพอะไรแพรพลอยไม่เคยดูถูกหรือเดียดฉันท์ ขอเพียงอาชีพนั้นเป็นอาชีพสุจริตที่ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นก็พอ
“ถึงผมไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของคุณ แต่ผมก็รู้ว่าคุณร้างลาจากเรื่องอย่างว่ามานานแค่ไหน”
“คุณเจษ” แพรพลอยแทบหยุดหายใจตอนเขาก้มหน้ามาใกล้ๆ ร่องอกงามที่สะท้อนแสงไฟสลัวจากแสงจันทร์ด้านนอก
จุดชนวนให้อยากลิ้มลองอีกสักครา รสชาติหวานติดลิ้นเขายังดื่มด่ำไม่หนำใจ นึกโกรธตัวเองที่รีบร้อนปลดปล่อยจนแทบไม่ได้เล้าโลมลูกค้าหน้าหวานสักเท่าไร
“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าผู้หญิงสวยๆ แบบคุณจะถูกสามีทอดทิ้ง” เจษฏานึกสมเพชผู้ชายหน้าโง่คนนั้น มีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือกลับปล่อยทิ้งอย่างไม่เห็นคุณค่า ละเลยจนตกถึงมือผู้ชายอย่างเขาต้องมารับหน้าที่เจียระไนแทน
“เรื่องส่วนตัวของฉันไม่เกี่ยวกับงานของคุณค่ะ” แพรพลอยตำหนิเสียงขุ่น เบือนหน้าหนีซ่อนความอับอาย
จริงอย่างที่เขาพูด ผู้หญิงสวยๆ ที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ควรถูกทอดทิ้งเหมือนเศษขยะไร้ค่า
“คุณกลับไปได้แล้วค่ะ ฉันจะอยู่พักต่อจนถึงเช้า”
พูดจบก็ล้มตัวนอนหันหลังให้เขาทันที เจษฏากระตุกยิ้มชอบใจท่าทีพยศ เขาควรทำตามคำสั่งของลูกค้าเหมือนทุกครั้งที่เสร็จสิ้นภารกิจ คือสวมเสื้อผ้าแล้วเดินตัวเบาออกจากห้องไปพร้อมกับค่าเหนื่อยแห่งความสุข งานของเขามันก็มีเพียงเท่านี้ แต่ทำไมกับแพรพลอยผู้หญิงหน้าหวานที่เพิ่งหย่าร้างกับสามีกลับทำให้เขาตัดใจทิ้งเธอไว้ที่ห้องหรูหราเพียงลำพังไม่ลง เจษฏามองไปยังเตียงกว้างอีกครั้ง ร่างบางที่ซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่เปรียบดั่งแม่เหล็กที่ดึงดูดให้เขาก้าวเท้าเข้าไปหา
“อุ้ย” แพรพลอยสะดุ้งเมื่อจู่ๆ คนที่เธอคิดว่าออกจากห้องไปแล้วกลับแทรกตัวขึ้นมานอนขนาบข้าง
“คุณเจษ” ดวงตาคู่สวยตื่นตระหนก เจษฏายังคงเปลือยกายเช่นเดิม แผงอกสุดเซ็กซี่เสียดสีแผ่นหลังเนียนนุ่มอย่างจงใจ
“ผมยังไม่อยากกลับ”
เขากระซิบข้างหู ไล้ปลายจมูกโด่งเคล้าคลอต้นคอระหงไม่ห่าง สัมผัสละมุนชวนให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้ม แพรพลอยหลับตาพริ้มไม่ขัดขืน ปล่อยให้เขาบริการความสุขอย่างเต็มที่
“ผมชอบคุณจังเลย”
เขารู้ว่าไม่ควรพูดเช่นนี้ กฏของทางร้านคือห้ามมีใจให้ลูกค้า ซึ่งเจษฏากระทำตามกฏข้อนี้อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เขาไม่เคยมีใจให้ลูกค้าคนไหนต่อให้สวยปานนางฟ้าหรือเซ็กซี่ขยี้ใจเพียงใด ทุกคนที่เข้ามาล้วนแล้วมีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย เขามอบความสุขทางกายและเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจก็ได้รับเงินตอบแทน
แต่นัยน์ตาหวานซึ้งที่แอบซ่อนความโหยหาบางอย่างเอาไว้ของแพรพลอยทำให้เขารู้สึกสนใจ เธอมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เธอมีจริตของความไร้เดียงสาโดยปราศจากการแสแสร้งแกล้งทำ