ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ยัยหนูดี ป่านนี้ยังไม่ลุกไปแต่งเนื้อแต่งตัวอีกนะ”
อื้ออออ
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ฉันควรจะได้นอนครบสิบสองชั่วโมงแต่ก็ต้องเป็นอันจบลง
มารดาอันเป็นที่รักบอกไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเสาร์นี้ต้องออกไปทำกิจกรรมเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า ซึ่งวันนี้จะมีนักข่าวมาถ่ายรูปทำสกูป
เหตุที่บ้านฉันต้องขยันออกข่าวให้ตัวเองเป็นที่รู้จักก็เพราะปีนี้พ่อฉันจะเข้าไปเล่นการเมืองอย่างพ่อของมินตราบ้าง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจที่ทำไว้
“หนูดีไม่ไปแม่ หนูดีไม่ได้ชอบเด็กแถมร้อนก็ร้อน จะบังคับทำไมเนี้ย”
“เราต้องไป ลุก”
“ไม่!”
“ถ้าลูกไม่ลุกแม่จะยึดบัตรเครดิตคืน”
“แม่!”
การลงโทษใดๆ ก็แล้วแต่ไม่ร้ายแรงเท่ายึดบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน
สุดท้าย ฉันต้องยอมไปยืนตากแดดฉีกยิ้มตักไอศกรีมใส่โคนแจกเด็กๆ ทั้งที่หน้ามัน
“หนูดีขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว! มาทักทายคุณป้ากับพี่เขาก่อนสิหนูดี”
“เพื่อ!?”
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งพักขาอันแสนเมื่อยล้าและซับหน้าให้หายมันสายตาฉันเห็นรถตู้สีขาวมาจอดด้านหน้า และคนคุ้นตาสองคนก็ก้าวขาลงจากรถ
นั่นคือไอ้บ้าไคม์มาพร้อมกับป้าของเขา
ฉันไม่รอช้าที่จะลุกหนีทันทีแต่คุณดุจดาวก็เร็วกว่าหลายเท่าตัวนัก
“ชีวาทางนี้”
“สวัสดีครับคุณป้าดุจดาว”
“สวัสดีจ้ะพ่อไคม์ หนูดี! สวัสดีคุณป้าชีวากับพี่เขาสิลูก”
“สวัสดีค่ะ,สวัสดี” ฉันยอมทำตามแต่โดยดีเพราะไม่อยากให้ใครต่อว่าแม่ ว่าสอนลูกให้ไร้มารยาท
ฉันพนมมือไหว้และก้มหัวสองครั้งทักทายสองคนแต่ก็ทำไปงั้นๆ
“หนูดีดูหน้าซีดจังเลย”
“อากาศมันร้อนค่ะคุณป้า”
“ไคม์! ในรถเรามีชุดยาอยู่พาน้องไปนั่งพักในรถ”
“ครับ”
ห้ะ!!!?
ฉันรีบโบกมือส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะไม่อยากเข้าใกล้อีตานี้
“เดินไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพี่อุ้ม”
“ดีเลยไคม์ อุ้มน้องหน่อยเดี๋ยวจะเป็นลมล้มฟาด”
กรี๊ด!
ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองทันทีที่อีตาไคม์อุ้ม
ทำไมแม่ฉันถึงยุส่งอะไรแบบนั้นนะ
ครืด...
“ปล่อยนะไอ้บ้า”
“ต่อหน้าคนอื่นทำไมไม่ร้องแบบนี้ล่ะ”
“ฉันรักษาหน้าผู้ใหญ่หรอกนะ”
“อ้อเหรอ”
คนหน้ามึนวางตัวฉันบนเบาะด้านในแล้วก็นั่งลงข้างๆ อีตาไคม์ปรับเบาะเอนนอนหลับตาไม่สนใจฉัน
“หลบสิ”
“อยากออกก็ข้ามไปสิ”
“ฉันจะข้ามไปยังไงก็นายนอนขวางแบบนี้”
“ข้ามไม่ได้ก็คร่อมสิ ปากดีนักไม่ใช่เหรอ”
“เกี่ยวกันตรงไหน”
“วันนั้นพูดอะไรไว้จำได้ใช่ป่ะ”
“ไอ้บ้าไคม์ กรี๊ด!!!” ฉันเปล่งเสียงกรี๊ดจนสุดคอแต่น่าแปลกที่คนภายนอกกลับไม่มีใครได้ยิน มีแต่ไอ้คนหน้ามึนนั่งอุดหูเพราะเสียงที่มันแหลมเกินเบอร์
“ถ้าไม่แน่อย่างที่ปากพูดก็อย่าท้าทาย”
“นายจะทำไม”
“เดี๋ยวก็งัดออกมาฟาดปากจริงๆ ซะหรอก”
“ก็ลองดู”